28 มี.ค.-น.ท.สุธีรวัฒน์ สุวรรณวัฒน์ ผู้อำนวยการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. เปิดเผยว่า จากกรณีที่สาธารณรัฐอิสลามปากีสถาน ประกาศปิดน่านฟ้าจากสาเหตุของความขัดแย้งระหว่างสาธารณรัฐอินเดีย และสาธารณรัฐอิสลามปากีสถาน ทำให้ส่งผลกระทบต่อเที่ยวบินที่จะเดินทางไปยังสาธารณรัฐอิสลามปากีสถาน และประเทศในแถบยุโรป ซึ่งในส่วนของ ทสภ. มี 2 สายการบินที่ได้รับผลกระทบคือ สายการบินไทย และสายการบิน EVA Air (อีวีเอแอร์) โดยวันที่ 27 ก.พ.62 มีเที่ยวบินที่ต้องบินกลับเข้ามายัง ทสภ. 3 เที่ยวบิน และมีสายการบินขอยกเลิกเที่ยวบิน ระหว่างวันที่ 27-28 ก.พ.62 แบ่งเป็น ขาเข้า 16 เที่ยวบิน และขาออก 20 บิน มีผู้โดยสารได้รับผลกระทบรวมประมาณ 4,900 คน โดยในส่วนของสายการบินอีวีเอแอร์ เบื้องต้นทราบว่าได้บริหารจัดการจนไม่มีผู้โดยสารตกค้างที่ ทสภ.แล้ว


           น.ท.สุธีรวัฒน์ กล่าวต่อว่า ทอท. ได้จัดพื้นที่ให้ผู้โดยสารได้พักรอ รวมทั้งจัดน้ำดื่ม และอาหารว่างไว้คอยดูแลผู้โดยสารที่ได้รับผลกระทบแล้ว รวมทั้งจัดเจ้าหน้าที่คอยอำนวยความสะดวก และให้ข้อมูลผู้โดยสารบริเวณหน้าเคาน์เตอร์เช็คอินของสายการบินไทย ตลอดจนจัดสรรหลุมจอดอากาศยานให้สามารถรองรับ และใช้งานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ อย่างไรก็ตามเหตุการณ์ดังกล่าวไม่ได้เกิดวิกฤติเฉพาะสนามบินในไทยเท่านั้น แต่สนามบินในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ก็ได้รับผลกระทบเช่นกัน




           ด้านนายธีระ บัวศรี ผู้อำนวยการฝ่ายควบคุมการบริการภาคพื้น บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า มีผู้โดยสารการบินไทยที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ดังกล่าวประมาณกว่า 4,000 คน ซึ่งเป็นผู้โดยสารจากเที่ยวบินที่ทำการบินกลับมายัง ทสภ. ประมาณ 800 คน โดยได้ดูแลจัดให้โรงแรมให้พักผ่อนแล้ว และเที่ยวบินไปยุโรปที่การบินไทยยกเลิก 11 จุดบิน รวมทั้งผู้โดยสารที่บินมาจากประเทศต่างๆ และมาต่อเครื่องการบินไทย รวมประมาณ 3,200 คน โดยขณะนี้สามารถบริหารจัดการผู้โดยสารให้ได้เดินทางสู่จุดหมายปลายทางแล้วประมาณ 1,000 คน เหลืออีก 3,000 คนที่กำลังเร่งบริหารจัดการการเดินทางให้ผู้โดยสารได้กลับเรียบร้อย คาดว่าภายใน 3 วันจะไม่เหลือผู้โดยสารตกค้าง


           นายธีระ กล่าวต่อว่า สำหรับวิธีการบริหารจัดการผู้โดยสาร จะใช้วิธีประสานกับสายการบินพันธมิตร เพื่อตรวจสอบว่าสายการบินใดมีเที่ยวบินที่สามารถเดินทางไปยุโรป และยังมีที่นั่งว่างอยู่บ้าง เพื่อส่งต่อผู้โดยสารไปยังสายการบินอื่น เช่น บางสายการบินมีที่นั่งว่างในเที่ยวบิน กรุงเทพฯ-สิงคโปร์ ก็จะส่งให้ผู้โดยสารไปลงสิงคโปร์ และต่อเครื่องจากสิงคโปร์ไปยังแฟรงเฟริต์ ประเทศเยอรมัน หรือ กรุงเทพฯ-เชียงใหม่ จากนั้นก็จะส่งต่อ เชียงใหม่-โดฮา และจบที่โดฮา-แฟรงเฟิร์ต เป็นต้น ซึ่งต้องใช้วิธีนี้เพราะยอมรับว่าเที่ยวบินปกติของสายการบินต่างๆ ที่บินตรงไปยุโรปในเวลานี้จะเต็มทุกที่นั่ง


           นายธีระ กล่าวว่า ขณะนี้บริษัท การบินไทยฯ ได้จัดเตรียมเที่ยวบินพิเศษไว้แล้ว 3 จุดบิน ประกอบด้วย ทีจี 916 เส้นทาง กรุงเทพฯ-ลอนดอน(อังกฤษ), ทีจี 9749 กรุงเทพฯ-มอสโก(รัสเซีย) และทีจี 9269 กรุงเทพฯ-แฟรงเฟิร์ต (เยอรมัน) ซึ่งเส้นทางเหล่านี้เป็นเส้นทางเดิมที่เมื่อวันที่ 27 ก.พ.ที่ผ่านมา ได้ทำการบินขึ้นไปแล้วแต่ต้องกลับมาลงที่ ทสภ. อย่างไรก็ตามเวลานี้คงต้องรอประกาศนักบิน (NOTAM) จากปากีสถาน เพราะได้รับแจ้งเบื้องต้นว่าปากีสถานจะเปิดน่านฟ้าตั้งแต่เวลา 05.00 น. ของวันที่ 1 มี.ค.62 ซึ่งเมื่อเปิดแล้วการบินไทยก็จะสามารถทำการบินได้ทันที โดย ทีจี 916 จะออกเดินทางจาก ทสภ. ประมาณ 06.00 น. ส่วนทีจี 9749 และทีจี 9269 จะออกเดินทางจาก ทสภ. ประมาณ 12.30 น. คาดว่าทั้ง 3 เที่ยวบินนี้จะสามารถบรรทุกผู้โดยสารได้ประมาณ 1,000 คน

 

ขอบคุณข้อมูลจาก  www.thaipost.net