เมียนมา – กัมพูชา 2 ประเทศดาวรุ่งตลาดใหม่ที่น่าลงทุนธุรกิจอสังหาฯ
กลุ่มประเทศซีแอลเอ็มวี (CLMV) 4 ประเทศ ที่ประกอบด้วย กัมพูชา ,สปป.ลาว, เวียดนาม และเมียนมา ถือเป็นตลาดที่มีศักยภาพการเติบโตสูง โดยเฉพาะกัมพูชา-เมียนมา 2 ประเทศตลาดเกิดใหม่ที่น่าจับตามอง เป็นประเทศที่กำลังเติบโตแบบก้าวกระโดด จากนโยบายการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ด้านการลงทุนที่เปิดกว้าง ซึ่งถือเป็นโอกาสสำคัญทางธุรกิจอสังหาฯของไทยที่จะเข้าไปบุกตลาดนี้
นายคาร์โล เอเดรียน โพเบร รองกรรมการผู้จัดการ คอลลิเออร์ อินเตอร์เนชั่นแนล เมียนมา บอกว่า ปัจจุบันรัฐบาลเมียนมามีการพัฒนาเศรษฐกิจอยู่ในช่วงขาขึ้น ในปีที่ผ่านมามีอัตราการเติบโตอยู่ที่ 6.8% ภาวะว่างงานที่อยู่ในระดับต่ำ เงินเฟ้อคงที่ สอดรับกับประชากรในประเทศที่ส่วนใหญ่อยู่ในวัยแรงงาน ทำให้ภาคธุรกิจการผลิตและอสังหาฯกำลังเติบโตได้ดีในเมียนมา มีอัตราการเติบโตเฉลี่ย 7.2% ต่อปี และคาดว่าจะเติบโตเพิ่มเป็น 10.37% ในปี 2563 และคาดว่าจะมีมูลค่าอยู่ที่ 13.5 พันล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
โดยธุรกิจอาคารสำนักงานให้เช่า ที่ช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ในย่างกุ้งมีอยู่ราว 356,089 ตร.ม. และมีอัตราดูดซับที่ 27,800 ตร.ม. แต่ก็ยังไม่เพียงพอต่อความต้องการเพิ่มเติมระหว่างปีที่มีอยู่ถึง 31,814 ตร.ม. ทำให้อาคารสำนักงานให้เช่าในเมียนมาขาดแคลน ส่งผลต่อค่าเช่าเฉลี่ยของอาคารสำนักงานชั้นนำของย่างกุ้งอยู่ที่ 41 ดอลลาร์สหรัฐต่อตารางเมตร ซึ่งถือว่าสูงมากเมื่อเทียบกับอาคารสำนักงานให้เช่าเกรดเอของไทย
ส่วนภาคที่อยู่อาศัยอย่างคอนโดฯหรือเซอร์วิสอพาร์ทเม้นท์ ที่ย่างกุ้ง จะมีความแตกต่างกันแค่นิดเดียว โดยแยกว่าคอนโดฯจะมีลิฟท์โดยสาร ส่วนเซอร์วิสอพาร์ทเม้นท์จะไม่มีลิฟท์ แต่เรื่องราคาต้องบอกว่าแตกต่างกับไทยอย่างสิ้นเชิง ด้วยปริมาณคอนโดฯ และเซอร์วิสอพาร์ทเม้นท์ในย่างกุ้งยังมีจำนวนน้อยกว่าความต้องการ ทำให้ราคาทั้งซื้อและเช่ามีราคาสูงมาก
โดยพบว่าคนที่นี่ชอบอาศัยอยู่ในเซอร์วิสอพาร์ทเม้นท์ ระดับกลางที่ไม่จำเป็นต้องหรูหรามากนัก แต่จะเน้นไปที่ขนาดห้อง 1-2 ห้องนอน ที่มีขนาดใหญ่รองรับการอยู่อาศัยได้ โดยที่ผ่านมาค่าเช่าจะเฉลี่ยอยู่ที่ 3,500-4,500 ดอลลาร์สหรัฐต่อเดือน และค่าเช่า Studio ราคาต่ำสุดที่ 2,000 ดอลลาร์สหรัฐต่อเดือน ซึ่งผู้เช่าส่วนใหญ่ก็จะเป็นกลุ่ม Expat หรือนักลงทุนที่เข้ามาทำงานในเมียนมา
ส่วนคอนโดฯในย่างกุ้ง ในปีที่ผ่านมามีปริมาณคอนโดฯทั้งหมดอยู่ที่ 6,673 ยูนิตโครงการยังมีความต้องการเพิ่มเติมระหว่างปีที่มีอยู่ถึง 1,765 ยูนิต แต่มีเปิดขายใหม่เพียง 491 ยูนิต โดยเซกเม้นท์คอนโดฯที่ได้รับความนิยมในย่างกุ้ง จะอยู่ระดับ Upper-mid ราคาราวๆ 245,371 Usd เฉลี่ย1,639 Usd/Sq.m. และ High-end ราคาราว 484,414 Usd เฉลี่ย 3,022 Usd/Sq.m.
ขณะที่ธุรกิจโรงแรมในย่างกุ้ง ปัจจุบันก็มีโรงแรมชั้นนำระดับ 4-5 ดาวเปิดให้บริการ อาทิ Rosewood Yangon, Okura,Sheraton,Yoma Central ซึ่งโรงแรมเหล่านี้จะรองรับทั้งนักท่องเที่ยว และนักธุรกิจที่เข้ามาในย่างกุ้ง 1-3 วันเพื่อติดต่อธุรกิจ รวมถึงท่องเที่ยว ซึ่งมองว่าโรงแรมที่มีอยู่เดิม เพียงพอต่อความต้องการของลูกค้า และยังไม่จำเป็นต้องขยายเพิ่มเติม
จะเห็นว่าในเมียนมา มีโอกาสการลงทุนในธุรกิจอสังหาฯระดับกลางได้หลายประเภท โดยเฉพาะที่อยู่อาศัยและอาคารสำนักงานที่ยังมีความต้องการสูงตามการพัฒนาประเทศที่กำลังเดินหน้า เป็นโอกาสสำคัญของนักลงทุนชาวไทยที่จะเข้าลงทุน พัฒนาธุรกิจในเมียนมา และขยายตลาดนำสินค้าไปเปิดตลาดใหม่ นอกจากนี้ยังสามารถขยายการลงทุนอสังหาฯในไทยจับกลุ่ม นักธุรกิจ คนมีระดับ รวมถึงนักลงทุนชาวเมียนมาที่เดินทางเข้ามาเรียนต่อ ทำธุรกิจในไทย
กัมพูชา ตลาดใหม่ที่น่าลงทุนในอสังหาฯ
ด้านการลงทุนในกัมพูชา คุณเชีย คิน ซีอีโอ ธุรกิจโมเดิร์นเทรดค้าวัสดุก่อสร้าง เฮง เอเชีย ประเทศกัมพูชา กล่าว ถึงทิศทางความน่าสนใจว่า ปัจจุบันเศรษฐกิจและการเติบโตของกัมพูชา มีอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยคาดว่าในปี 2562 จีดีพีของกัมพูชา จะมีการขยายตัวกว่า 6.8% ซึ่งอุตสาหกรรมก่อสร้างมีการขยายตัวค่อนข้างสูง โดยมีมูลค่าการก่อสร้างโครงการต่างๆเพิ่มขึ้นกว่า 22% หรือประมาณ 6,400 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
เห็นได้จากโครงการก่อสร้างที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ทั้งห้างสรรสินค้า อาทิ อิออน มอลล์ สาขา 2-3 แม็คโคร และโกลบอลเฮ้าส์ พนมเปญ และยังมีโรงแรมชั้นนำหลายแบรนด์ ร้านอาหาร ต่างก็เข้ามาเปิดสาขาจำนวนมาก ส่วนอาคารสำนักงาน ปัจจุบันเกิดการร่วมทุนกับบริษัทจากจีน ญี่ปุ่น เกิดเป็นโครงการลงทุนต่างๆมากมาย ทั้ง Lion City ,Diamond Island, One Park, China investor – R&F city,Chip Mong Land Local investor,Orkide villa
ซึ่งการที่กัมพูชาเติบโตได้อย่างรวดเร็วนี้ ส่วนหนึ่งเกิดจากโครงการ One belt one road ทำให้เกิดการพัฒนาทั้งระบบคมนาคม ที่เชื่อมต่อกับประเทศต่างๆ ในภูมิภาค และยังมีการพัฒนาท่าเรือ สนามบิน รวมถึงการค้าเสรีของกัมพูชา ที่สามารถใช้เงินได้หลายสกุล มีสถาบันถึง 38 บริษัท และไมโครไฟแนนซ์ 67 บริษัท ด้วยความหลากหลายของการพัฒนาและประชาชนที่มีความหลายหลายของภาษา ทำให้กัมพูชามีการพัฒนาได้อย่างรวดเร็ว
ด้วยความน่าสนใจของกัมพูชาและเมียนมาที่เป็นประเทศตลาดเกิดใหม่ที่น่าจับตามอง ดดยเฉพาะผู้ประกอบการไทย ที่จะเข้าเปิดตลาดล่าสุด บริษัท ไอซีเว็กซ์ จำกัด บริษัทในเครือ บริษัท อินเด็กซ์ ครีเอทีพ วิลเลจ จำกัด (มหาชน) ได้ร่วมมือกับ บริษัท พร็อพทูมอร์โรว์ จำกัด ร่วมกันจัดงาน “Cambodai Architect & Decor 2019” ครั้งที่ 14 ณ ไดมอน ไอแลนด์ เอ็กซิบิชั่น แอนด์ คอนเวนชั่น เซ็นเตอร์ กรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชา ระหว่างวันที่ 6-8 มิถุนายน 2562 ส่วนในประเทศเมียนมา เป็นการจัดครั้งที่ 6 ภายใต้ชื่องาน”Myanmar Build & Decor 2019” ณ เมียนมา เอ็กโป เมืองย่างกุ้ง ประเทศเมียนมา ระหว่างวันที่ 3-5 ตุลาคม นี้
โดยในงานนี้จะเป็นงานแสดงสินค้าที่เจาะลึกการออกแบบ ตกแต่ง และดีไซน์ ซึ่งผู้ประกอบการไทยจะได้โชว์นวัตกรรมใหม่ล่าสุด นำสินค้าของไทยออกไปขยายตลาด เพื่อจับคู่ธุรกิจตอบรับความต้องการสินค้าไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคที่เน้นคุณภาพ รุกอุตสาหกรรมก่อสร้างในกัมพูชา และเมียนมา และยังมีการนำโครงการอสังหาฯของไทยที่มีการพัฒนา ทั้งรูปแบบโครงการ สิ่งอำนวยความสะดวกที่หรูหรา ทันสมัย รวมทั้งระบบสาธารณูปโภค จึงเป็นที่น่าจับตามองของนักลงทุนเพื่อนบ้าน โดยในงานจะมีการจัด Prop2morrow Pavilion แสดงโครงการอสังหาฯชั้นนำของไทย เพื่อจับกลุ่มนักลงทุนที่ต้องการลงทุนที่มีกำลังซื้อสูง ให้เข้ามาซื้ออสังหาฯไทยและสร้างยอดขายได้มากขึ้น
สำหรับการจัดงานในครั้งนี้บริษัทตั้งเป้าหมายการจัดงานในประเทศกัมพูชา คาดว่าจะมีบริษัทร่วมออกบูธ ประมาณ 100 บริษัท ซึ่งจะมีมูลค่าที่เกิดขึ้นภายในงานประมา 150 ล้านบาท และคาดว่าจะมีผู้เข้าชมงานที่ประมาณ 4,500-5,000 คน ส่วนเป้าหมายการจัดงานในประเทศพม่า คาดว่าจะมีมูลค่าที่เกิดขึ้นภายในงานประมาณ 200 ล้านบาท มีบริษัทที่ร่วมออกบูธ ประมาณ 70 แบรนด์ และความว่าจะมีจำนวนผู้เข้าชมงานประมาณ 5,000-5,500 คน