ซันเคียว โฮม (ไทยแลนด์) จับมือ ยักษ์อสังหาฯ ญี่ปุ่น “เคฮัง เรียลเอสเตท” ต่อเนื่อง ปั้นคอนโดหรู ร่วมทุนในไทยโครงการที่ 2 “SYMYS Sukhumvit 61” มูลค่าโครงการกว่า 1,200 ล้านบาท หวังช่วยส่งมอบมาตรฐานและโนว์ฮาวญี่ปุ่นให้ผู้บริโภคในไทย ชูจุดขาย “The Hidden Gem” ความเป็นส่วนตัวท่ามกลางทองหล่อ-เอกมัย พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกครบครันมากถึง 4 ชั้น ตอบโจทย์สมดุลแห่งการใช้ชีวิต เปิดพรีเซล 3-4 สิงหาคมนี้ ในราคาเริ่มต้น 7.5 ล้านบาท มองโอกาสพัฒนาโครงการใหม่ร่วมกันต่อเนื่อง

          นางโสภิดา โองาวะ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซันเคียว โฮม (ไทยแลนด์) จำกัด เปิดเผยว่า เนื่องจากมีโอกาสได้แต่งงานกับผู้ก่อตั้ง บริษัท ซันเคียว โฮม ประเทศญี่ปุ่น หนึ่งในผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำในแถบคันไซ ประเทศญี่ปุ่น และใช้ชีวิตอยู่ที่ญี่ปุ่นมาเกือบ 30 ปี จึงทำให้ได้เห็นมาตรฐานและโนว์ฮาวที่ยอดเยี่ยมของการพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยสไตล์ญี่ปุ่นหลายเรื่อง และกลายเป็นแรงบันดาลใจให้ต้องการส่งมอบมาตรฐานและ  โนว์ฮาวคุณภาพเหล่านี้ให้แก่คนไทย จึงได้ก่อตั้ง บริษัท ซันเคียว โฮม (ไทยแลนด์) จำกัด ขึ้น เป็นบริษัทสัญชาติไทย 100% โดยใช้โนว์ฮาวจากซันเคียว โฮม ประเทศญี่ปุ่น และพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียมหลากหลายเซ็กเมนท์ในพื้นที่สุขุมวิทมาอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่ปี 2558

          ล่าสุด บริษัทกำลังจะเดินหน้าพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียมโครงการที่ 3 และเป็นโครงการร่วมทุนโครงการที่ 2 กับ บริษัท เคฮัง เรียลเอสเตท จำกัด บริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ภายใต้ เคฮัง กรุ๊ป ที่มีประวัติมายาวนานกว่า 100 ปี เจ้าของรถไฟฟ้าสายเคฮังเชื่อมโยงโอซาก้า-เกียวโต และอีกหลากหลายธุรกิจในแถบคันไซ โดยใช้ชื่อโครงการซิมมิส สุขุมวิท 61 (SYMYS Sukhumvit 61) เป็นโครงการคอนโดมิเนียมระดับลักชัวรี่ 7 ชั้น มูลค่าโครงการกว่า 1,200 ล้านบาท ในทำเลศักยภาพอย่างทองหล่อ-เอกมั

          “เราและเคฮัง เรียลเอสเตท ต่างมีวิสัยทัศน์ร่วมกันในการส่งมอบมาตรฐานและโนว์ฮาวการพัฒนาที่อยู่อาศัย    แบบญี่ปุ่นให้แก่ผู้บริโภคชาวไทย จึงตัดสินใจร่วมทุนกันเป็นโครงการที่ 2 โดยเราได้คัดสรรโนว์ฮาวที่เหมาะสม     มาประยุกต์และต่อยอดให้เหมาะกับความต้องการของคนไทย” นางโสภิดา กล่าว

          ด้านนาย โยชิฮิโกะ มาเอดะ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เคฮัง เรียลเอสเตท จำกัด กล่าวว่า เพื่อการเจริญเติบโตอย่างยั่งยืน เคฮัง กรุ๊ป ได้ให้ความสำคัญกับการขยายธุรกิจออกสู่ตลาดต่างประเทศ โดยเฉพาะในตลาดศักยภาพแถบเอเชีย โดยวางเป้าหมายมูลค่าสินทรัพย์ในต่างประเทศ (Overseas Asset Size) ณ ปี 2570 ที่ 50,000 ล้านเยน (ราว 14,232 ล้านบาท) ปัจจุบัน บริษัท เคฮัง เรียลเอสเตท ถือเป็นฟันเฟืองสำคัญในการเดินหน้าการลงทุนของ เคฮัง กรุ๊ป ในต่างประเทศ มีมูลค่าการลงทุนธุรกิจในต่างประเทศทั้งหมดกว่า 3,300 ล้านเยน (ราว 942 ล้านบาท) อาทิ โครงการที่อยู่อาศัยในไทยภายใต้การร่วมทุนกับพันธมิตรอย่าง บริษัท ซันเคียว โฮม (ไทยแลนด์) จำกัด และโครงการกอล์ฟวิลล่าในกรุงจาการ์ตา อินโดนีเซีย

          “ประเทศไทยถือเป็นประเทศที่มีปัจจัยต่างๆ โดดเด่นมากที่สุดประเทศหนึ่งในอาเซียน มีความชอบ วัฒนธรรมคล้ายคลึงกับคนญี่ปุ่น มีการลงทุนสะสมจากบริษัทญี่ปุ่นจำนวนมหาศาล เราเองยังเป็นพันธมิตรพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยคุณภาพร่วมกับ บริษัท ซันเคียว โฮม ในประเทศญี่ปุ่น มาอย่างยาวนาน จึงมั่นใจในการร่วมทุนกับ บริษัท ซันเคียว โฮม (ไทยแลนด์) ซึ่งมีโนว์ฮาวและวิสัยทัศน์คล้ายคลึงกัน เพื่อนำจุดเด่นเรื่องความใส่ใจ ความปราณีต โนว์ฮาว และมาตรฐานระดับพรีเมียมสไตล์ญี่ปุ่น มาเติมเต็มความฝันและความหวังในการมีที่อยู่อาศัยคุณภาพของคนไทย” นายโยชิฮิโกะ กล่าว

          ด้านนายวรวิทย์ แซ่หลี ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัท ซันเคียวโฮม (ไทยแลนด์) จำกัด กล่าวว่า โครงการซิมมิส สุขุมวิท 61 ตั้งอยู่ในซอยสุขุมวิท 61 ซึ่งเป็นซอยที่สงบและเป็นส่วนตัว ได้เป็นซอยตัวอย่างชุมชนน่าอยู่ของ กทม. ท่ามกลางทำเลทองหล่อ-เอกมัย แต่ยังสามารถเดินทางไปยังแหล่งไลฟ์สไตล์ ร้านอาหาร ศูนย์การค้า เส้นทางคมนาคมหลักต่างๆ ได้โดยง่าย และยังอยู่ใกล้รถไฟฟ้าเปรียบเสมือนเพชรที่ถูกซ่อนไว้หรือ The Hidden Gem ของพื้นที่ การออกแบบภายในอาคาร จึงออกแบบและตกแต่งให้คล้ายคลึงกับเพชรที่ถูกเจียระไนอันเป็นเอกลักษณ์และน่าจดจำ

          “ชื่อแบรนด์ SYMYS มีรากศัพท์มาจากคำว่า Symmetry ซึ่งหมายถึงความสมดุล เราต้องการให้ SYMYS เป็นที่อยู่อาศัยที่ตอบโจทย์ความสมดุลของการใช้ชีวิต ที่มุมหนึ่งอาจจะเป็นผู้บริหารระดับสูงคุมลูกน้องทีมใหญ่ ต้องออกงานสังคม แต่ก็มีไลฟ์สไตล์ในการพักผ่อนแบบที่เป็นตัวเอง ต้องการความเป็นส่วนตัวสูงสุด ภายในโครงการจึงมี   สิ่งอำนวยความสะดวกขนาดใหญ่ ชั้น รวมกว่า 20 รายการ เพื่อรองรับความต้องการของผู้บริโภคกลุ่มนี้” นายวรวิทย์ กล่าว

          โครงการซิมมิส สุขุมวิท 61 (SYMYS Sukhumvit 61) ตั้งอยู่บนพื้นที่ขนาดประมาณ ไร่ งาน 53.2 ตารางวา ในซอยสุขุมวิท 61 ออกแบบภายใต้คอนเซ็ปต์ Timeless Identity in Symmetry ประกอบด้วยอาคารสูง ชั้น1 อาคาร ยูนิตพักอาศัยแบบ 1-2 ห้องนอน ขนาด 33-88 ตร.ม. รวมจำนวน 109 ยูนิต มีชั้นใต้ดิน 3 ชั้นสำหรับที่จอดรถระบบ Auto Parking แบรนด์คุณภาพจากญี่ปุ่นกว่า 120 ช่องจอด หรือราว 113% ของจำนวนยูนิตพักอาศัย มีสิ่งอำนวยความสะดวกหลากหลาย อาทิ The Courtyard, Private Gym, The State of Art Library, Community Space, Meeting Lounge, Private Meeting Room, Residence Living Area, Chef table Aare, Game Room, Private Spa & Massage, Private Salon, SYMYS Private Lounge, Infinity Swimming Pool, Jacuzzi และภายในห้องพักยังเลือกวัสดุคุณภาพสูง เช่น อุปกรณ์ชุดครัวแบรนด์ คุปเปอร์สบุช (Kuppersbusch) และชุดห้องน้ำที่ตกแต่งอย่างประณีต โดยเลือกใช้สุขภัณฑ์รุ่นท็อปของแบรนด์โตโต้ (TOTO) และที่สำคัญปัจจุบันได้รับการอนุมัติรายงานประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) เรียบร้อยแล้ว 

          ยูนิตพักอาศัยประเภท ห้องนอน ราคาเริ่มต้นที่ 7.5 ล้านบาท หรือราคาเฉลี่ย 220,000-240,000 แสนบาท/ตร.ม. โดยจะเปิดพรีเซลในวันที่ 3-4 สิงหาคม 2562 เวลา 10.00-19.00 น. ที่สำนักงานขายบริเวณตรงข้ามซอยทองหล่อ 23 ผู้สนใจสามารถลงทะเบียนล่วงหน้าที่ www.symyscondo.com หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมโทร 099-282-2147

          สำหรับ บริษัท ซันเคียว โฮม (ไทยแลนด์) จำกัด พัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยมาแล้ว โครงการ มูลค่าโครงการรวมเกือบ 4,000 ล้านบาท ประกอบด้วย 1.โครงการคอนโดมิเนียม Moniiq Sukhumvit 64มูลค่าโครงการประมาณ 954 ล้านบาท ปัจจุบันสามารถปิดการขายและรับรู้รายได้ 100% 2.โครงการร่วมทุนโครงการแรกกับ เคฮัง เรียลเอสเตท The FINE Bangkok ทองหล่อ-เอกมัย มูลค่าโครงการประมาณ 1,680 ล้านบาท เปิดขายเมื่อกลางปี 2561 ปัจจุบันปิดการขายได้ 80% และ 3. โครงการร่วมทุน SYMYS Sukhumvit 61 มูลค่าโครงการประมาณ 1,200 ล้านบาท ในอนาคตตั้งเป้าจะพัฒนาโครงการอย่างต่อเนื่องปีละ 1-2 โครงการ โดยใช้แบรนด์ทั้ง   3 แบรนด์เจาะตลาดเซ็กเมนท์ต่างๆ และยังเปิดโอกาสในการร่วมทุนกับ บริษัท เคฮัง เรียลเอสเตท จำกัด อย่างต่อเนื่อง

          สำหรับ เคฮัง กรุ๊ป หรือ บริษัท เคฮัง โฮลดิ้งส์ จำกัด ประกอบด้วยบริษัทย่อยกว่า 50 บริษัทในการดำเนิน กลุ่มธุรกิจหลัก ได้แก่ 1.ธุรกิจด้านคมนาคม เช่น รถไฟฟ้าสายเคฮัง เชื่อมโยงโอซาก้า-เกียวโต2.ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ 3.ธุรกิจค้าปลีก 4.ธุรกิจโรงแรมและการพักผ่อน ล่าสุด ปีงบการเงิน 2561 (เม.ย.2561-มี.ค.2562) มีรายได้รวมทั้งเครืออยู่ที่ 3.26 แสนล้านเยน หรือราว 9.3 หมื่นล้านบาท

ขอบคุณข้อมูลจาก