มองไปทางไหนตอนนี้ก็เจอแต่คอนโด สร้างขึ้นราวกับดอกเห็ด แถมราคาก็ไม่แพงซะด้วย ถ้าเทียบกับต้องเช่าห้อง เช่าหออยู่ และถ้าอยากจะมีคอนโดกับเค้าสักห้องจะต้องทำยังไงวันนี้ มีเคล็ดลับดีๆ มาฝากกันค่ะ เพื่อการขอ สินเชื่อซื้อคอนโด จะได้ไม่มีสะดุด

1.สำรวจรายได้ – รายจ่ายของตัวเอง

ลองสำรวจตัวเองดูว่าเราเหมาะกับคอนโดราคาประมาณไหน ถึงจะสามารถผ่อนชำระได้แบบสบายๆ เพราะถ้ามีค่าใช้จ่ายอย่างอื่นร่วมด้วย เช่น ผ่อนรถ บัตรเครดิต และซื้อคอนโดที่เกินความสามารถในการผ่อนชำระ ก็จะทำให้ในอนาคตไม่ปลอดภัยในการบริหารจัดการได้ ไม่ว่าจะกู้คนเดียวหรือกู้ร่วมควรคิดและไตร่ตรองอย่างรอบครอบเพราะเป็นการผ่อนชำระในระยะยาว

2.จัดการหนี้สินให้หมด 

ก่อนที่จะเข้าไปขอกู้สินเชื่อในระยะเวลาช่วง 3-6 เดือน ไม่ควรมีผ่อนสินค้าอะไร เพราะทางธนาคารจะต้องส่งตรวจเครดิตบูโร ดังนั้นควรเคลียร์หนี้สินให้หมดสิ้น อย่างไรก็ตามไม่ควรเคลียร์ใกล้ๆ วันที่จะกู้เพราะประวัติอาจไม่อัปเดตว่าเคลียร์หนี้หมดแล้ว

3.ควรมีเงินติดในสมุดบัญชีธนาคาร

ในช่วงที่จะขอกู้สินเชื่อ 3 – 6 เดือน ควรให้มีเงินคงเหลือติดบัญชี ซึ่งไม่ควรกดเงินออกมาทั้งหมด 100% ทันทีที่เงินเดือนออก เพื่อเป็นการสร้างประวัติทางการเงินให้ดูมีความมั่นคงมากยิ่งขึ้น แม้ว่าจะเป็นพนักงานประจำ ที่มองว่ามีโอกาสได้รับการอนุมัติสูงก็ตาม

4.มีเงินเก็บอย่างน้อย 20 – 40% เช่น

ในกรณีที่กู้ได้ไม่เต็มวงเงิน จะได้มีเงินไว้จ่ายส่วนต่าง หรือค่าใช้จ่ายอื่นๆ ที่นอกเหนือจากราคาคอนโด เช่น

  • ค่าใช้จ่ายในวันโอนกรรมสิทธิ์ ที่ทางผู้ซื้อบ้าน-คอนโดฯ ต้องเป็นผู้ชำระ
  • มีเงินดาวน์ ขั้นต่ำไม่น้อยกว่า 10% ของราคาซื้อขาย
  • เงินค่าจองก็ต้องจ่าย เพื่อยืนยันว่าจะซื้อจริง ซึ่งส่วนใหญ่จะอยู่ใน 20,000 – 50,000บาท
  • เงินค่าทำสัญญามีทั้งหลักหมื่นและหลักแสน
  • ค่าประเมินราคา เฉลี่ยอยู่ที่ 2,000-3,000 บาท ต่อการประเมิน 1 ครั้ง ยิ่งยื่นกู้หลายธนาคารก็ต้องอาจต้องจ่ายเยอะหน่อย
  • ค่าจดจำนอง จ่ายในวันโอนกรรมสิทธิ์ อัตราปกติคิด 1% ของมูลค่าที่จดจำนอง
  • ค่าส่วนกลาง คิดตามขนาดพื้นที่ห้องชุด ตามระดับราคาห้องชุด
  • ค่าประกันอัคคีภัย ปกติมักจ่ายพร้อมกับเงินผ่อนชำระงวดแรก
  • ค่าประกันมิเตอร์น้ำ-ไฟฟ้า ทางโครงการจะออกค่าติดตั้งมิเตอร์น้ำ-ไฟฟ้าให้ก่อนแล้วค่อยเรียกเก็บทีหลัง ตามอัตราที่การประปาและการไฟฟ้ากำหนด
  • ค่าประกันภัยอาคาร หากเป็นคอนโดฯ ที่นิติบุคคลทำประกันภัยอาคารไว้ เจ้าของห้องชุดก็ต้องร่วมจ่ายค่าประกันภัยนี้ด้วย

5.เตรียมเอกสารให้พร้อม

ควรจัดเตรียมเอกสารต่างๆ ให้พร้อม เพื่อความสะดวก รวดเร็วในการตรวจสอบและดำเนินการ เอกสารสำคัญที่ควรเตรียมไว้ มีดังนี้

  • หนังสือรับรองเงินเดือน
  • สลิปเงินเดือน
  • เอกสารประวัติรายได้
  • รายการเดินบัญชีอย่างน้อย 3 – 6 เดือน
  • สำเนาบัตรประชาชน
  • สำเนาทะเบียนบ้าน
  • เอกสารเกี่ยวกับการเปลี่ยนชื่อ หรือการสมรส (ถ้ามี)

เคล็ดลับการเลือกซื้อคอนโดให้โดนใจ

1.ควรเลือกห้องที่อยู่ทางทิศใต้

เพราะจะสามารถรับลมได้มากกว่าทิศอื่นๆ เนื่องจากช่วงฤดูร้อนและฤดูฝนของบ้านเรา ซึ่งมีระยะเวลาประมาณ 8 – 9 เดือนต่อปี ส่วนอีก 3 – 4 เดือนที่เหลือเป็นฤดูหนาวที่ลมจะพัดมาจากทางทิศเหนือ ทำให้ห้องที่ตั้งหันหน้าไปทางทิศใต้จะขาย หรือปล่อยเช่าได้เร็วกว่า รองลงมาก็เป็นทิศเหนือ ทิศตะวันออก

2.ใกล้รถไฟฟ้ายิ่งดี

ควรกะระยะทางว่าคอนโดแห่งนั้นไม่ไกลจาก BTS หรือ MRT แอร์พอร์ตลิงค์มากนัก จะให้ดีไม่ควรเกิน 500 เมตร เพื่อความสะดวกในการเดินทาง ใกล้กับที่อยู่อาศัยจะยิ่งทำให้ได้ทำเลที่ดีเวลาที่จะขาย หรือว่าปล่อยเช่าต่อไป

3.เปรียบเทียบราคาต่อตารางเมตร กับคอนโดในละแวกเดียวกัน

ควรเปรียบเทียบกับคอนโดประเภทเดียวกัน ชั้นเดียวกัน นอกจากนี้ยังควรดูในส่วนของพื้นที่ส่วนกลางด้วย เช่น ที่จอดรถ จำนวนลิฟต์ จำนวนยูนิตที่ขาย เพื่อให้มีข้อเปรียบเทียบข้อดี-ข้อเสียได้อย่างชัดเจน จะได้ง่ายต่อการตัดสินใจ

4.ยิ่งสูงยิ่งสวย เพราะห้องที่อยู่สูงจะได้วิวที่สวยกว่า

สำหรับใครที่เล็งคอนโดสูงๆ เพราะชื่นชอบวิวแบบมุมสูงล่ะก็ ควรเลือกห้องที่ไม่มีตึกมาบัง แต่ถ้าอาคารที่คุณเลือกถูกล้อมด้วยตึกสูงอยู่แล้ว คุณอาจไม่จำเป็นต้องเลือกชั้นที่สูงมาก เพราะยิ่งสูงราคาก็ยิ่งแรง

5.ถ้าเป็นคอนโดเก่า ต้องดูนิติบุคคล

บางคนอาจเลือกซื้อคอนโดเก่าแทนคอนโดใหม่ เนื่องจากมีราคาย่อมเยากว่า ดังนั้นเมื่อต้องการเลือกคอนโดเก่า ควรพิจารณาการทำงาน การบริหารจัดการของนิติบุคคล นอกจากนั้นควรพิจารณาสังคมที่พักอาศัยโดยรอบ ด้วยว่าเป็นกลุ่มคนประเภทใด

6.เลือกห้องที่ไม่ติดกับถังขยะ

แน่นอนว่าห้องประเภทนี้ราคาจะค่อนข้างย่อมเยา เมื่อเทียบกับห้องที่มุมดีๆ วิวสวยๆ เพราะนอกจากจะส่งกลิ่นเหม็น และส่งผลต่อสุขลักษณะแล้ว ห้องขยะก็เป็นอีกส่วนที่มีคนเข้าออกอยู่เป็นประจำ ซึ่งอาจเป็นการรบกวน และสร้างความรำคาญให้ได้เช่นกัน

ด้เคล็ดลับดีๆ ในการเลือกห้องกันไปแล้ว แบบนี้คราวหน้าถ้าจะไปยื่นขอสินเชื่อเพื่อซื้อคอนโดรับรอบว่าผ่านฉลุยแน่นอน แต่สิ่งสำคัญต้องไม่ลืมว่า ควรวางแผนให้ดีนะคะในช่วง 3 -6 เดือนนี้ ประวัติสวย เอกสารพร้อม เดินลุยไปที่แบงก์ได้เลยค่ะ

ข้อมูลกจาก www.home.co.th , www.estopolis.com

SOURCE : www.rabbitfinance.com