สวัสดีครับ คุณผู้อ่านและคุณลูกค้าทุกท่าน จอร์จไทร์บิด ผู้เชี่ยวชาญยางรถยนต์ ยินดีต้อนรับครับ รถติดแก๊ส ในความรู้สึก จอร์จ บอกเลยได้รับความนิยมในรถแท็กซี่หรือเพื่อนๆเน้นประหยัดน้ำมันเป็นอย่างมาก ทั้งแบบ CNG หรือ LPG เนื่องจากราคาแก๊สมีราคาถูกกว่าราคาน้ำมันหลายเท่าตัว แต่ประเด็นทำให้หลายคนสนใจแต่ยังเป็นกังวล คือ เนื่องจากมีข่าวรถใช้แก๊สเกิดอุบัติเหตุเพลิงไหม้ หลายคนก็มักจะโทษว่าเป็นการการติดแก๊ส เลยพาลกลัวฝังใจไป ทั้งๆที่ความผิดที่แท้จริง ส่วนใหญ่เกิดจากการไม่ดูแลรถของเจ้าของรถ ซึ่งต้องให้ความสำคัญไม่แพ้เชื้อเพลิงน้ำมันเช่นกัน สำหรับแนวทางการดูแลรักษารถติดแก๊ส ที่ถูกต้องนั้นไม่ยากซับซ้อนอะไร เกร็ดความรู้ยานยนต์ในคราวนี้ จอร์จ ได้รวบรวมมาบอกให้เพื่อนๆทราบเป็นข้อๆกันครับ

รถที่ถูกติดแก๊สรถยนต์นั้น จะต้องมีการดูแลรักษาเครื่องยนต์ที่มากกว่ารถยนต์ที่ใช้น้ำมันทั่วไป ซึ่งนอกจากการดูแลรักษาเครื่องยนต์ตามปกติ เช่น เช็คของเหลวหล่อลื่นและหล่อเย็น เช็คสายพาน เช็คสายไฟ เช็คหัวเทียน และระบบเชื้อเพลิงปกติแล้ว ขั้นตอนวิธีการตรวจเช็ครถติดแก๊ส ก็มีเพิ่มพิเศษเข้ามาดังนี้

1.ถังแก๊ส สำรวจกลิ่นอย่างเป็นประจำ ซึ่งกลิ่นของแก๊ส CNG และ LPG จะต่างกัน เราต้องลองไปดมด้วยตัวเองเวลาเติมแก๊ส ส่วนการตรวจเช็คจุดรั่วนั้น สามารถทำได้โดยเอาน้ำสบู่ลูบในจุดต้องสงสัย ตามท่อต่างๆ ตรงที่ได้กลิ่นแรง แล้วมองหาฟองที่ผุดขึ้นมาต่อเนื่อง

สังเกตการรั่วซึมของระบบน้ำเข้าหม้อต้มแก๊ส หากมีรอยเปียกซึม หรือพบคราบตะกรัน ควรรีบเข้าอู่ทำการเปลี่ยนท่อหรือหม้อต้มใหม่ทันที และมีการล้างหม้อต้มที่ควรทำเมื่อใช้งานไปในระยะเวลา 12-18 เดือน

2.หม้อต้มแก๊ส ตรวจเช็คการติดตั้งแน่นหนา ตำแหน่งไม่อยู่ใกล้แบตเตอร์รี่หรือคอยล์จุดระเบิด ถ้าเป็นระบบดูดหรือมิกเซอร์ ต้องวางตำแหน่งด้านหน้าแปลนวงกลม หันไปตามแนวขวางของตัวรถ ห้ามวางนอนหรือตะแคง จะมีผลต่อการจ่ายแก๊สไม่สม่ำเสมอ

3.น้ำมันเครื่อง เปลี่ยนตามกำหนดทุกครั้ง และใช้เกรดน้ำมันเครื่องที่ถูกผลิตมาครอบคลุมรถติดแก๊สด้วยจะดีที่สุด เพื่อยืดอายุการใช้งานเครื่องยนต์

4.หัวเทียน เช็คสภาพบ่อยขึ้น การเปลี่ยนหัวเทียน ถ้าเป็นเกรดธรรมดาควรเปลี่ยน ทุกๆ 10,000 กิโลเมตร หรือ 1 ปี ถ้าเกรดอิริเดียมหรือแพลทตินั่มก็ยืดอายุไปได้เกือบเท่าตัว

5.ตั้งวาล์วเมื่อมีการใช้งานครบระยะ 40,000-60,000 กม.

6.ไส้กรองแก๊ส ควรทำความสะอาดหรือเปลี่ยนใหม่ ทำไปพร้อมๆ กับตอนเข้าอู่ตรวจเช็คระบบไปด้วยเลย ราวๆ 12-18 เดือน

7.ปั๊มติ๊กแก๊ส และปั๊มติ๊กน้ำมัน ควรเปลี่ยนทุกๆ 3 ปี หรือเมื่อมีการใช้งานถึง 30,000-50,000 กม.

    นอกจากนี้ จอร์จ ยังขอแนะนำวิธีใช้รถแก๊สอย่างถูกต้อง ซึ่งไม่ได้ยุ่งยากกว่าเบนซินปกติมากเท่าไหร่ โดยหมั่นทำให้เป็นนิสัย จะช่วยยืดอายุรถยนต์ติดแก๊สไปได้มาก ทำได้ง่ายๆดังนี้

1.ควรเติมน้ำมันไว้เกิน 1/4 ของถังเพื่อไว้ใช้สำรองตอนแก๊สหมดและป้องกันการเกิดสนิมในถังน้ำมัน และยังสามารถป้องกันการพังของปั๊มติ๊กน้ำมันได้เช่นกัน

2.ใช้น้ำมันสตาร์ทเครื่องยนต์ก่อนทุกเครื่อง และก่อนที่จะดับเครื่องยนต์ควรเปลี่ยนมาใช้เป็นระบบน้ำมันก่อน เพื่อรักษาประสิทธิภาพเครื่องยนต์ ลดการสึกหรอของบ่าวาล์ว และป้องกันหัวฉีดอุดตัน กับกระบอกสูบแห้งเกินไป

3.เลือกศูนย์บริการติดแก็สหรืออู่ที่น่าเชื่อถือ เพื่อให้ได้รับการติดตั้งและตรวจเช็คที่ถูกวิธี

4.ห้ามต่อพ่วงกับถังแก๊สหุงต้มที่ใช้ในบ้าน เพราะการต่อใช้แบบนี้สามารถก่อให้เกิดอันตรายได้มาก เพราะไม่สามารถควบคุมความปลอดภัยของอุปกรณ์และวิธีการทำได้เลย

5.ไม่ควรขับรถแบบรุนแรงและกดคันเร่งเฉียบพลัน ระวังการเกิด BackFire ปัญหานี้จะเกิดขึ้นกับรถที่แก๊สระบบดูดหรือ Mixer

6.อย่าปรับจูนแก๊สจนบางเกินไป เพราะการปรับจูนแก๊สบางไปนั้น จะทำให้ความร้อนในห้องเครื่องสูงและอาจจะส่งผลต่อเครื่องยนต์ด้วยเช่นกัน

ชิ้นส่วนแก๊สอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องอย่างโซลินอยหรือสวิตช์แก๊ส มีโอกาสเสียได้ยาก และไม่ต้องการดูแลพิเศษใดๆ ส่วนเมื่อใช้รถระยะเวลาเกิน 10 ปีขึ้นไป ก็ควรทำการเปลี่ยนถังใหม่ตามที่กฎหมายกำหนด โดยกรมขนส่งทยอยสั่งให้เลิกใช้ถังแบบวาล์วมือหมุนแล้ว เปลี่ยนเป็นแบบมัลติวาล์วซึ่งมีความปลอดภัยกว่า

          เป็นอย่างไรกันบ้างครับเพื่อนๆ การดูแลรักษารถยนต์ติดแก๊ส ที่ทางจอร์จได้นำมาให้อ่านกันในวันนี้ หากเพื่อนๆที่มีรถติดแก๊สตรวจเช็คอย่างนี้เป็นประจำ ก็จะทำให้ใช้รถติดแก๊สได้อย่างสบายใจทุกการเดินทาง สำหรับเพื่อนๆกำลังลังเลหรือสนใจหวังว่าจะเป็นประโยชน์ช่วยให้ตัดสินใจติดตั้งเพื่อประหยัดน้ำมันกันมากขึ้นนะครับ

SOURCE : www.tiresbid.com