The LINE Phahon-Pradipat ของทาง Sansiri ได้เปิดให้เยี่ยมโครงการชมหลังจากที่โครงการได้สร้างเสร็จ พร้อมให้ดูบรรยากาศจริงๆ ของตัวโครงการ

 

 

          ตัวโครงการ The LINE Phahon-Pradipat ตั้งอยู่บนพื้นที่กว่า 5 ไร่ กับคอนโดที่ออกแบบมาให้รู้สึกเหมือนอยู่ในบ้านหลังใหญ่ ภายใต้แนวคิดการคอนเซ็ปต์ของโครงการอย่าง “Feel like home” บ้านที่ถูกโอบกอดด้วยธรรมชาติ และมีพื้นที่สำหรับทุกช่วงวัย ทุกไลฟ์สไตล์ กับความรู้สึกอบอุ่นของการใช้ชีวิตในบ้านที่ผ่อนคลายไปกับธรรมชาติและได้ใช้เวลาร่วมกันคนในครอบครัว คือความสะดวกสบายของชีวิตที่ถูกหยิบยกมาผสานรวมกับความคล่องตัวของการใช้ชีวิตใจกลางเมืองที่ เดอะ ไลน์ พหลฯ-ประดิพัทธ์

 

 

          ด้วยแนวคิดการออกแบบที่คำนึงถึงความกลมกลืน และสอดคล้องไปกับธรรมชาติ พื้นที่โดยรอบอาคารจึงเป็นส่วนหนึ่งกับธรรมชาติ การเลือกบิดองศาของผนังห้อง เพื่อสร้างมุมมองที่แปลกใหม่ในการพักอาศัย และยังเป็นการบิดเพื่อเปิดรับแสงจากภายนอก ทำให้ผู้พักอาศัยสามารถสัมผัสกับบรรยากาศของแสงและเงาที่แตกต่างได้ในแต่ช่วงเวลาของวัน โดดเด่นด้วยการไล่เฉดสีเอิร์ธโทนของตัวอาคาร เพื่อเน้นให้เกิดความกลมกลืนกับแสงธรรมชาติ และสร้างความรู้สึกอบอุ่นเมื่อมองมาที่ตัวอาคาร ในขณะเดียวกัน การตกแต่งภายในยังเลือกใช้วัสดุธรรมชาติอย่างหิน ไม้และผ้าที่มีโทนสีอบอุ่น เพื่อสร้างบรรยากาศผ่อนคลายและให้เข้าถึงความเป็นธรรมชาติ จัดวางเฟอร์นิเจอร์เพื่อให้มีความหลากหลายในการใช้สอยและบรรยากาศ เน้นความใกล้ชิดธรรมชาติให้ความรู้สึกเหมือนอยู่ในบ้านหลังใหญ่ที่แค่มองออกไปก็ได้เห็นสวนร่มรื่นหน้าบ้าน

 

 

          Co-Living Space ตอบโจทย์การใช้ชีวิตร่วมกันบนพื้นที่ความสุขสำหรับทุกคน เพิ่มชีวิตธรรมชาติในทุกการออกแบบ และคัดสรรเฉพาะสิ่งที่ดีที่สุดโดยคำนึงถึงความต้องการที่หลากหลาย และความชื่นชอบในไลฟ์สไตล์ที่แตกต่างกันของแต่ละคน  โดยจัดสรรพื้นที่เอาไว้สำหรับคนทุกกลุ่มและทุกความต้องการ ให้เสมือนบ้านหลังใหญ่ที่สมาชิกในครอบครัวจะมีทั้งพื้นที่ส่วนตัวเพื่อทำในสิ่งที่ตัวเองชอบ และพื้นที่ส่วนรวมเพื่อค้นหาแรงบันดาลใจใหม่ด้วยกัน เพื่อการสร้างสรรค์พื้นที่และบริการพิเศษที่ตรงใจรูปแบบความต้องการของคนรุ่นใหม่ที่เปลี่ยนแปลงไป โดยเริ่มตั้งแต่ทางเข้าล็อบบี้ ด้วยการดีไซน์ที่โปร่งโล่งแบบ Triple Volume  ที่สามารถเปิดรับลมได้เต็มที่ เพิ่มความเย็นสบายรับลมได้ตลอดวัน โดยไม่ต้องพึ่งพลังงานไฟฟ้าตลอดเวลา และด้วยแนวคิดหลักอย่าง Co-Living Space แสนสิริจึงออกแบบพื้นที่ส่วนกลางเป็น  3 ส่วนหลัก ได้แก่

 

          Co-Lifestyle พื้นที่พักผ่อนให้สามารถเลือกใช้ชีวิตสบายๆ อาทิ The Secret Garden ด้วยแนวคิดการออกแบบสวนให้มีมุมพักผ่อนที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นพื้นที่จิบชายามบ่าย หรือน้ำตกหินขนาดใหญ่ที่แทรกตัวอยู่ในเนินดินธรรมชาติ โดยเสียงน้ำตกจะช่วยกลบเสียงรบกวนจากภายนอก ให้รู้สึกสบายท่ามกลางต้นไม่น้อยใหญ่ที่แทรกตัวในทุกที่ Co-Kitchen ห้องครัวที่ครบครันด้วยอุปกรณ์ทำครัวทันสมัย ขยายพื้นที่การทำอาหารให้ออกจากห้องพักเพื่อเปิดโอกาสในการพบปะกันของคนรักการทำครัว เหมาะสำหรับปาร์ตี้อบขนม การคิดเมนูลับ ไปจนถึงเตรียมอาหารสำหรับงานเลี้ยงในโอกาสพิเศษ

 

 

          พื้นที่ Co-Kitchen ส่วนนี้ยังเชื่อมต่อกับสวน และลานเอาท์ดอร์ที่เพิ่ม BBQ Area พร้อมอุปกรณ์ครบครันให้ด้วย ทำให้สามารถใช้เป็นพื้นที่จัดปาร์ตี้กลางสวนไปในตัวด้วย หรือบนชั้น 46 ชั้นบนสุดของโครงการฯ ได้รับการออกแบบให้เป็น Sky Lounge ซึ่งนับเป็นจุดชมวิวเมืองที่สวยที่สุด ผ่านกระจกใสบานใหญ่เพื่อเปิดให้เห็นวิวโดยรอบได้เหมือนการจ้องมองงานศิลปะที่อยู่ในกรอบรูปขนาดยักษ์ เลาจน์แห่งนี้จึงทำหน้าที่เป็นเหมือนห้องนั่งเล่นประจำบ้านที่พร้อมให้คุณเพลิดเพลินไปกับทัศนียภาพที่งดงามทั้งในยามกลางวันและยามค่ำคืนที่เต็มไปด้วยแสงสี หรือการเนรมิต Kid’s yard ในชั้น 35 ออกแบบภายใต้แนวคิด Educational Playground โดยร่วมมือกับโรงพยาบาลเด็กสมิติเวชเพื่อให้สมาชิกตัวน้อยของครอบครัวให้กลายเป็นสนามเด็กเล่น มีเนินดินสำหรับปีนป่าย และเครื่องเล่นต่างๆ โดยคำนึงถึงความปลอดภัย โดยการปูพื้นยางกันกระแทก พร้อมด้วยที่นั่งสี่เหลี่ยมหลากสีที่กระจายบนพื้นที่สีเขียว  

 

 

          Co-Working Space เพื่อรองรับการทำงานในยุคดิจิตัลที่คนทำงานไม่จำเป็นต้องอยู่กับที่อีกต่อไป บนพื้นที่บริเวณชั้นสองของคลับเฮ้าส์ ที่ได้รับการเนรมิตให้เป็น Co-Working Space ท่ามกลางวิวสวนสบายตา เพียบพร้อมด้วยอุปกรณ์สำนักงานครบครันอันทันสมัย และอินเตอร์เน็ตความเร็วสูงให้ผู้ใช้งานสามารถเชื่อมต่อได้อย่างฉับไวในทุกช่องทาง รวมถึง Private Meeting Room  สำหรับนัดคุยงานกับลูกค้า หรือจัดกลุ่มเบรนด์สตรอมไอเดียในบรรยากาศที่เป็นส่วนตัวและแตกต่างใกล้ชิดกับธรรมชาติ เพื่อให้การทำงานที่นี่มีความเป็น work-life balance อย่างแท้จริง Co-Working Space ยังมีห้องพรีเซนต์เทชั่นส่วนตัวที่สามารถเปลี่ยนฟังก์ชั่นเป็นห้องโฮมเธียเตอร์ได้ด้วย เป็นทั้งพื้นที่นำเสนองาน และใช้ผ่อนคลายหลังทำงานเสร็จ

 

 

          Co-Recreation พื้นที่เพื่อชีวิตแอ็คทีฟในบริเวณชั้น 9 ที่ถูกออกแบบให้เป็นพื้นที่ Co-Recreation ที่มอบกลิ่นอายแบบบ้านพักตากอากาศ โดยเป็นทั้งสถานที่พักผ่อนกลางแจ้ง และออกกำลังกาย ประกอบด้วยห้องฟิตเนส สระว่ายน้ำแบบ Lap pool / Leisure pool / Jacuzzi และ Kid’s Pool ที่ทุกสระถูกออกแบบมาให้เชื่อมต่อถึงกันได้ ท่ามกลางธรรมชาติ โดยมีวิวเมืองมาช่วยสร้างบรรยากาศดีๆ ระหว่างการออกกำลังกายด้วย

 

 

          ในตัวอาคารเองก็ยังมี Pocket Garden สวนแนวตั้งระหว่างชั้นที่พักอาศัย นำพาพื้นที่สีเขียวเข้าไปใกล้ชีวิตประจำวันของลูกบ้านมากกว่าเคย เพียงแค่เปิดประตูห้องก็ได้สัมผัสกับพื้นที่สีเขียวได้อย่างเต็มปอดและสามารถรองรับครอบครัวหลากหลายรูปแบบตั้งแต่ครอบครัวเดี่ยวไปจนถึงครอบครัวขยาย ด้วยหัองพัก จำนวน 981 ยูนิต ที่มีขนาดให้เลือกตั้งแต่ 1 ถึง 3 ห้องนอนหลายรูปแบบ พื้นที่ใช้สอยตั้งแต่ 26.25 ตร.ม. - 111.50 ตร.ม. บนอาคารสูง 46 ชั้น 1 อาคาร และคลับเฮ้าส์ สูง 2 ชั้น 1 อาคาร เปิดโอกาสให้แต่ละคนสามารถมีพื้นที่ส่วนตัวเป็นของตัวเอง ในขณะที่พื้นที่ส่วนกลางทำหน้าที่เสมือนห้องต่างๆ ของบ้านหลังใหญ่ ไม่ว่าจะเป็นห้องครัว ห้องทำงาน ห้องนั่งเล่น สวนหลังบ้าน หรือห้องรับแขก ที่ทุกคนในบ้านสามารถออกกมาแบ่งปันช่วงเวลาแห่งความสุขร่วมกันได้ ยิ่งไปกว่านั้นการใช้ชีวิตใจกลางเมืองมอบข้อได้เปรียบด้านการเดินทางที่สะดวกสบายให้กับผู้อยู่อาศัย

 


          เดอะ ไลน์ พหลฯ-ประดิพัทธ์ ตั้งอยู่ห่างจากสถานีรถไฟฟ้าสะพานควายเพียง 550 เมตร สามารถเดินทางเชื่อมต่อไปยังรถไฟใต้ดินได้ที่สถานีสวนจตุจักร และยังเป็นทำเลที่อยู่ใกล้ทางขึ้น-ลงทางด่วนอีกด้วย นอกจากนั้นในอนาคตยังจะมีสถานีกลางบางซื่อ ศูนย์รวมคมนาคมแห่งใหม่ที่จะมาแทนที่หัวลำโพงในปัจจุบัน (คาดว่าจะเปิดให้บริการปี 2564) ซึ่งอยู่ห่างจากโครงการเพียง 10 นาที  ในราคาเริ่มต้นเพียง 3.9 ล้านบาท พร้อมกับโปรโมชั่นสุดพิเศษส่งท้ายปลายปี จอง 5,000 ฟรี 5 อย่าง ฟรีค่าส่วนกลางสูงสุด 2 ปี, ฟรีเครื่องใช้ไฟฟ้า 5 รายการ, ฟรีค่าธรรมเนียมการโอน, ฟรีค่าทำสัญญา และฟรีค่าขนส่งเคลื่อนย้าย พร้อมด้วยบริการจาก “แสนสิริ เซอร์วิส” ที่จะสร้างประสบการณ์ด้านบริการที่ตอบโจทย์การอยู่อาศัยสมบูรณ์แบบอย่างครบวงจร โดยพลัส พร็อพเพอร์ตี้ ทีมงานมืออาชีพที่จะเป็นศูนย์กลางในการให้บริการและบริหารจัดการความต้องการให้กับลูกบ้านแสนสิริ ทั้งก่อนและหลังการอยู่อาศัยอย่างครบวงจร ทั้งการขาย ปล่อยเช่า ซื้อเพิ่ม หรืออยู่อาศัยเอง รวมถึงการดูแลบริหารโครงการและส่วนกลางในทุกรูปแบบด้วยประสบการณ์กว่า 20 ปี อีกทั้งบริการ LIV-24 ที่พร้อมให้ความดูแลลูกบ้านตลอด 24 ชั่วโมง ด้วยเทคโนโลยีเชื่อมต่อกับระบบรักษาความปลอดภัยและควบคุมอาคารเต็มรูปแบบแห่งแรกเพื่อยกระดับบริการมาตรฐานเทคโนโลยและความปลอดภัยที่ล้ำหน้าที่สุดหนึ่งเดียวของวงการอสังหาฯ ไทย

 

 

ขอบคุณขอมูลจาก www.sansiri.com