(20 พฤศจิกายน 2562 : กรุงเทพฯ) มั่นคงเคหะการฯ ได้ฤกษ์เปิดตัว “สำนักงานใหม่” ปักหมุดทำเลทองศูนย์กลางเศรษฐกิจกรุงเทพฯ บนถนนสุรวงศ์ ภายใต้คอนเซปต์ “Workplace Wellbeing” พร้อมสร้างวัฒนธรรมองค์กรแนวใหม่ เน้นปลูกฝังสุขภาวะที่ดีให้อยู่ใน DNA ของพนักงานทุกคน เพื่อสร้างสุขในการทำงานและส่งต่อไปยังผู้บริโภค ตอกย้ำแนวคิด “Wellbeing”
นายวรสิทธิ์ โภคาชัยพัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท มั่นคงเคหะการ จำกัด (มหาชน) (Mr. Vorasit Pokachaiyapat Chief Executive Officer of M.K. Real Estate Development Public Company Limited) หรือ MK บริษัทผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์เพื่อการขาย เพื่อเช่าและเพื่อการบริการ เปิดเผยถึงเหตุผลสำคัญในการย้าย “สำนักงานใหม่” มาที่ถนนสุรวงค์ในครั้งนี้ว่า เนื่องจากทางบริษัทฯ ได้ครบสัญญาเช่า 30 ปี (Leasehold) กับทางพื้นที่เดิมจึงถือโอกาสครั้งนี้ย้ายสำนักงานใหม่อันเป็นก้าวสำคัญของจุดเริ่มการพลิกโฉมครั้งใหญ่ เพื่อเดินหน้าสู่การเติบโตอย่างยั่งยืนของ มั่นคงเคหะการ
“จากประสบการณ์อันยาวนาน โดยในช่วงระยะเวลา 4 - 5 ปีที่ผ่าน บริษัทฯ ได้เรียนรู้ที่จะพัฒนาทั้งตัวโปรดักส์, บุคลากรให้มีคุณภาพและประสิทธิภาพเพิ่มมากขึ้น เราได้มีการนำแนวคิดในเรื่อง Wellbeingหรือ สุขภาวะองค์รวมที่ดี มาปรับใช้ตั้งแต่การดูแลพนักงาน ไปจนถึงการออกแบบดีไซน์พัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยที่สามารถ ตอบโจทย์ทุกความต้องการและเพื่อมอบความสุขให้ผู้อยู่อาศัยในทุกๆ เจเนอเรชั่น ดังนั้นการย้ายสำนักงานใหม่ จึงนับเป็นอีกหนึ่งความตั้งใจที่มอบให้เป็นของขวัญพนักงาน เพราะเราเชื่อมั่นว่าพนักงานเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้องค์กรเติบโต การดูแลพนักงานให้มีสุขภาวะที่ดีทั้งทางร่างกายและจิตใจ ก็จะส่งผลให้เกิดสภาพแวดล้อมและสังคมที่ดี ตลอดจนสร้างสรรค์ผลงานที่ดีและมีประสิทธิภาพมากขึ้น”
นายวรสิทธิ์ กล่าวต่อไปว่า “แนวคิดการวางคอนเซปต์ของสำนักงานใหม่ บริษัทฯ ยังคงให้ความสำคัญเรื่อง “Wellbeing” โดยเราตั้งใจจะสร้างให้สถานที่แห่งนี้เป็น Workplace Wellbeing คือเป็นที่ทำงานที่สามารถสร้าง “สุขภาวะที่ดีแบบองค์รวม” ในการทำงานให้กับพนักงานทุกคน เพราะถ้าหากพนักงานมีสุขภาพกาย สุขภาพใจที่ดี อยู่ท่ามกลางสภาพแวดล้อมที่ดี ก็จะส่งผลถึงประสิทธิภาพในการทำงานที่ดีด้วยเช่นกัน โดยบริษัทฯ ได้เตรียมสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ เพื่อช่วยเสริมให้พนักงานมีสุขภาวะที่ดี ไม่ว่าจะเป็นห้องฟิตเนส, ห้องโยคะ, Rooftop Organic Farm, Co-Wellnest เป็นต้น นอกจากนี้เรายังมีแนวคิดการเพิ่มพื้นที่สีเขียวภายในอาคารด้วย”
โดยสำนักงานแห่งใหม่ บริษัท มั่นคงเคหะการ จำกัด (มหาชน) ตั้งอยู่ที่อาคาร 345 ถนนสุรวงศ์ สูง 8 ชั้น ชูแนวคิด Wellbeing ภายใต้คอนเซปต์ Workplace Wellbeing ตัวอาคารออกแบบดีไซน์โดยเน้นโทนสีธรรมชาติ ที่ให้ความรู้สึกผ่อนคลาย สบายตา โดยภายในเริ่มจาก ชั้น G เป็นพื้นที่ Co-Wellnest ซึ่งพนักงานสามารถใช้พื้นที่ในการ Sharing ความรู้ต่างๆ นอกจากนี้ยังเปิดให้บุคคลภายนอกเข้ามาใช้บริการได้, ชั้น P1 - P2ชั้นจอดรถ, ชั้น 5 ชั้นฟิตเนสให้พนักงานได้ออกกำลังกาย มีทั้งห้องโยคะและห้องกายภาพ, ชั้น 6, 7, 8 คือส่วนของสำนักงาน โดยที่ชั้น 8 จะมีในส่วนของห้องอาหาร (Canteen) สำหรับพนักงานด้วย และชั้นดาดฟ้า ที่จัดให้เป็น “Rooftop Organic Farm” ให้ผู้บริหารและพนักงานได้ร่วมกันปลูกผัก-ผลไม้ออร์แกนิค สำหรับไว้รับประทานอีกทั้งเพื่อให้พนักงาน ได้เรียนรู้ถึงความสำคัญของที่มาที่ไปของอาหาร
ด้าน นางสาวดุษฎี ตันเจริญ กรรมการผู้จัดการ บริษัท มั่นคงเคหะการ จำกัด (มหาชน) (Miss Dusadee Tancharoen, Managing Director of M.K. Real Estate Development Public Company Limited) กล่าวว่า “จะเห็นได้ว่าการย้ายที่ทำการใหม่ของ มั่นคงฯ ถือเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญที่จะก้าวสู่การเป็นองค์กร Wellbeing อย่างเต็มตัว เพราะนอกจากสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ที่บริษัทฯ ตั้งใจมอบให้แก่พนักงานทุกคนแล้ว ยังมีการปรับวัฒนธรรมองค์กร เน้นการปลูกฝังความเป็น Wellbeing ให้อยู่ใน DNA ของพนักงานผ่านกิจกรรมต่างๆ มากมาย อาทิ แปลงผักออร์แกนิคบริเวณชั้นดาดฟ้า โดยมีแนวคิดอยากให้พนักงานได้เรียนรู้และใส่ใจเรื่องที่มาของวัตถุดิบในการประกอบอาหาร, Co-Wellnest พื้นที่ที่พนักงานสามารถแลกเปลี่ยนสูตรในการทำอาหารต่างๆ, กิจกรรม Happy Fine Day เวทีที่ให้พนักงานได้มาแสดงความสามารถ ไม่ว่าจะเป็นเล่นดนตรี ร้องเพลง ทำอาหาร, กิจกรรมโครงการ Green Monday โดยจะมีผู้เชี่ยวชาญมาให้ความรู้เกี่ยวกับวัตถุดิบที่นำมาประกอบอาหารในแต่ละมื้อ ซึ่งบริษัทฯ เรานับเป็นองค์กรแรกของเมืองไทยที่เข้าร่วมโครงการนี้”
นางสาวดุษฎี กล่าวเพิ่มเติมว่า “อีกเรื่องที่บริษัทฯ ให้ความสำคัญ คือ การร่วมกันทำให้สิ่งแวดล้อมน่าอยู่ขึ้น เช่น การรณรงค์ลดใช้ Single use plastic, การแจกกระบอกน้ำแก่พนักงาน เพื่อลดการใช้พลาสติก รวมไปถึงการคัดแยกขยะก่อนทิ้ง เพื่อที่ขยะเหล่านั้นจะได้นำไปกำจัดหรือรีไซเคิลได้อย่างถูกวิธี ซึ่งได้มีการจัดเวิร์คช้อปโดยผู้เชี่ยวชาญจากสภาอุตสาหกรรม เพราะหากคนในองค์กรกว่า 300 คน ช่วยกันและสามารถนำกลับไปบอกต่อเพื่อนๆ หรือ คนที่บ้าน ก็จะยิ่งเป็นการกระจายความรู้ในการแยกขยะอย่างถูกวิธี การปรับรูปแบบการทำงานเป็น Flexible Time และ Work from Home การจัดห้องประชุมให้เป็นเก้าอี้และโต๊ะต่ำ - สูงในระดับที่ต่างกัน การมีลู่เดิน ลู่วิ่ง เพื่อให้พนักงานได้ปรับเปลี่ยนอิริยาบถ ไม่นั่งนานจนเกินไป นอกจากนี้ยังทำให้พนักงานสามารถคิดงาน แสดงไอเดียต่างๆ ได้มากขึ้นด้วย”
“ทั้งนี้ก้าวต่อไปหลังจากที่สร้างความรู้ความเข้าใจเรื่อง Wellbeing อย่างลงลึก DNA ของพนักงานทุกคนภายในองค์กรแล้ว มั่นคงฯ จะยังคงมุ่งมั่นพัฒนาสินค้าโดยให้ความสำคัญในทุกมิติแห่งการอยู่อาศัย เริ่มตั้งแต่ การวางผังโครงการฯ การออกแบบตัวบ้านให้สอดคล้องกับทิศทางลม เพื่อช่วยลดการใช้พลังงาน และช่วยให้ภายในบ้านมีอากาศถ่ายเทที่ดี การออกแบบฟังก์ชั่นพื้นที่ใช้สอยให้โปร่ง โล่ง สบาย การเพิ่มห้องอเนกประสงค์ด้านล่าง ที่สามารถปรับเปลี่ยนเป็นห้องนอนผู้สูงอายุ การเลือกใช้วัสดุที่ช่วยประหยัดพลังงานต่างๆ เช่น กระจกเขียวตัดแสงป้องกันความร้อนจากแสงแดดช่องรับแสงธรรมชาติ และพลังงานโซลาเซลล์ ฯลฯ พื้นที่สีเขียวส่วนกลางเพื่อเพิ่มความร่มรื่น ฟิตเนส สระว่ายน้ำ Edutainment playground รวมถึงการจัดกิจกรรมสำหรับลูกบ้านเพื่อให้มี “สุขภาวะที่ดี” บริษัทฯ เชื่อมั่นว่าสิ่งต่างๆ ที่ได้ลงทำมือทำจะเป็นหัวใจสำคัญที่จะทำให้ มั่นคงเคหะการฯ เป็นองค์กรที่เติบโตได้อย่างมั่นคงและยั่งยืน” นายวรสิทธิ์ โภคาชัยพัฒน์ กล่าวสรุป
ปัจจุบัน บริษัท มั่นคงเคหะการ จำกัด (มหาชน) หรือ MK มีโครงการแนวราบทั้งหมด 13 โครงการ แบ่งเป็น ทาวน์โฮม 6 โครงการ ได้แก่ ชวนชื่น ทาวน์ ชัยพฤกษ์ – แจ้งวัฒนะ, ชวนชื่น ทาวน์ รังสิต-คลอง 1, ชวนชื่น ทาวน์ ราชพฤกษ์-345, ชวนชื่น ทาวน์ แก้วอินทร์-บางใหญ่, ชวนชื่น ทาวน์ –บางใหญ่, ชวนชื่น ทาวน์ วิลเลจ บางนา บ้านแฝด 2 โครงการ ได้แก่ ชวนชื่น โมดัส วิภาวดี, ชวนชื่น พาร์ค อ่อนนุช-วงแหวน และ บ้านเดี่ยว 5 โครงการ ได้แก่ ชวนชื่น ไพรม์ วิลเลจ บางนา, ชวนชื่น ไพร์มวิลล์ กรุงเทพ-ปทุมธานี, ชวนชื่น ซิตี้ วัชรพล-รามอินทรา, ชวนชื่น แกรนด์ ราชพฤกษ์ พระราม 5, ชวนชื่น แกรนด์ เอกชัย บางบอน และโครงการเพื่อเช่าและเพื่อการบริการ ได้แก่ โครงการพาร์ค คอร์ท สุขุมวิท 77, โครงการสนามกอล์ฟ ฟลอร่า วิลล์ กอล์ฟ แอนด์ คันทรี คลับ, โครงการบางกอกฟรีเทรดโซนโรงงานและคลังสินค้าเพื่อเช่า ที่บริหารงานโดย บริษัท พรอสเพค ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด
โดย 3 ไตรมาสแรกของปี 2562 บริษัทฯ สามารถสร้างรายได้รวมทั้งสิ้น 3,742 ล้านบาท แบ่งเป็นรายได้จาก ธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เพื่อขาย มีรายได้อยู่ที่ 3,237 ล้านบาท และธุรกิจเพื่อเช่าและเพื่อการบริการ 242 ล้านบาท และมีกำไรอยู่ที่ 232.7 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจาก 172.3 ล้านบาท เมื่อเทียบกับปี 2561
ขอบคุณข้อมูลจาก www.mk.co.th