นายวรวุฒิ กาญจนกุล นายกสมาคมธุรกิจรับสร้างบ้าน กล่าวว่า ปัจจุบันบริษัทฯรับสร้างบ้านที่เป็นสมาชิกของสมาคมฯ มีส่วนแบ่งการตลาดราว 25% คิดเป็นมูลค่าตลาดรวม 12,500 ล้านบาท ขณะที่ในปี 2563 คาดว่า ธุรกิจรับสร้างบ้านจะสามารถดึงส่วนแบ่งการตลาดรวมได้โตเพิ่มขึ้น 5% จากการเพิ่มจำนวนสมาชิกสร้างบ้านในภูมิภาค,การกระตุ้นการรับรู้ พร้อมสร้างความเชื่อมั่นของธุรกิจรับสร้างบ้านต่อผู้บริโภค ทั้งนี้ในปี 62 ที่ผ่านมา ตลาดบ้านสร้างเองมีมูลค่าตลาดรวมสูงถึง 2 แสนล้านบาท โดยส่วนใหญ่เป็นบ้านราคา 1-3 ล้านบาท ในพื้นที่ต่างจังหวัด

         ในวาระดำรงตำแหน่งนายกสมาคม ปี 2563-2565 จึงตั้งใจผลักดัน นโยบายหลัก 3 ด้าน ผลักดันให้ธุรกิจเติบโตต่อเนื่อง รับกระแสเศรษฐกิจที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว โดยนโยบายหลัก 3 ด้าน คือ 1. สร้างสมาคมฯให้เป็นที่เชื่อมั่นต่อผู้บริโภค อาทิ การพัฒนาเว็ปไซต์สมาคมฯเพื่อให้ผู้บริโภคเข้าถึงข้อมูลได้อย่างถูกต้อง,จัดงานแสดงสินค้ารับสร้างบ้านพร้อมประชาสัมพันธ์อย่างทั่วถึง 2. สร้างการมีส่วนร่วมของสมาชิกเพื่อสร้างคุณค่า ในการพัฒนาตลาดรับสร้างบ้านร่วมกัน ผ่านการพัฒนาผลิตภัณฑ์ และบริการ ทั้งแบบบ้าน การก่อสร้าง กลยุทธ์ทางการตลาด เสนอต่อผู้บริโภคผ่านงานแสดงสินค้า รวมถึงความร่วมมือกับสถาบันการศึกษาที่จะผลิตบุคลากรเข้าสู่ธุรกิจ และ 3. การพัฒนาอย่างยั่งยืน โดยสมาคมฯจะผลักดันสมาชิกให้เติบโตอย่างยั่งยืน ภายใต้การเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจ ซึ่งจะเน้นการสร้างความรู้และนวัตกรรมใหม่ๆ สร้างทักษะบุคลากรผ่านงานอบรมสัมมนา ดูงานต่างประเทศ รวมถึงการแลกเปลี่ยนความรู้องค์กรภายนอกในและต่างประเทศ และสนับสนุนให้สมาชิกออกแบบบ้านมาตรฐานที่รองรับสังคมสูงอายุด้วย

        ทั้งนี้การพัฒนานโยบายดังกล่าวภายในระยะเวลา 3 ปี จะแบ่งเป็นในปีแรก การเสริมสร้างการรับรู้ให้กับสังคม ภาครัฐ หน่วยงานต่าง ๆ ส่วนปีที่ 2 จะเน้นการพัฒนาทำคู่มือมาตรฐานรับสร้างบ้าน และปีที่ 3 จะก้าวสู่ความยั่งยืน เพื่อวิเคราะห์ผลงานด้านการรับรู้ของผู้บริโภค การพัฒนา-เพิ่มจำนวนสมาชิก พร้อมแนวทางให้กับคณะผู้บริหารรุ่นต่อไป   

อย่างไรก็ดีกลุ่มธุรกิจรับสร้างบ้าน อยากให้รัฐบาลออกมาตรการกระตุ้นกำลังซื้ออสังหาฯ ซึ่งนับรวมธุรกิจรับสร้างบ้านด้วย เพื่อเป็นการสนับสนุนให้ธุรกิจรับสร้างบ้านเดินหน้าต่อไปได้ และทำให้คนไทยมีบ้านได้ง่ายขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มลูกค้าตามต่างจังหวัด ที่ส่วนใหญ่นิยมสร้างบ้านในระดับราคา 1-3 ล้านบาท

ข้อมูลจาก สมาคมธุรกิจรับสร้างบ้าน