อันตรายกว่าที่คิด! นักวิจัยพบ ไวรัส COVID-19 มีชีวิตอยู่บนพื้นผิวได้นาน 17 วัน
สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ในช่วงนี้ ทำให้หลายคนต้องใส่ใจเรื่องความสะอาดกันมากขึ้น เพราะสามารถติดต่อกันได้ผ่านละอองฝอยจากผู้ติดเชื้อ ในกรณีที่อยู่ใกล้ชิดกัน รวมถึงการสัมผัสสารคัดหลั่งของผู้ติดเชื้อตามพื้นผิวต่าง ๆ แล้วนำมาสัมผัสใบหน้า จนทำให้เชื้อไวรัสเข้าสู่ร่างกายผ่านเยื่อบุตา จมูก หรือปาก
แต่ที่น่ากลัวไปยิ่งกว่านั้น คือข้อมูลใหม่ที่เพิ่งปรากฏว่า เชื้อไวรัส COVID-19 หรือที่มีชื่อเรียกอย่างเป็นทางการว่า SARS-CoV-2 มีชีวิตอยู่ได้ยืนยาวกว่าที่คิด!
โดยทีมนักวิจัยของ CDC (ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งสหรัฐอเมริกา) พบข้อมูลจากเรือสำราญ Diamond Princess ที่มีผู้ติดเชื้อกว่า 700 คนว่า เชื้อ COVID-19 มีชีวิตอยู่บนพื้นผิวได้นานถึง 17 วันเลยทีเดียว นับจากวันที่ผู้โดยสารออกจากห้องไปแล้ว
ทั้งนี้ ทีมนักวิจัยได้ตรวจหาเชื้อไวรัสในห้องที่ยังไม่ได้ทำความสะอาดของผู้โดยสารที่ติดเชื้อบนเรือทั้งที่แสดงอาการและไม่แสดงอาการ ก่อนจะพบร่องรอยของเชื้อไวรัสบนพื้นผิวที่แตกต่างกันไป ซึ่งหากเป็นห้องที่ผ่านการทำความสะอาดหรือฆ่าเชื้อแล้วนั้น จะสามารถฆ่าเชื้อไวรัส COVID-19 ได้ทั้งหมด
ขณะที่ผลการศึกษาก่อนหน้านี้ของสถาบันโรคภูมิแพ้และโรคติดเชื้อแห่งชาติในมอนทานา ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของสถาบันสุขภาพแห่งชาติสหรัฐฯ (NIH) ระบุไว้ว่า เชื้อไวรัส COVID-19 มีชีวิตอยู่บนพื้นผิวต่าง ๆ ได้ไม่เท่ากัน
โดยหากอยู่บนกระดาษแข็งจะมีชีวิตอยู่ได้ 24 ชั่วโมง ขณะที่พื้นผิวซึ่งเป็นทองแดงนั้นจะมีชีวิตอยู่ได้เพียง 4 ชั่วโมง แต่ถ้าเป็นพลาสติก และสแตนเลสจะมีอายุยืนยาวได้ถึง 3 วันเลยทีเดียว
นอกจากนี้ งานวิจัยชิ้นเดียวกันนี้ ยังสามารถตรวจจับเชื้อไวรัสที่ปะปนอยู่ในละอองฝอยได้ด้วย หลังผ่านการปล่อยละอองฝอยจากการไอจามไปแล้ว 3 ชั่วโมง!
ดังนั้น หากไม่อยากเป็นหนึ่งในผู้ติดเชื้อ COVID-19 จึงควรป้องกันตนเองให้ดีทั้งการสวมหน้ากากอนามัย ล้างมือให้สะอาดหรือใช้เจลแอลกอฮอล์ ไม่หยิบจับสิ่งของใด ๆ แล้วนำมาสัมผัสใบหน้า กินร้อน ช้อนส่วนตัว ไม่ใช่สิ่งของร่วมกับผู้อื่น รวมถึงเว้นระยะห่างทางสังคม (Social Distancing) อย่างน้อย 1-2 เมตร
ที่มา : mirror.co.uk
SOURCE : www.tonkit360.com