ค้นหา "จุดขาย" ในตัวคุณด้วยหลัก Reality Therapy
นอกจาก COVID-19 จะทำให้เกิด New Normal แล้ว ยังทำให้หลายคนต้องหางานใหม่ เพราะมีคนจำนวนมากที่ต้องตกงาน ซึ่งในสถานการณ์เช่นนี้มีหลักจิตวิทยาที่เรียกว่า Reality Therapy ที่ดิฉันมองว่า สามารถนำมาปรับใช้ในการการค้นหาเอกลักษณ์แห่งความสำเร็จเพื่อนำมาเป็น “จุดขาย” ของผู้ที่กำลังมองหางานใหม่ให้สามารถหางานได้ง่ายขึ้น และ มีความโดดเด่นมากขึ้นในสนามการหางานค่ะ
โดย Reality Therapy นั้น เป็นแนวคิดของ William Glasser ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญทางจิตวิทยาที่ทำให้เกิดการให้คำปรึกษาแนวใหม่ที่มีแนวคิดว่า “จงรับผิดชอบและควบคุมวิถีชีวิตของท่านเอง และเผชิญหน้ากับสิ่งที่เกิดขึ้นจากการกระทำของท่าน” แปลไทยเป็นไทยได้ว่า Reality Therapy จะมุ่งให้ผู้รับการบำบัดมีความรับผิดชอบในชีวิตมากขึ้นค่ะ และ มีความกล้าที่จะยอมรับและเผชิญหน้ากับผลของการกระทำของตนเอง พร้อมทั้งทำให้ผู้บำบัดสามารถค้นหาเอกลักษณ์แห่งความสำเร็จของตนเองได้ในที่สุดค่ะ ซึ่งสามารถนำมาประยุกต์ใช้ในการสร้าง “จุดขาย” เพื่อสมัครงานใหม่ หรือ นำมาใช้ในการหาเอกลักษณ์ของคุณ เพื่อนำมาต่อยอดสร้างรายได้ ด้วยเทคนิค 9 ข้อ ดังนี้ค่ะ
1. ตั้งเป้าหมายในชีวิต ก่อนจะวางแผนหางานใหม่ หรือ วงแผนทำธุรกิจส่วนตัว ขอให้เรากลับมาพิจารณาตัวเราก่อนนะคะว่า เรา “มีเป้าหมายอะไรในชีวิต” เรามองภาพของเราในอีก 10 ปี 20 ปีว่าอย่างไร เมื่อเราเห็นภาพที่เราต้องการจะเป็นในอนาคตชัด เราจะสามารถวางแผนและเดินตามแผนเพื่อให้บรรลุเป้าหมายในชีวิตได้ค่ะ
2. อยู่กับปัจจุบัน เมื่อเราต้องเปลี่ยนงาน หรือ ตกงาน สิ่งแรกที่ไม่ควรทำ คือ “โทษตัวเอง” เพราะคงไม่มีใครในโลกนี้ที่ตั้งใจทำให้ตัวเองตกงานนะคะ และการตกงานส่วนใหญ่ ไม่ได้เกิดจากตัวบุคคล แต่เกิดจากสภาวะเศรษฐกิจ ซึ่งมันเกินมือเราจะไปควบคุมได้ และการโทษตัวเองก็ไม่ได้ทำให้อะไรดีขึ้นค่ะ เพราะฉะนั้นการอยู่กับปัจจุบัน ซึ่งเป็นหัวใจหลักของ Reality Therapy คือ การดูว่าปัจจุบันเรามีต้นทุนที่จะก้าวต่อไปอย่างไร ทั้งเรื่องความรู้ ความสามารถ เงิน กำลังใจ และทางเลือกในชีวิต สิ่งเหล่านี้ต่างหากค่ะ ที่จะทำให้เราสามารถใช้ชีวิตต่อได้อย่างปกติสุข
3. เชื่อในตัวเอง คุณคงเคยได้ยินคำกล่าวที่ว่า “ลิขิตฟ้า หรือจะสู้มานะตน” ใช่ไหมคะ และคำกล่าวนี้ค่ะ ที่จะเป็นกำลังใจให้เราสู้ต่อไปในวันที่โหดร้าย เพราะคนเดียวที่อยู่กับเราเสมอ คือ ตัวเราเอง และคนเดียวที่จะพาเราออกจากสถานการณ์เลวร้าย ก็คือ ตัวเราเองอีกเช่นกัน ซึ่งมีผลงานวิจัยทางจิตวิทยาได้ยืนยันว่า คนที่มีความเชื่อในตนเองสูง จะประสบความสำเร็จในชีวิตมากกว่าคนที่เชื่อในอำนาจนอกตนค่ะ
4. กล้าเผชิญหน้ากับปัญหา โลกนี้ไม่มีที่ว่างให้คนที่ถอดใจ ซึ่งหลัก Reality Therapy ก็บอกเช่นนั้น ว่าการที่จะสามารถค้นหาอัตลักษณ์แห่งความสำเร็จได้ หรือ ประสบความสำเร็จได้ เราต้องการชนกับปัญหา เราต้องฝึกฝนตนเอง พัฒนาตนเองให้สามารถต่อสู้กับปัญหาต่าง ๆ ได้ ซึ่งการกล้าเผชิญหน้ากับปัญหานี่ค่ะ จะทำให้เราแกร่งขึ้น เข้มแข็งขึ้น และรู้สึกว่าเรามีค่ามากขึ้นค่ะ
5. กำลังใจเป็นเรื่องสำคัญ ในทางจิตวิทยาบอกไว้ว่า สิ่งที่มนุษย์ต้องการเพื่อให้มีชีวิตรอด คือ “ความรัก” เพราะการที่เราถูกรัก หรือ เป็นฝ่ายรัก ต่างก็ทำให้เรารู้สึกว่าเรามีตัวตน มีคุณค่า เป็นที่ต้องการของใครสักคน และในช่วงวิกฤตของชีวิตด้วยแล้ว ความรักและกำลังใจจากคนรอบข้างสำคัญมากค่ะ เพราะไม่มีใครอยากถูกทิ้งไว้ลำพัง
6. รู้ว่าเราต้องการอะไร การรู้ความต้องการของตัวเองเป็นกุญแจสำคัญทางจิตวิทยาที่จะทำให้เราค้นหาตัวเองพบ เพราะเมื่อเรารู้ว่าเราต้องการอะไร เราจะสามารถตอบสนองต่อความต้องการของเราได้อย่างถูกต้อง ซึ่ง Reality Therapy บอกไว้ว่า การตอบสนองความต้องการของตัวเองจนเรารู้สึกพอใจแล้ว จะทำให้เรามี “ใจ” ที่จะทำอย่างอื่นต่อและมีอารมณ์ที่มั่นคงมากขึ้นด้วยค่ะ
7. ใช้เหตุผลมากกว่าอารมณ์ หลายครั้งที่ “ความหัวร้อน” จะทำให้เรามีปัญหา และเสียโอกาสดี ๆ ในชีวิตไป ดังนั้น หากเรามีสติมากขึ้น สามารถกดอารมณ์ร้อน ๆ ของเราไว้ได้ก็จะสามารถส่งผลดีต่อเราในการลงมือทำสิ่งต่าง ๆ มากขึ้น
บทความแนะนำ “3 วิธีลดอาการหัวร้อน โกรธง่าย”
8. นำเรื่องที่ได้รับการยอมรับมาเป็น “จุดขาย” หากคุณมองไม่ออกว่าเรามีจุดเด่นอะไร หรือ กำลังเกิดความไม่มันใจว่าสิ่งที่เราชอบ สิ่งที่เราถนัดเป็นเรื่องที่ดีในสายคนอื่นไหม วิธีหาคำตอบ คือ การถามคนรอบข้างว่าเขาเห็นเราเก่งอะไร หรือ เรามีข้อดีอะไรบ้าง และเมื่อได้คำตอบแล้ว เราก็ฝึกฝนพัฒนาจุดเด่นนั้น ให้กลายเป็น “จุดขาย” เพื่อนำมาใช้ในการหางาน หรือต่อยอดทำธุรกิจได้ค่ะ
บทความแนะนำ “7 วิธีค้นหาตัวตน สำหรับคนที่ไม่รู้จักตัวเอง”
9. ยอมรับข้อผิดพลาดของตัวเอง ในข้อก่อนหน้าที่แนะนำให้เราตามหา “จุดขาย” ทีนี้ เรามาตามหาจุดที่ควรตัดทิ้งกันบ้างค่ะ ซึ่งวิธีการหา คือ การทบทวนตัวเองว่าในการทำงานที่ผ่านมาเราพลาดตรงไหน เราทำอะไรผิดไป และจะแก้ไขอย่างไร เพราะตามหลักจิตวิทยาหรือหลัก Reality Therapy บอกไว้ว่า “อดีตมีไว้ให้เรียนรู้” และคนที่จะประสบความสำเร็จได้ก็คือ คนที่สามารถนำสิ่งที่เรียนรู้จากอดีตมาปรับใช้ในปัจจุบันค่ะ
บทความแนะนำ “ป้องกันตัวเองจากโรคซึมเศร้า เมื่อต้องตกงาน”
สีสันหนึ่งของชีวิตก็คือความลำบากค่ะ แม้ว่าวันนี้เราจะล้ม แต่เรายังมี “ของ” มีความสามารถ มีคนรอบข้างที่รักเรา ขอให้คุณผู้อ่านลองนำ 9 เทคนิคข้างต้นมาปรับใช้ดูนะคะ เชื่อว่า ไม่นานคุณจะสามารถลุกขึ้นใหม่อย่างสง่างามแน่นอนค่ะ เป็นอีกหนึ่งกำลังใจให้นะคะ
iSTRONG ผู้ให้บริการด้านสุขภาพจิตและครอบครัว
บริการให้คำปรึกษาโดยนักจิตวิทยา นักจิตบำบัด นักจิตวิทยาคลินิกที่มีใบรับรอง
สามารถเลือกคุยทางโทรศัพท์หรือการพูดคุยแบบส่วนตัว (Private Counseling)
และคอร์สออนไลน์ | Classroom Workshop
รวมถึงบทความจิตวิทยาอีกมากมาย
Contact : https://www.istrong.co/service
ประวัติผู้เขียน : จันทมา ช่างสลัก บัณฑิตสาขาวิชาเอกจิตวิทยาคลินิก เกียรตินิยมอันดับ 2 จากรั้ว มช. และมหาบัณฑิตด้านการพัฒนาสังคม NIDA มีประสบการณ์ด้านจิตวิทยาเด็ก 4 ปี เป็นผู้ช่วยนักวิจัยด้านจิตวิทยา 1 ปี ปัจจุบันเป็นนักสังคมสงเคราะห์ปฏิบัติการที่ประยุกต์ใช้ศาสตร์ทางจิตวิทยาในการปฏิบัติงานมากว่า 5 ปี
SOURCE : www.istrong.co