ปัจจุบัน เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ คอมเมอร์เชียล (ประเทศไทย) มีพื้นที่สำนักงานที่อยู่ภายใต้การดูแล รวมทั้งสิ้น 5 อาคาร ได้แก่ อาคารมิตรทาวน์ ออฟฟิศ ทาวเวอร์ อาคารเอฟวายไอ เซ็นเตอร์ อาคารโกลเด้นแลนด์ และภายใต้ทรัสต์เพื่อการลงทุนในสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์โกลเด้นเวนเจอร์ (GVREIT) ได้แก่ อาคารสาทรสแควร์ และอาคารปาร์คเวนเชอร์ คิดเป็นพื้นที่รวมกว่า 209,000 ตารางเมตร มีพนักงานของบริษัทฯ ผู้เช่าชั้นนำในประเทศไทยและต่างประเทศกระจายในหลากหลายธุรกิจซึ่งมีผู้ใช้บริการมากกว่า 20,000 คนต่อวัน โดยมี occupancy rate ที่ 90% 



นายวิทวัส คุตตะเทพ รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส สายโครงการเชิงพาณิชยกรรม เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ คอมเมอร์เชียล (ประเทศไทย) พบว่าในปี 2563 ที่ผ่านมา ประเทศไทยและทั่วโลกต่างต้องเผชิญกับการแพร่ระบาดของโควิด-19 รอบแรก ส่งผลโดยตรงต่อตลาดอาคารสำนักงานของไทย รวมถึงนโยบายของหลายๆ บริษัทที่ให้พนักงานทำงานจากที่บ้าน (Work from Home) เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ความต้องการเช่าหรือขยายพื้นที่สำนักงานในปี 2563 ลดลงกว่า 50%

ดังนั้น ในฐานะผู้ให้บริการเช่าพื้นที่ออฟฟิศ จึงต้องปรับตัว รองรับเทรนด์ใหม่ของการให้บริการพื้นที่สำนักงาน โดยผสานรูปแบบพื้นที่สำนักงานแบบมาตรฐาน (Core) และแบบยืดหยุ่น (Flex) เข้าไว้ด้วยกันอย่างลงตัว ทำให้มีพื้นที่หลากหลายรูปแบบให้เลือกใช้งานตามความต้องการ พร้อมตั้งเป้ารักษายอดผู้เช่าไว้ที่ 90% 

Core & Flex คือ รูปแบบการให้บริการพื้นที่สำนักงานแบบใหม่ที่ผสานพื้นที่สำนักงานแบบมาตรฐาน (Core) ที่ผู้เช่าสามารถออกแบบและตกแต่งพื้นที่สำนักงานได้ตามความต้องการ และแบบยืดหยุ่น (Flex) ที่มาพร้อมกับสิ่งอำนวยความสะดวกที่จำเป็นอย่างครบครัน พร้อมด้วยทีมบริหารจัดการพื้นที่มืออาชีพ โดยมีจุดเด่นที่ การจัดให้มีพื้นที่ส่วนกลางร่วมกันระหว่างผู้เช่า อาทิ เจ้าหน้าที่ต้อนรับ (Reception) ห้องประชุม และ ห้องครัว







ทั้งนี้ บริษัทฯ ได้นำร่องใช้คอนเซ็ปต์ Core & Flex ในการจัดพื้นที่ให้แก่ สำนักงานใหญ่ของบริษัท เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ ประเทศไทย เพื่อความคล่องตัวในการปรับขนาดพื้นที่สำนักงาน รองรับการขยายตัวทางธุรกิจ ณ อาคารสามย่าน มิตรทาวน์ 

สำหรับปี 2564 บริษัทฯ คาดการณ์ว่าความต้องการเช่าหรือขยายพื้นที่สำนักงานจะฟื้นตัวดีขึ้นกว่าปี 2563 ซึ่งเป็นปีที่ความต้องการพื้นที่สำนักงานลดลงต่ำที่สุดในรอบ 10 ปี เนื่องจากภาคธุรกิจสามารถปรับตัวและรับมือกับสถานการณ์หลังเผชิญหน้าโควิด-19 รอบแรกเมื่อปีก่อน โดยกลุ่มธุรกิจที่มีแนวโน้มเติบโตได้ดี ได้แก่ กลุ่มธุรกิจดิจิทัล อีคอมเมิร์ซ การเงิน และธุรกิจสุขภาพ”