3 ภาคส่วนร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ( MOU)สร้าง My Ozone เมืองกัญชาที่มีระบบนิเวศครบวงจรมากที่สุด
บริษัท ณุศา ซีเอสอาร์ จำกัด พร้อมด้วย บริษัท ฮานนาบิส โกลบอล จำกัด และ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี 3 ภาคส่วนชั้นแนวหน้าของประเทศ ประกาศ บันทึกข้อตกลงความร่วมมือ ในการสร้างเมือง กัญชง กัญชา ที่มีระบบนิเวศครบวงจรมากที่สุด โดย บริษัท ณุศา ซีเอสอาร์ จำกัด และ บริษัท ฮานนาบิส โกลบอล จำกัด จับมือร่วมกับ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี นำโดย ศาสตราจารย์ ดร.หนึ่ง เตียอำรุง คณบดีสำนักวิชาเทคโนโลยีการเกษตร มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี รองศาสตราจารย์ ดร.อนันต์ ทองระอา รักษาการอธิบดีมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี และ นายแพทย์ จักรพงศ์ เอี้ยวตระกูล โรงพยาบาลมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี ได้ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ( MOU) อย่างเป็นทางการ ที่ My Ozone เขาใหญ่ จ.นครราชสีมา เพื่อประกาศความร่วมมือในการสร้างให้ My Ozone เป็นเมืองกัญชาที่มีระบบนิเวศครบวงจรมากที่สุด โดย มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี ให้ความมือในด้านการศึกษา วิชาการ การวิจัย ภาคเอกชนอย่าง บ.ณุศา ซีเอสอาร์ฯ และ บ.ฮานนาบีส โกลบอลฯ ผลักดันเรื่องการลงทุน และการเปิดตลาดต่างประเทศให้ก้าวไปได้ไกลในนานาประเทศทั่วโลก ต่อยอดให้กัญชาและกัญชง เป็นพืชเศรษฐกิจใหม่แห่งอนาคตของไทย
รศ. ดร.อนันต์ ทองระอา รักษาการแทนอธิการบดีมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี กล่าวถึงความร่วมมือในครั้งนี้ว่า “ ทั้งสามฝ่ายมีความประสงค์ที่จะร่วมมือกันวิจัยพัฒนาและคิดค้นนวัตกรรมให้เกิดเป็น “คลัสเตอร์”ระบบนิเวศด้านกัญชา กัญชง การผลักดันเทคโนโลยี และ นวัตกรรมทางการแพทย์สาธารณสุข โดยให้ประชาชนเข้าถึงได้อย่างปลอดภัย ส่งเสริมนวัตกรรมศูนย์ความเป็นเลิศทางการแพทย์” โดยเริ่มตั้งแต่การปลูก การพัฒนาสายพันธุ์คุณภาพที่ให้ปริมาณสารสำคัญสูง การสกัดกลั่นสารสำคัญ การสร้างมาตรฐานการผลิต การใช้ประโยชน์ของพืชกัญชงทางเศรษฐกิจ ผลิตภัณฑ์นวัตกรรมใหม่จาก กัญชง การคิดค้นตำรับยาและการใช้สารสำคัญในการพัฒนาคุณภาพวัตถุดิบและผลิตภัณฑ์ที่มีความปลอดภัย การพัฒนาต่อยอดทางด้านเทคโนโลยีการแพทย์และการสาธารณสุข พร้อมด้วยการจัดทำสรุปสถิติในการให้การรักษาให้เกิดการพัฒนาและต่อยอดทางการแพทย์ให้กับประเทศไทย และสนับสนุนส่งเสริมความมั่นคงทางด้านกัญชงทางเศรษฐกิจ และส่งเสริมด้านการท่องเที่ยวของประเทศโดยรวม ซึ่งสอดคล้องกับแผนยุทธศาสตร์การขับเคลื่อนประเทศด้วย 10 อุตสาหกรรมเป้าหมายหลัก
คุณศิริญา เทพเจริญ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ณุศา ซีเอสอาร์ จำกัด ได้กล่าวว่า “ทางณุศาศิริฯ มีแนวคิดในเรื่องการพัฒนา กัญชง กัญชา ทั้งเพื่อสุขภาพ และเพื่อประโยชน์ทางการแพทย์ ผ่านการถ่ายทอดองค์ความรู้ งานวิจัย จากทุกมุมมอง ซึ่งในอนาคตจะทำให้เกิดการเอื้อประโยชน์ในทางการแพทย์ ที่จะดึงศาสตร์การใช้ กัญชง กัญชา ครบทุกมิติผลักดันให้ประเทศไทยเราเป็น Medical Hub ของโลก
การจับมือกันครั้งนี้ถือเป็นเฟสแรก ในการร่วมงานวิจัย ที่จะนำสาร CBD (Cannabidiol) ที่มีอยู่ในกัญชง กัญชา ที่มีคุณสมบัติเรื่องลดความวิตกกังวล ลดความตึงเครียดโดย คุณหมอ จักรภพ เอี้ยวตระกูล ซึ่งเป็นหัวหน้าโครงการวิจัยกัญชาทางการแพทย์ เป็นที่ปรึกษาของ โรงพยาบาลพานาซี ได้ใช้ สารตัวนี้ในการรักษาผู้ป่วยที่เป็นโรคเครียด นอนไม่หลับ และติดยานอนหลับ โดยสามารถใช้สาร CBD นี้มาบรรเทาอาการของผู้ป่วยได้ และที่สำคัญสารตัวนี้ยังเป็นสารที่ลดการอักเสบ ซึ่งก็จะทำให้สามารถนำไปใช้ร่วมกับการรักษาโควิดได้ จึงเล็งเห็นว่าควรนำผลงานวิจัยนี้ไปต่อยอดได้อีก
ทั้งนี้การจับมือร่วมกันกับหน่วยงานที่เป็นเอกในด้านต่างๆนี้ ก็เพื่อผลักดันให้กัญชาและกัญชง เป็นพืชเศรษฐกิจใหม่แห่งอนาคตของไทย จึงเกิดการร่วมมือกันของ 3 พันธมิตรในครั้งนี้ เริ่มจาก การผนึกกำลังและระดมผู้เชี่ยวชาญจากทุกภาคส่วน เพื่อสร้างนวัตกรรมกัญชา ตั้งแต่การถ่ายทอดเทคโนโลยีการปลูก การพัฒนาสายพันธุ์ การวิจัย เพื่อประโยชน์ทางการแพทย์ทั้งแผนไทยและแพทย์ทางเลือก โดยขับเคลื่อนผ่านเครือข่ายวิสาหกิจชุมชน เพื่อสร้างรายได้ให้แก่เกษตรกรและเพิ่มมูลค่าให้กับพื้นที่ และที่สำคัญ ยังร่วมมือในการผลิตสารสกัดสำคัญ พร้อมการตรวจสอบคุณภาพ ตลอดจนให้ประชาชนเข้าถึง กัญชา และ กัญชง ได้อย่างปลอดภัยตามมาตรฐาน”
คุณอุดม หวัง กรรมการผู้จัดการ บริษัท ณุศา ซีเอสอาร์ จำกัด และผู้บริหารจาก บริษัท ฮานนาบิส โกลบอล จำกัด ได้กล่าวว่า “ปัจจุบัน กัญชง และกัญชา กำลังได้รับการพัฒนาในทุกๆด้าน ทั้งด้านสาธารณสุข การแพทย์ และอื่นๆอีกมากมายที่จำเป็นต้องใช้ในชีวิตประจำวัน บริษัทมีศักยภาพในด้านการเปิดตลาดไปสู่ต่างประเทศ โดยเล็งเห็นว่า ผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับการนำสารที่ผลิตได้จาก กัญชา กัญชง นอกจากในด้านการแพทย์ ยังสามารถนำไปค้นคว้า วิจัย สร้างสรรค์เป็นผลิตภัณฑ์ ได้อีกมากมาย นอกจากเราจะผลิตเพื่อตลาดในประเทศไทย ยังสามารถเปิดไปสู่ตลาดโลกได้อีกด้วย จึงอยากร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการสนับสนุนการร่วมมือในครั้งนี้”