ZOLL รับนโยบายมหาดไทยออกกฎตึกสูง ติดตั้งเครื่องกระตุกหัวใจไฟฟ้าแบบอัตโนมัติ (AED) ภายใน 2 ธันวาคม
ZOLL MEDICAL (โซลล์ เมดิคอล) ผู้นำตลาดอุปกรณ์ทางการแพทย์ ด้วยนวัตกรรมและโซลูชั่นซอฟต์แวร์ที่ช่วยยกระดับการดูแลฉุกเฉินและช่วยชีวิตจากประเทศสหรัฐอเมริกา ส่ง เครื่องกระตุกหัวใจไฟฟ้าแบบอัตโนมัติ (Automated External Defibrillator) หรือ AED 3 รุ่นรุกตลาดประเทศไทย ชูจุดเด่นความเป็นแบรนด์ระดับโลกที่แพทย์และผู้เชี่ยวชาญด้านการดูแลฉุกเฉินให้ความไว้วางใจ มาพร้อมเทคโนโลยี Real CPR Help® ที่สามารถให้คำแนะนำขั้นตอนการทำ CPR คุณภาพสูง (High-Quality CPR) แก่ผู้กู้ชีพ พร้อมด้วยมาตรฐาน FDA / PMA จากสหรัฐอเมริกา เพิ่มทางเลือกให้ผู้ใช้งาน ที่คาดว่าตลาดจะมีความต้องการสูงไม่ต่ำกว่า 10,000 เครื่อง หลังกระทรวงมหาดไทยออกกฎกระทรวงให้ตึกสูงและอาคารสาธารณะต้องติดตั้ง AED มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 2 ธันวาคม 2564 นี้ เป็นต้นไป
นายนคร พรณัฐวุฒิกุล ผู้จัดการประจำประเทศ บริษัท โซลล์ เมดดิคอล (ประเทศไทย) จำกัด หรือ ZOLL กล่าวว่า “จากการที่กระทรวงมหาดไทยได้ประกาศกฎกระทรวงโดยกำหนดให้อาคารสูง*และอาคารขนาดใหญ่พิเศษ**ที่เป็นอาคารสาธารณะต้องจัดให้มีพื้นที่หรือตำแหน่งเพื่อติดตั้งเครื่องฟื้นคืนคลื่นหัวใจด้วยไฟฟ้าแบบอัตโนมัติ (Automated External Defibrillator) หรือ AED โดยได้มีการประกาศในราชกิจจานุเบกษาเมื่อวันที่ 4 มิถุนายน 2564 ให้เริ่มใช้บังคับเมื่อพ้นกำหนด 180 วันนับแต่วันประกาศในราชกิจจานุเบกษา คือตั้งแต่วันที่ 2 ธันวาคม 2564 เป็นต้นไปนั้น นับเป็นการยกระดับการช่วยเหลือผู้ประสบภัยหรือผู้ป่วยฉุกเฉินในอาคาร เพื่อให้บุคคลที่ใช้ประโยชน์ในอาคารได้รับความปลอดภัยยิ่งขึ้น โดยเฉพาะในกลุ่มผู้มีภาวะหัวใจหยุดเต้นเฉียบพลัน ซึ่งในประเทศไทยมีอัตราการเสียชีวิตกว่า 54,000 คนต่อปี (เฉลี่ย 6 คนต่อชั่วโมง) หากมีการติดตั้งเครื่อง AED ในอาคารในจุดที่เข้าถึงเพื่อการใช้งานได้ง่าย จะช่วยลดอัตราการเสียชีวิตจากภาวะดังกล่าวได้เป็นอย่างมาก
ZOLL MEDICAL (โซลล์ เมดิคอล) ในฐานะผู้นำด้านการพัฒนาอุปกรณ์และโซลูชั่นซอฟต์แวร์ที่ช่วยยกระดับการดูแลฉุกเฉินและช่วยชีวิตจากประเทศสหรัฐอเมริกาจึงขานรับนโยบายดังกล่าว ด้วยการแนะนำเครื่องเครื่องฟื้นคืนคลื่นหัวใจด้วยไฟฟ้าแบบอัตโนมัติ (Automated External Defibrillator) หรือ AED จำนวน 3 รุ่น เพื่อตอบโจทย์ผู้ใช้งานในอาคารที่มีลักษณะแตกต่างกัน โดยเน้นจุดเด่นของความเป็นแบรนด์ระดับโลกที่เชี่ยวชาญด้านการพัฒนาอุปกรณ์และซอฟต์แวร์เพื่อการการปฐมพยาบาลและช่วยชีวิตมาอย่างยาวนานกว่า 40 ปี และฟังก์ชัน Real CPR Help®*** ที่ช่วยให้ผู้กู้ชีพสามารถช่วยเหลือผู้เจ็บป่วยได้อย่างทันท่วงทีแบบเรียลไทม์ สามารถให้ข้อมูลทั้งอัตราและความลึกของการปั๊มหัวใจได้ทันที เพื่อเพิ่มโอกาสความอยู่รอดของผู้ป่วยที่เกิดภาวะหัวใจหยุดเต้นฉับพลัน ด้วยการทำ CPR คุณภาพสูง (High-Quality Cardiopulmonary Resuscitation)
โดยเครื่อง ZOLL AED ที่เน้นการทำตลาดในประเทศไทย ประกอบด้วยทั้งหมด 3 ผลิตภัณฑ์ ได้แก่
• AED Plus เครื่อง AED พื้นฐานที่สามารถทนต่อสภาวะแวดล้อมต่าง ๆ และมีความสามารถในการทดสอบตัวเองโดยอัตโนมัติ พร้อมฟังก์ชั่นสำหรับการทำ CPR แนะนำการใช้งานแบบเรียลไทม์พร้อมกับการแจ้งเตือนด้วยภาพและเสียงเป็นภาษาไทย โดยเหมาะสมสำหรับผู้ใหญ่แต่สามารถเพิ่มแผ่นอิเล็กโทรด (electrode) สำหรับเด็กได้ เหมาะกับสถานที่ที่มีความต้องการใช้งาน AED จำนวนไม่มาก อาทิ ร้านอาหาร ฟิตเนส สนามกีฬา เป็นต้น โดย AED Plus รับประกันการใช้งาน 5 ปี
• AED 3 สัมผัสหน้าจอได้อย่างรวดเร็วและเปิดใช้งานการกำหนดค่าโดยไม่ต้องใช้อุปกรณ์หรือซอฟต์แวร์ภายนอกเพิ่มเติม รองรับแจ้งเตือนข้อมูลการทำ CPR ด้วยภาพและเสียงเป็นภาษาไทย ภาษาจีน และภาษาอังกฤษ นอกจากฟังก์ชัน Real CPR Help® แล้วยังสามารถเชื่อมต่อสัญญาณ Wi-Fi เพื่อส่งข้อมูลและเชื่อมต่อกับเครื่อง AED อื่น ๆ ได้ เหมาะกับโครงการหรืออาคารสูงที่มี AED หลายเครื่อง อาทิ โรงเรียน มหาวิทยาลัย ชุมชน ที่พักอาศัยประเภทต่าง ๆ สนามบิน เป็นต้น สำหรับชุดอิเล็กโทรดที่มาพร้อมกับ AED 3 รองรับการใช้งานทั้งเด็กและผู้ใหญ่ และรับประกันการใช้งาน 6 ปี
• AED Powerheart G5 ได้รับออกแบบมาสำหรับผู้กู้ชีพทั้งที่มีและไม่มีประสบการณ์ในการช่วยชีวิตมาก่อน เครื่องกระตุกหัวใจไฟฟ้าแบบอัตโนมัติรุ่นนี้ มาพร้อมเทคโนโลยีขั้นสูงที่ใช้งานง่าย และฟังก์ชัน Intellisense™ CPR (ICPR) ให้ข้อมูลแก่ผู้กู้ชีพได้สองภาษาในแบบเรียลไทม์ ช่วยให้ผู้กู้ชีพสามารถทำ CPR คุณภาพสูงเพื่อรักษาชีวิตผู้ป่วยที่ประสบภาวะหัวใจหยุดเต้นเฉียบพลัน พร้อมรับประกันการใช้งาน 7 ปี
เครื่อง ZOLL AED ทั้ง 3 ผลิตภัณฑ์ ได้รับการอนุมัติก่อนวางจำหน่าย (Premarket approval: PMA) และการรับรองมาตรฐานผลิตภัณฑ์จากองค์การอาหารและยาแห่งสหรัฐอเมริกา (Food and Drug Administration: FDA) สำหรับผู้ที่สนใจสามารถดูรายละเอียดของเครื่อง ZOLL AED ที่เหมาะสำหรับอาคารสาธารณะ ได้ที่ https://www.zoll.com/products/ aeds/aeds-for-public-access หรือสอบถามรายละเอียดโทร. 02-275-5501
“ปัจจุบันในประเทศไทยมีการติดตั้งเครื่อง AED กว่า 30,000 เครื่อง แต่ก็ยังเป็นตัวเลขที่น้อยกว่าเมื่อเทียบประเทศอื่น ๆ การออกกฎกระทรวงครั้งนี้จะช่วยให้เกิดการติดตั้งอย่างแพร่หลายมากขึ้น เมื่ออาคารสาธารณะต่าง ๆ มีการยกระดับความปลอดภัยได้ดี จะเป็นการเพิ่มโอกาสของการรอดชีวิตที่สูงขึ้น (Higher Survivor Rate) สิ่งหลักที่ควรคำนึงถึงในการเลือกซื้อเครื่อง AED คือการได้รับการรับรองมาตรฐานจากหน่วยงานระดับโลก มีฟังก์ชันการใช้งานที่มีประสิทธิภาพ และบริการหลังการขายที่ดีพอ โดยเฉพาะการรับประกันอุปกรณ์ ซึ่งเครื่อง AED ทั้ง 3 รุ่นของ ZOLL ได้รับการออกแบบที่ใช้งานง่ายและมีคุณภาพตามที่กล่าวเช่นกัน จะเห็นได้จากทั้งเทคโนโลยีที่ใหม่และแตกต่าง รวมถึงผลิตภัณฑ์และโซลูชั่นซอฟต์แวร์ ที่ ZOLL พร้อมส่งมอบคุณค่าการยกระดับการดูแลฉุกเฉินและช่วยชีวิตให้ผู้ป่วยได้อย่างปลอดภัย” นายนคร กล่าวทิ้งท้าย
* อาคารสูง (กฎกระทรวงฉบับที่ 33) คือ อาคารที่บุคคลอาจเข้าอยู่หรือเข้าใช้สอยได้โดยมีความสูง 23 เมตรขึ้นไป
** อาคารขนาดใหญ่พิเศษ (กฎกระทรวงฉบับที่ 33) คือ อาคารที่ก่อสร้างขึ้นเพื่อใช้อาคารหรือส่วนหนึ่งของอาคารเป็นที่อยู่อาศัยหรือประกอบกิจการประเภทเดียวกันหรือหลายประเภทโดยมีพื้นที่รวมกันทุกชั้นหรือชั้นหนึ่งชั้นใดในหลังเดียวกันตั้งแต่ 10,000 ตารางเมตรขึ้นไป
***Real CPR Help® ด้วยเทคโนโลยีมาตรวัดความเร่ง เซ็นเซอร์ภายในแผ่นอิเล็กโทรดสำหรับการทำ CPR ของ ZOLL จะทำการจับอัตราและความลึกของการปั๊มหัวใจในแต่ละครั้ง ทั้งนี้ เมื่อวางแผ่นอิเล็กโทรดลงบนตัวผู้ป่วยแล้ว ผู้ที่ทำ CPR จะทำการกดตรงตำแหน่งสำหรับวางมือบริเวณเซ็นเซอร์ที่มีการทำเครื่องหมายไว้อย่างชัดเจน โดยข้อมูลจะถูกส่งไปยังเครื่องกระตุกหัวใจไฟฟ้าแบบอัตโนมัติ (AED) ที่ทำการประมวลและแสดงผลแบบเรียลไทม์ให้แก่ผู้กู้ชีพทั้งทางหน้าจอและทางเสียง ผู้ทำการกู้ชีพจะได้ยินและมองเห็นคำแนะนำเช่น “กดให้แรงขึ้น” “แรงกดเหมาะสม” หรือ “เริ่มทำ CPR” ในกรณีที่จำเป็น โดยการแจ้งเตือนด้วยเสียงและภาพช่วยให้ผู้กู้ชีพสามารถทำ CPR คุณภาพสูง ซึ่งมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อโอกาสในการรอดชีวิตของผู้ป่วย