ซิซซา กรุ๊ป เผยแบงก์ชาติประกาศปลดล็อก LTV เอื้อโครงการโรงแรมในรูปแบบ Condotel และส่งผลดีภาพรวมตลาด เห็นพ้องประกาศเปิดประเทศรัฐบาลเดินมาถูกทาง ช่วยเกิดเม็ดเงินสะพัด - จีดีพีโต เดินหน้าโรดแมปตามแผน 7 ปี รุกอสังหาฯเพื่อการลงทุนรวม 6 โครงการ ปี 65 จ่อผุด “Avatarn Theme Park Resort” ย่านหาดลายัน จ.ภูเก็ต มูลค่า 4,700 ล้านบาท ด้าน “นาใต้ เมดิคอล เซ็นเตอร์ แอนด์ รีสอร์ต” เตรียมเปิด Medical Service ส่วนที่ 1 : Life Clinic & Well-Being Resort ปลายปี 64 นี้ ระบุหลังก่อสร้างแล้วเสร็จทั้งโครงการ พร้อมนำเข้ากอง REIT ในปี 71

นายอรรถนพ พันธุกำเหนิด ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซิซซา กรุ๊ป จำกัด ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์เพื่อการลงทุนรูปแบบ “Investment Property” (IP) ชั้นนำของประเทศไทย เปิดเผยว่า การที่ธนาคารแห่งประเทศไทย หรือ ธปท.ประกาศปลด ล็อกหลักเกณฑ์การกำกับดูแลสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยและสินเชื่ออื่นที่เกี่ยวเนื่องกับสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย (Loan to Value : LTV) 100%เป็นการชั่วคราว (กู้ได้เต็มมูลค่าหลักประกัน) ซึ่งรวมสินเชื่ออื่นนอกเหนือจากเพื่อซื้อที่อยู่อาศัยและมีที่อยู่อาศัยนั้นเป็นหลักประกันหรือสินเชื่อ Top-up แล้ว โดยจะต้องเป็นสัญญาเงินกู้ที่ทำสัญญาตั้งแต่วันที่ 20 ตุลาคม 2564 ถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2565 นั้นมองว่า มาตรการดังกล่าวจะไม่เกี่ยวเนื่องต่อการลงทุนโครงการ “นาใต้ เมดิคอล เซ็นเตอร์ แอนด์ รีสอร์ต” แต่จะเอื้อกับโครงการอื่นๆที่กำลังพัฒนาเป็นธุรกิจโรงแรมในรูปแบบ Condotel ซึ่งจะส่งผลดีกับลูกค้า และโดยภาพรวมดีต่อตลาดอสังหาฯ เพราะผู้บริโภคที่ไม่มีเงินสดในการซื้อที่อยู่อาศัย ไม่ต้องวางเงินดาวน์มาก

ส่วนกรณีที่ภาครัฐมีนโยบายเปิดประเทศในวันที่ 1 พฤศจิกายน 2564 นี้ และประกาศเปิดให้ 46 ประเทศและพื้นที่ ที่เดินทางเข้าประเทศไทยได้โดยไม่ต้องกักตัว ถือว่าเป็นการนำเงินเข้ามาในประเทศ จากชาวต่างชาติที่เข้ามาในรูปแบบการอยู่อาศัย และลงทุน ทำให้เกิดเม็ดเงินสะพัด และจีดีพีมีอัตราการเติบโตขึ้น ที่สำคัญเป็นการเน้นกลุ่มชาวต่างชาติที่มีความรู้ความสามารถด้านสาขาอาชีพต่างๆที่ในประเทศไทยยังไม่ค่อยมี จะช่วยพัฒนาศักยภาพของประเทศไทยได้ดีขึ้น และกระตุ้นเศรษฐกิจในระยะยาวได้ดี

“การเปิดประเทศแม้ ณ วันนี้ยังมีผู้ติดเชื้อในอีกระดับหนึ่ง แต่ก็มีการฉีดวัคซีนป้องกันเกิดภูมิคุ้มกันหมู่แล้ว ยิ่งเปิดประเทศได้เร็วเท่าไหร่ยิ่งส่งผลดี ล่าสุดได้เพิ่มให้ชาวต่างชาติเข้ามาก่อน 46 ประเทศ ถือว่ารัฐบาลดำเนินการมาถูกทางแล้ว” นายอรรถนพ กล่าว

สำหรับแผนการดำเนินงานในระยะเวลา 7 ปี ของบริษัทฯยังเป็นไปตามแผน คือจะรุกการพัฒนาธุรกิจในรูปแบบอสังหาริมทรัพย์เพื่อการลงทุนรวม 6 โครงการ โดยปัจจุบันพัฒนาไปแล้ว 2 โครงการ เริ่มจากในปี 2561 เป็นการพัฒนาโครงการ“วินแดม แกรนด์ ในหาน บีช ภูเก็ต” (Wyndham Grand Nai Harn Beach Phuket) ในรูปแบบ Condotel มูลค่าโครงการ 3,500 ล้านบาท และปี 2563 พัฒนาโครงการเมกะ โปรเจกต์ “นาใต้ เมดิคอล เซ็นเตอร์ แอนด์ รีสอร์ต” (Natai Medical Center & Resort) ซึ่งได้เทกโอเวอร์ในส่วนของโรงแรมมาเมื่อ 2 ปีที่ผ่านมา เมื่อรวมเม็ดเงินในการซื้อกิจการ รีโนเวทและพัฒนาโครงการแล้ว คิดเป็นมูลค่าโครงการรวมประมาณ 10,000 ล้านบาท คาดว่าจะแล้วเสร็จทั้งโครงการภายในปี 2569

ส่วนในปี 2565 มีแผนพัฒนาโครงการ “Avatarn Theme Park Resort” บริเวณหาดลายัน จ.ภูเก็ต โดยมองว่าที่ผ่านมาลูกค้าสัดส่วนประมาณ 30% ที่มาเที่ยวภูเก็ตจะเป็นในรูปแบบครอบครัว แต่ไม่ค่อยมีสวนสนุกรองรับ จึงได้ซื้อที่ดินจำนวนประมาณ 16 ไร่ พัฒนาในรูปแบบโครงการอสังหาฯเพื่อการลงทุนเมกะโปรเจกต์มิกซ์ยูส ประกอบด้วยโรงแรมระดับ 4 ดาว และสวนสนุกสำหรับเด็ก มูลค่าโครงการ 4,700 ล้านบาท ซึ่งนักลงทุนสามารถร่วมเป็นเจ้าของได้ ด้วยเงินลงทุนเริ่มต้นเพียง 5.1 ล้านบาท ส่วนรายละเอียดต่างๆยังไม่สามารถเปิดเผยได้ในขณะนี้

และปี 2565 มีแนวคิดพัฒนาโครงการฟาร์มเพื่อการเกษตรกรรม (Agriculture Farm) ขณะนี้อยู่ในระหว่างการมองหาที่ดิน ส่วนปี 2566 สนใจรุกธุรกิจอาคารสำนักงานในกทม. และปี 2567 สนใจรุกธุรกิจโรงเรียนนานาชาติ แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้

สำหรับภาพรวมตลาด Medical Tourism จากข้อมูลสถิติของอุตสาหกรรมการดูแลสุขภาพ พบว่าตลาดท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ (Wellness Tourism) มีมูลค่าที่ 639 พันล้านดอลลาร์ หรือกว่า 20 ล้านล้านบาท ขณะที่ตลาดโครงการอสังหาฯ การดูแลสุขภาพมีมูลค่าที่ 134.3 พันล้านดอลลาร์ หรือกว่า 4.4 ล้านล้านบาท โดยเฉพาะในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก มีส่วนแบ่งตลาดดังกล่าวถึง 46.8 พันล้านดอลลาร์ หรือกว่า 1.6 ล้านล้านบาท ในขณะที่ตลาดการดูแลสุขภาพทั่วโลกในปี 2563 มีมูลค่าสูงกว่า 4.75 ล้านล้านดอลลาร์ หรือกว่า 157 ล้านล้านบาท

โดยโครงการ“นาใต้ เมดิคอล เซ็นเตอร์ แอนด์ รีสอร์ต” (Natai Medical Center & Resort) ตั้งอยู่บนพื้นที่ทั้งหมด ประมาณ 72 ไร่ ซึ่งเป็นโครงการที่บริษัทมีแผนที่จะพัฒนาให้เป็น Medical Hub ในอนาคต หากได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาล หรือมีพันธมิตรเข้ามาร่วมทุนก็จะยิ่งทำให้เป็น Medical Hub ได้เร็วขึ้น ซึ่งบริษัทฯพร้อมที่จะเปิดกว้างทั้งในรูปแบบของพันธมิตรและนักลงทุน โดยที่ผ่านมาจะเป็นพันธมิตรที่เข้าร่วมทุนในกลุ่มแพทย์ เชื่อว่าหลังจากนี้จะมีนักลงทุนให้ความสนใจเข้ามาลงทุนในโครงการเมกะโปรเจกต์แห่งนี้มากขึ้น

ซึ่งในปลายปีนี้บริษัทมีแผนที่จะเปิด Medical Service ส่วนที่ 1 คือ : Life Clinic & Well-Being Resort เป็นศูนย์ฟื้นฟูสุขภาพระดับพรีเมียมควบคู่กับรีสอร์ต หรูระดับ 6 ดาว ที่ประกอบไปด้วย 12 ยูนิต โดยแต่ละหลังมีความพิเศษคือออกแบบโดยสถาปนิกชื่อดังระดับโลก พร้อมห้องอาหารบริการในคอนเซ็ปต์ Farm to Table และ Sea to Table มีเชฟมืออาชีพดีกรีระดับมิชลิน พร้อมเชฟด้านการบูรณาการสุขภาพระดับสากล ในส่วนบริการของศูนย์ฟื้นฟูสุขภาพระดับพรีเมียม เช่น การวินิจฉัยโรคแบบเชิงลึกเพื่อออกแบบโปรแกรมการรักษาเฉพาะบุคคล เวชศาสตร์ป้องกัน โดยมีการประยุกต์ความรู้ทุกด้านนำมาใช้ร่วมกันแบบองค์รวม เพื่อส่งเสริมสุขภาพที่ดีจากภายในสู่ภายนอกให้กับแขกที่เข้ารับบริการ เป็นต้น

สำหรับอีก 2 ส่วน คาดว่าจะทยอยเปิดให้บริการได้ในเฟสถัดไป คือ
–Medical Center ศูนย์การแพทย์พร้อมบริการผ่าตัดทางการแพทย์และการวินิจฉัยโรคด้วยเครื่องมือและเทคโนโลยีที่ทันสมัยที่สุด อาทิ ศาสตร์ทางการแพทย์ที่ช่วยฟื้นฟูร่างกายจากภายในสู่ภายนอกแบบองค์รวม เวชศาสตร์การกีฬา Anti-Aging บริการ IVF ศูนย์กัญชาบำบัด และการดูแลสุขภาพเพื่อก้าวสู่ยุคหลังวิกฤติโควิด-19 เป็นต้น

-Resort มีการปรับปรุงส่วนรีสอร์ตและขยายเพิ่ม พร้อมยกระดับมาตรฐานเป็นโรงแรม 5 ดาวริมหาดนาใต้ โดยมีห้องพักและพูลวิลล่า รวมของเดิมทั้งสิ้น 177 ยูนิต พร้อมกิจกรรมต่างๆ อาทิ โยคะริมหาด บริการสปาเพื่อผ่อนคลาย ห้องออกกำลังกาย พายเรือคายัค เป็นต้น ตลอดจนบริการห้องอาหาร 6 สไตล์ ทั้งไทย ซีฟู้ด อาเชียน ตะวันตก ฯลฯ ที่พร้อมรองรับนักท่องเที่ยวเพื่อเปิดประสบการณ์ใหม่ให้การพักผ่อนเป็นที่น่าจดจำ อีกทั้งยังมีโครงการจะขยายโรงแรม เพื่อผลักดันให้เป็น Mice Hotel เพื่อรองรับสำหรับการจัดสัมมนาขนาดใหญ่อีกด้วย

ปัจจุบัน การลงทุนต่ำสุดหนึ่งหน่วยลงทุนที่ 6 ล้านบาท โดยในอนาคต ปี 2571 มีแผนจะนำโครงการเข้า กองทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ (Real Estate Investment Trust : REIT) คาดว่าทั้งโครงการจะก่อสร้างแล้วเสร็จในปี 2569

“ปัจจุบันราคาที่ดินย่านนาใต้ ต.โคกกลอย อ.ตะกั่วทุ่ง จ.พังงา พุ่งสูงไปถึงประมาณ 40-50 ล้านบาท/ไร่ ซึ่งปรับขึ้นตามดีมานด์และซัพพลาย เนื่องจากที่ผ่านมามีผู้ประกอบการชาวไทยและต่างชาติ เข้ามาพัฒนาโครงการเป็นจำนวนมาก บางรายซื้อที่ดินไว้แต่รอจังหวะและโอกาสที่จะพัฒนา แต่ในช่วงการแพร่ระบาดของโควิด-19ที่ดินในย่านนี้มีการซื้อขายน้อยลง แต่ราคาไม่ได้ลดลงแต่อย่างใด” นายอรรถนพ กล่าวในที่สุด