1.6 ดีเวล็อปเม้นต์ จับมือ End of waste ติดตั้งเครื่องย่อยเศษอาหารแห่งแรกในไทย ที่โครงการเดอะ สแตรนด์ ลดปริมาณขยะ เปลี่ยนเศษอาหารย่านทองหล่อ เข้าสู่ระบบบำบัดขยะตามหลักสุขภาวะลดปัญหาสิ่งแวดล้อม

บริษัท 1.6 ดีเวล็อปเม้นต์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด ร่วมกับ End of waste co.ltd. ติดตั้งเครื่องย่อยเศษอาหารที่ โครงการเดอะ สแตรนด์ โครงการมิกซ์ยูสระดับอัลตร้าลักชัวรีเป็นที่แรกในประเทศไทย สำหรับย่อยและเปลี่ยนเศษอาหารที่เหลือบริเวณทองย่านหล่อให้กลายเป็นของเหลวพร้อมเข้าสู่ระบบบำบัดขยะภายในคืนเดียว เป็นการลดปริมาณขยะในแต่ละวัน ถือเป็นแนวทางใหม่ของการแก้ปัญหาด้านสิ่งแวดล้อมในกรุงเทพฯ ที่มาจากเศษอาหาร

ทั้งนี้ บริษัท 1.6 ดีเวล็อปเม้นต์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด มีแนวทางการทำงานที่ให้ความสำคัญต่อสิ่งแวดล้อมและสังคมอย่างชัดเจน โดยจะทำการติดตั้ง “เครื่องย่อยเศษอาหาร” หรือ food waste digester ไว้ที่โครงการเดอะ สแตรนด์ ซึ่งเครื่องนี้สามารถย่อยเศษอาหารได้วันละ 300 กิโลกรัมและจะให้บริการกับร้านอาหารและคาเฟ่ที่อยู่ในส่วนมิกซ์ยูสของโครงการ รวมถึงร้านอาหารบริเวณใกล้เคียงโครงการ เพื่อเป็นการส่งเสริมคุณภาพชีวิตของคนในชุมชนโดยรอบอีกด้วย

นางสาวธัญทิพ เจียรวนนท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท 1.6 ดีเวล็อปเม้นต์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด กล่าวว่า “1.6 ดีเวล็อปเม้นต์มีความยินดีอย่างยิ่งที่ได้ร่วมกับ End of waste co.ltd. เปิดตัวเครื่องย่อยเศษอาหารเมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายน 2564 ที่โครงการเดอะ สแตรนด์ เพื่อให้บริการร้านอาหารในโครงการ ลูกบ้าน และร้านอาหารใกล้เคียงโครงการ สำหรับเปลี่ยนเศษอาหารที่เหลือทิ้งได้ถึง 300 กิโลกรัมต่อวันให้กลายเป็นของเหลว โดยจะดำเนินการเป็นเวลา 12 เดือน ทั้งนี้มีแนวคิดเพื่อช่วยลดปริมาณขยะจากอาหาร ลดการปล่อยก๊าซคาร์บอน ลดปริมาณหนอนพยาธิหรือสัตว์ทำลายพืชต่าง ๆ รวมถึงลดความเสี่ยงการติดเชื้อจากสภาพแวดล้อมที่ไม่ถูกสุขลักษณะอีกด้วย”

โดยเครื่องย่อยเศษอาหารอัตโนมัติเต็มรูปแบบนี้จะใช้จุลินทรีย์ในการเปลี่ยนเศษอาหาร เช่น ข้าว บะหมี่ ผัก หรือแม้แต่เนื้อสัตว์ที่มีกระดูกให้เป็นของเหลวภายใน 24 ชั่วโมง

นายพอพงษ์ ชินวัตร ผู้ร่วมก่อตั้ง End of waste co.ltd. กล่าวว่า “เรารู้สึกภูมิใจเป็นอย่างมากที่ได้ร่วมงานกับ 1.6 ดีเวล็อปเม้นต์ ในการริเริ่มแนวทางใหม่ในการจัดการเศษอาหาร ซึ่งปัจจุบันกรุงเทพมหานครทำการรีไซเคิลขยะจากอาหารได้ 2% แต่ 64% ของขยะคือเศษอาหาร ซึ่งส่วนมากจะถูกส่งไปฝังในหลุม ซึงสามารถแพร่เชื้อโรคได้”

ซึ่งเครื่องย่อยเศษอาหารนี้จะถูกปล่อยเข้าสู่ระบบบำบัดขยะและน้ำเสียของอาคารและไหลลงสู่แหล่งเก็บกักน้ำจากขยะ เพื่อเข้าสู่กระบวนการบำบัดตามหลักสุขภาวะ วิธีการจัดการด้วยเครื่องย่อยเศษอาหารนี้ถือเป็นระบบรีไซเคิลที่สมบูรณ์ เพราะเป็นการนำขยะมาผ่านกระบวนการเพื่อกลับสู่ธรรมชาติในรูปแบบของน้ำที่ผ่านการบำบัดเรียบร้อยแล้ว

ทั้งนี้ลูกบ้านและร้านอาหารบริเวณทองหล่อสามารถลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการนี้ได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใด ๆ ซึ่งเครื่องย่อยเศษอาหารจะตั้งอยู่ที่โครงการเดอะ สแตรนด์

โครงการ เดอะ สแตรนด์ มีความสูง 30 ชั้น ตั้งอยู่ย่านทองหล่อใจกลางกรุงเทพมหานคร เป็นโครงการที่โดดเด่นไม่เหมือนใคร ด้วยการออกแบบที่เรียบหรูดุจงานฝีมือตามมาตรฐานระดับโลก ตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าที่ชื่นชอบความหรูหราและการออกแบบที่เน้นประโยชน์ใช้สอยสูงสุด

โครงการตั้งอยู่บนทำเลต้นซอยทองหล่อเพียง 1 นาทีจากรถไฟฟ้าสถานีทองหล่อ มูลค่าโครงการประมาณ 4,800 ล้านบาท ราคาเริ่มต้น 17.9 ล้านบาท
ค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับโครงการเดอะ สแตรนด์ได้ที่ https://www.onesixdevelopment.com/the-strand/1

เกี่ยวกับบริษัท 1.6 ดีเวล็อปเม้นต์ จำกัด
บริษัท 1.6 ดีเวล็อปเม้นต์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (วันพ้อยท์ซิกซ์ ดีเวล็อปเม้นต์) เป็นบริษัทอสังหาริมทรัพย์โดยผู้บริหารที่มองการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เป็นงานฝีมือ และมีความมุ่งมั่นที่จะนำมาตรฐานระดับโลกในการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์มาสู่ประเทศไทย พร้อมกำหนดมาตรฐานใหม่ในอุตสาหกรรมโดยการสร้างสรรค์โครงการที่มีคุณภาพดีที่สุดในทุกด้าน ทางบริษัทเน้นพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์เพื่อตอบสนองลูกค้าที่ชื่นชมความหรูหราที่แฝงอยู่ในคุณภาพ การบริการ การใช้งาน และการออกแบบ

โดยโครงการแรกของบริษัท 1.6 ดีเวล็อปเม้นต์ จำกัด คือ เดอะ สแตรนด์ (THE STRAND) คอนโด High rise ครบวงจรระดับ Luxury ในรูปแบบมิกซ์ยูส ภายใต้แนวคิด ‘Essentially More’ ที่นำเสนอความหรูหราแบบ มินิมอลแฝงอยู่ในการใช้งานได้จริง เตรียมเปิดตัวโครงการในไตรมาส 3 ปีนี้
ข้อมูลเพิ่มเติมกรุณาเยี่ยมชมได้ที่ www.thestrandthonglor.com | Facebook: https://www.facebook.com/onesixdevelopment

เกี่ยวกับบริษัท แมกโนเลีย ควอลิตี้ ดีเวล็อปเม้นต์ คอร์ปอเรชั่น (MQDC)
บริษัทแมกโนเลีย ควอลิตี้ ดีเวล็อปเม้นต์ คอร์ปอเรชั่น (MQDC) ดำเนินธุรกิจการพัฒนา ลงทุน และจัดการอสังหาริมทรัพย์ ประกอบด้วย บ้าน คอนโดมิเนียม โครงการคอมมูนิตี้ ดิสทริค และ ธีมโปรเจกต์ รวมถึงธุรกิจค้าปลีกและโรงแรม พร้อมดำเนินธุรกิจภายใต้คำมั่นสัญญา ‘For All Well-Being’

MQDC พัฒนาที่อยู่อาศัย โครงการมิกซ์ยูสและธีมโปรเจกต์ภายใต้แบรนด์ “แมกโนเลียส์” (Magnolias) “วิสซ์ดอม” (Whizdom) ดิ แอสเพน ทรี (The Aspen Tree) มัลเบอร์รี่ โกรฟ (Mulberry Grove) และ เดอะ ฟอเรสเทียส์ (The Forestias) เพื่อส่งเสริมสุขภาพของผู้อยู่อาศัยและสร้างการใช้ชีวิตที่ดีอย่างยั่งยืน

MQDC ได้ให้การรับประกัน 30 ปีในโครงการอสังหาริมทรัพย์ทุกโครงการเพื่อเป็นการแสดงให้เห็นถึงมาตรฐานการก่อสร้างที่ดีเยี่ยม
การประยุกต์ปรัชญา ‘นวัตกรรมแห่งความยั่งยืน’ MQDC มุ่งมั่นที่จะนำพาภาคธุรกิจการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ไปสู่ความยั่งยืน ดังนั้น MQDC ได้ให้การสนับสนุนงานด้านการวิจัยและนวัตกรรม โดยได้จัดตั้งศูนย์วิจัยและนวัตกรรมเพื่อความยั่งยืน (RISC) ซึ่งเป็นศูนย์การวิจัยแห่งแรกของเอเชียที่มุ่งเน้นด้านการส่งเสริมสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดีของสรรพสิ่งบนโลก พร้อมทั้งจัดตั้งศูนย์วิจัยอนาคตศึกษาฟิวเจอร์เทลส์ แล็บ ซึ่งเป็นศูนย์วิจัยที่ทำการศึกษา วิเคราะห์ และรวบรวมข้อมูลที่สำคัญต่ออนาคต เพื่อสร้างอนาคตที่ดีให้กับมนุษยชาติ

MQDC ดำเนินงานพร้อมกับการคำนึงถึงสิ่งมีชีวิตบนโลก มากกว่านั้นยังมีเป้าหมายในการพัฒนาความยั่งยืนเพื่อสังคมโดยรวม ข้อมูลเพิ่มเติม www.mqdc.com