“แสนสิริ” กางแผน 3 ปี เปิดตัวโครงการใหม่มูลค่า 1.5 แสนล้าน เดินหน้าภายใต้ 3 กุญแจ “PROFIT - PEOPLE – PLANET” ขับเคลื่อนองค์กร
“แสนสิริ” เผยผลงานปี 2564 แข็งแกร่งด้วย Year of Hope อีกปีที่ท้าทาย ภายใต้ความสำเร็จตามเป้าหมายของ 3 ความหวัง ‘ความแข็งแกร่งของแสนสิริ -ให้คนไทยมีบ้านง่ายขึ้น - สร้างรอยยิ้มสู่สังคมและโลก’ พร้อมผลงานยอดขาย 33,500 ล้านบาท สูงกว่าเป้าหมาย 29% ยอดโอน 32,500 ล้านบาท สูงกว่าเป้าหมาย 21% พร้อมประกาศเป้าหมายแข็งแกร่งระยะยาว 3 ปี เตรียมเปิดตัวโครงการใหม่มูลค่ากว่า 150,000 ล้านบาท ตั้งเป้ายอดขายรวม 120,000 ล้านบาท
นายเศรษฐา ทวีสิน ประธานอำนวยการและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ปี 64 นับเป็นปีที่ท้าทายที่แสนสิริผ่านมาได้อย่างแข็งแกร่งจากความเชื่อมั่นใน “ความหวัง” หรือ “Year of Hope” โดยเฉพาะการตอบรับความหวังให้คนไทยมีบ้านง่ายขึ้น ด้วยการเน้นการเปิดตัวโครงการแนวราบเพื่อตอบรับ Real Demand และเน้นการเปิดตัวโครงการ Affordable Segment ราคาเข้าถึงง่าย ที่ได้รับการตอบรับที่ดี ทั้ง “คอนโด มี” แบรนด์คอนโดฯ ราคาต่ำล้าน, “เดอะ มูฟ” คอนโดแนวคิดใหม่ ราคาล้านต้น ๆ รวมถึงทาวน์โฮมแบรนด์ สิริ เพลส ซีรีย์ใหม่ “Dream Destination” ที่เขย่าตลาดทาวน์โฮมราคาเข้าถึงง่าย
ส่งผลให้ผลประกอบการในปี 64 มียอดขาย 33,500 ล้านบาท สูงกว่าเป้าหมาย 29% จากเป้ายอดขาย 26,000 ล้านบาท และยอดโอน 32,500 ล้านบาท สูงกว่าเป้าหมาย 21% จากเป้ายอดโอน 27,000 ล้านบาท ที่ได้วางไว้
ปี 65 เติบโตยั่งยืนทุกมิติด้วย 3 กุญแจขับเคลื่อนองค์กร PROFIT - PEOPLE – PLANET
Profit - สำหรับในปี 2565 แสนสิริมีแผนเปิดตัว 46 โครงการใหม่ มูลค่ารวม 50,000 ล้านบาท แบ่งเป็นโครงการแนวราบ 28 โครงการ และคอนโดมิเนียม 18 โครงการ โดยมีสัดส่วนของ Affordable Segment 50% เพื่อให้แสนสิริเป็นแบรนด์ที่เข้าถึงง่าย ประกอบด้วยคอนโดมิเนียมราคาเข้าถึงได้ ภายใต้แบรนด์คอนโด มี, เดอะ มูฟ, ดีคอนโด, เดอะ ไลน์ พร้อมไฮไลท์ด้วยการรุกคอนโดมิเนียมแบรนด์ “เดอะ เบส” ซึ่งในปีนี้จะมีการเปิดตัว 4 โครงการใหม่ มูลค่ารวม 4,500 ล้านบาท
ขณะที่แนวราบ เตรียมเปิดตัวทาวน์โฮมราคาเข้าถึงง่าย แบรนด์ สิริ เพลส 8 โครงการใหม่ มูลค่ารวม 6,100 ล้านบาท, เปิดตัวบ้านและทาวน์โฮม แบรนด์ “อณาสิริ”, พร้อมเผยโฉมใหม่ของบ้านเดี่ยวแบรนด์สราญสิริดีไซน์ใหม่
และต่อยอดความสำเร็จของ Exclusive Modern Residence แบรนด์ “บูก้าน” รวมถึงแบรนด์ “นาราสิริ” 2 โครงการใหม่ มูลค่ารวม 8,300 ล้านบาท ที่จะมาเขย่าตลาดบ้านเดี่ยวในระดับ Luxury
โดยตั้งเป้าหมายยอดขาย และยอดโอนโครงการ ในปี 2565 ไว้ที่ 35,000 ล้านบาท นอกจากนี้แสนสิริยังมองถึงความแข็งแกร่งระยะยาว 3 ปี เติบโตอย่างยั่งยืน ด้วยแผนเปิดตัวโครงการใหม่มูลค่ารวม 150,000 ล้านบาท พร้อมเป้าหมายยอดขายรวม 120,000 ล้านบาทอีกด้วย
PEOPLE - ดำเนินธุรกิจภายใต้ “YOU-centric” คุณทุกคนเป็นศูนย์กลางการขับเคลื่อนที่สำคัญของแสนสิริ ทั้ง พนักงาน ลูกค้า และสังคม อาทิ การส่งเสริมความเสมอภาคในพนักงาน ทั้งในด้านการเติบโตและสวัสดิการของทุกเพศ การนำเสนอโครงการที่คิดมาจากความต้องการของกลุ่มลูกค้าอย่างแท้จริง และ คนตัวใหญ่ต้องช่วยคนตัวเล็ก ลดความเหลื่อมล้ำ ส่งเสริมความเท่าเทียมในสังคม
PLANET - เดินหน้าพันธกิจสีเขียว โดยวางเป้าหมายเป็นบริษัทอสังหาริมทรัพย์รายแรกของไทยที่วางเป้าหมายเป็น Net-zero องค์กรที่ปล่อยก๊าซเรือนกระจกเป็นศูนย์ โดยในปี 2565 โครงการแสนสิริต้องใช้พลังงานสะอาด ด้วยการติดตั้ง Solar Roof ในส่วนกลางของโครงการใหม่ 100% รวมทั้ง ติดตั้ง Solar Roof ในบ้านทุกหลังของโครงการใหม่ในระดับบน 100% พร้อมไฟในสวนต้องเป็นไฟพลังงานแสงอาทิตย์ 100% ทุกโครงการในปีนี้
ส่วนไฟถนนจะเป็นไฟพลังงานแสงอาทิตย์จะเริ่มในปีนี้เช่นเดียวกัน เพื่อผลักดันให้เพิ่มขึ้นเป็น 100% ในอนาคต และยังส่งเสริมการใช้รถยนต์พลังงานไฟฟ้า โดยส่วนกลางของทุกโครงการใหม่ของแสนสิริต้องมี EV Charger 100% เริ่มต้นในปีนี้ รวมทั้งบ้านทุกหลังในโครงการระดับบนโครงการใหม่ของแสนสิริจะต้องมี EV Charger ด้วย
พร้อมการจัดการเรื่อง Waste Management ทั้งจากการก่อสร้างและในโครงการ นอกจากนี้บ้านโครงการใหม่ของแสนสิริกว่า 70% จะต้องเป็น COOLIVING DESIGNED HOME เพื่อช่วยลดอุณหภูมิให้บ้านเย็น และประหยัดพลังงาน