สุดยอดวิธีง่ายๆ แก้กลิ่นอับในรถช่วงหน้าฝน กลิ่นอับในรถยนต์ อีกหนึ่งปัญหากวนใจประจำฤดูฝนของคนขับรถ แต่หากรู้ที่มาที่ไป การขจัดกลิ่นก็ไม่ใช่เรื่องยาก แถมง่ายกว่าที่คิด!
ขอบคุณข้อมูลจาก www.easycompare.co.th

ปัญหาที่มาพร้อมหน้าฝนที่หลายคนมักพบเจอ นั่นคือ “กลิ่นไม่พึงประสงค์ภายในรถ” อย่างกลิ่นอับชื้นจากฝน โดยเฉพาะผู้โดยสารและผู้ขับขี่ที่เสื้อผ้าเปียกชื้นแฉะ น้ำติดตามรองเท้า ทำให้เกิดกลิ่นอับสะสมติดเบาะ พรมและห้องโดยสาร ซึ่งตัวการสำคัญที่ทำให้มันเจริญเติบโตได้ดีคือน้ำและออกซิเจน

วิธีขจัดกลิ่นอับในรถ

รอช่วงหมดฝนแล้ว ลองหาวันว่างลงมือจัดการกับเจ้ากลิ่นอับชื้น

  • ล้างตู้แอร์ หากพบว่ามีกลิ่นอับชื้นออกมาจากแอร์
  • ตากรถกลางแดด เปิดประตู และกระจกทั้งสี่ด้าน
  • เก็บของออกจากรถให้หมด เพื่อสะดวกในการทำความสะอาด
  • ทำความสะอาดเบาะ ดูดฝุ่น และซักพรม

*เบาะเนื้อกำมะหยี่ ใช้ผงซักฟอกสูตรที่มีสารจำพวกซิลเวอร์นาโน จะช่วยฆ่าและยับยั้งแบคทีเรียได้ดี โดยนำมาผสมกับน้ำเล็กน้อย นำแปรงขนอ่อนจุ่มและขัด จากนั้นก็ใช้ผ้าเช็ดออก
*เบาะหนัง ใช้ผ้าหมาดๆ เช็ดให้ทั่ว หากสกปรกมาก แนะนำให้ใช้น้ำสบู่กับแปรงสีฟันขัดเบาๆ แล้วนำผ้ามาเช็ดออก
*เบาะผ้า ดูดฝุ่นหรือตีเบาะให้ฝุ่นกระจายออกมาก่อน จากนั้นซักเบาะด้วยผลิตภัณฑ์สำหรับซักเบาะผ้า นำผ้าแห้งเช็ดแล้วใช้ไดร์ช่วยเป่าให้แห้ง แต่ควรระวังอย่าใช้ความร้อนสูงจนเกินไป

เทคนิคง่ายๆ ใช้ของใกล้ตัว

  • ถ่านหุงต้ม ดูดกลิ่นได้ดี ดูดความชื้นได้เล็กน้อย
  • ใบเตย ช่วยดับกลิ่น นำใบเตยมาม้วนเป็นกำ แล้วไว้ในรถเพื่อดูดกลิ่นเหม็นอับ
  • ใบชาตากแห้ง หรือกากกาแฟตากแห้ง ใส่ชาม หรือถุงผ้าวางไว้ตามมุมต่างๆ
  • กระดาษหนังสือพิมพ์ ดูดกลิ่นและความความชื้น ใช้ได้ประมาณ 3 วัน
  • เบกกิ้งโซดา แบ่งใส่ภาชนะแล้วตั้งทิ้งไว้ช่วยดูดกลิ่นอับได้ ใช้ได้นาน 6-12 เดือน
  • น้ำส้มสายชู ใส่ถ้วยแล้ววางไว้ในรถ หรือจะผสมน้ำเปล่าในสัดส่วน 1: 1 แล้วสเปรย์ให้ทั่วรถ เมื่อแห้งแล้ว กลิ่นเหม็นจะเบาบางลง
  • กล่องดูดความชื้น อายุการใช้งานประมาณ 1 เดือน ราคาราว 50-100 บาท

อย่างไรก็ดี หากลองวิธีที่แนะนำไปทั้งหมด แต่ยังพบว่ากลิ่นอับยังคงมีอยู่ในรถ ควรใช้บริการศูนย์ล้างรถ เปลี่ยนพรม ผ้าหรือหนังของเบาะ เพื่อให้กลิ่นเหล่านั้นหายไป 100% แต่หากทำทุกอย่างครบแล้ว รถก็ยังไม่หายเหม็น สมควรต้องตรวจดูท่อน้ำทิ้งของแอร์ว่าไหลออกนอกตัวรถหรือไม่ เพราะอาจรั่วซึมใต้คอนโซลจนเกิดความอับชื้นสะสมก็ได้ หากแก้ปัญหาถูกจุด กลิ่นอับในรถก็หมดไปอย่างแน่นอน

ความเชื่อผิดๆ กับการดับกลิ่นในรถ!

  • น้ำหอม การบูร พิมเสน ไม่ควรไว้ในรถ น้ำหอมปรับอากาศ ช่วยดับกลิ่นได้ก็จริง แต่โทษก็มีเช่นกัน ไอระเหยของสารในเครื่องหอมเหล่านี้ จะหมุนเวียนในระบบปรับอากาศ สะสมทำให้เกิดเมือกและความชื้นเกาะอยู่ตามกรองแอร์ และคอยล์เย็น เป็นสาเหตุให้ฝุ่นจับตัวหนาได้ง่าย ทำให้อุดตัน ระบบทำความเย็น และเครื่องยนต์ต้องทำงานหนัก และเปลืองน้ำมัน
  • การสูดดมน้ำหอมกลิ่นแรงเป็นเวลานาน จะทำลายสุขภาพ เกิดอาการมึนศีรษะ โพรงจมูกอักเสบ หรือแสบตา แสบผิวได้ นอกจากนี้ พิมเสนที่ตากแดด หรือเก็บไว้ในอุณหภูมิสูง จะระเหย และละลายหายไป ทำให้ระคายเคืองตา เมื่อสูดดมปริมาณมากๆ ติดต่อกันเป็นเวลานาน ทำให้เวียนหัว แสบจมูก และเป็นสารก่อมะเร็งชนิดหนึ่งด้วย

การดูแลรักษารถไม่ใช่เรื่องเล็ก ต้องอาศัยความรอบคอบ และรอบรู้หลายอย่าง เช่นเดียวกับการเลือกความคุ้มครองจากประกันภัยรถยนต์ ให้ EasyCompare เป็นผู้ช่วยคุณเลือกประกันภัยที่ดีที่สุด จะประกัน ชั้น 1 ชั้น 2+ ชั้น3+ หรือ ชั้น3 ก็ช่วยคุ้มครองให้คุณอุ่นใจ