ก้าวสำคัญของ AssetWise ผนึกพันธมิตรไทย-เทศ เสริมแกร่ง พร้อมรุกโลกสินทรัพย์ดิจิทัล สานต่อวิสัยทัศน์ We Build Happiness เพื่อความสุขผู้อยู่อาศัย
เปิดศักราชใหม่ปี 2565 ไม่ทันไร AssetWise (แอสเซทไวส์) ก็ย้ำจุดยืนความเป็นค่ายแห่งความสร้างสรรค์ ไม่หยุดนิ่ง และเข้าถึงผู้อยู่อาศัย โชว์ศักยภาพด้วยการปิดดีล 3 ภารกิจใหญ่ จากการจับมือพันธมิตรระดับอินเตอร์ทั้งไทย-เทศ
ไม่ว่าจะเป็นการเสริมความแข็งแกร่ง จากการร่วมทุนกับ “ทาคาระ เลเบ็น” บิ๊กอสังหาฯ ญี่ปุ่น ในการพัฒนาคอนโดใหม่ ‘แอทโมซ บางนา’ (Atmoz Bangna) การเข้าซื้อกิจการ “แม็กซี่ พรีเมียร์ วัน” คว้าคอนโดทำเลไพร์มโลเคชั่นใจกลางรัชดา-สุทธิสารมาเข้าพอร์ต และรุกสมาร์ทมาร์เก็ตติ้งร่วมเป็นพาร์ทเนอร์ใช้เหรียญ Popcoin หนุน Ecosystem ในโลกดิจิทัล รองรับรับไลฟ์สไตล์ลูกบ้าน-คนรุ่นใหม่
ทุกภารกิจล้วนแล้วเป็นจิ๊กซอว์ครั้งสำคัญ ที่จะมาช่วยสร้างประสบการณ์แห่งการใช้ชีวิตผู้อยู่อาศัย ตามแนวคิด “ความสุขที่ออกแบบมาเพื่อคุณ” หรือ “We build Happiness” และเป็นก้าวสำคัญในการสร้างรายได้และการเติบโตในปีนี้ของ AssetWise
ผนึกกำลังบิ๊กอสังหาฯ อินเตอร์ เนรมิต แอทโมซ บางนา
“ช่วงเวลานี้เป็นโอกาสที่ดีที่จะเดินเกมรุกอย่างเต็มที่ โดยใช้กลยุทธ์การเพิ่มพันธมิตรระดับโลกเพื่อเสริมความแข็งแกร่ง ไปพร้อมกับการลดความเสี่ยงและเวลาในการพัฒนาโครงการเอง การขยายธุรกิจด้วยการเข้าซื้อกิจการในจังหวะเวลาที่เหมาะสม เหมือนการขึ้นทางด่วนที่จะนำพาบริษัทไปถึงเป้าหมายการเติบโตที่วางไว้ได้เร็วขึ้น” กรมเชษฐ์ วิพันธ์พงษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอสเซทไวส์ จำกัด (มหาชน) หรือ ASW (AssetWise) เผยถึงโอกาสทางธุรกิจครั้งสำคัญนี้ แม้ไทยอยู่ในภาวะไม่แน่นอนจากสถานการณ์โควิด-19
นี่ไม่ใช่ครั้งแรกของ AssetWise ในการพลิกวิกฤตเป็นจังหวะสร้างการเติบโต ด้วยดีเอ็นเอคิดต่าง AssetWise เคยสวนกระแสสร้างปรากฏการณ์มาแล้ว จากโควิด-19 รอบแรก ในช่วงที่หลายค่ายงัดกลยุทธ์การลดราคาเข้ามาต่อกรกับความท้าทาย แต่ AssetWise กลับพลิกกลยุทธ์ส่งเสริมศักยภาพพนักงานงัดกระบวนท่าทำการตลาดในโลกออนไลน์มากขึ้น ฉุดให้ AssetWise เติบโตถึง 60% (เมื่อเทียบจากปี 2562)
เมื่อหันกลับมาที่การร่วมทุนกับ บริษัท ทาคาระ เลเบ็น จำกัด แม้เป็นยุทธวิธีที่ต่างกันเมื่อเทียบกับปี 2563 แต่ผลลัพธ์ที่ได้คือโอกาสสร้างการเติบโตให้องค์กร จากจุดร่วมเรื่องปรัชญาที่เหมือนกันระหว่าง ‘ทาคาระ เลเบ็น’ และ ‘Asset Wise’ จึงก่อให้เกิดก้าวสำคัญนี้
อย่างที่ คาซูอิชิ ชิมาดะ (Kazuichi Shimada) CEO บริษัท ทาคาระ เลเบ็น จำกัด เผยถึงนโยบายการหาพันธมิตรที่มีความแข็งแกร่งในแต่ละประเทศว่า แอสเซทไวส์ เป็นบริษัทมหาชนที่มีความมั่นคง อนาคตไกลในธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ของไทย พิสูจน์ได้จากทั้งคุณภาพและความสามารถในการเติบโตอย่างต่อเนื่อง
“เราต้องการพัฒนาธุรกิจของเราต่อไปโดยร่วมมือกับพันธมิตรที่ยอดเยี่ยมของไทย และแอสเซทไวส์ เป็นบริษัทที่มีโมเมนตัมมากมาย เช่น ความสำเร็จของคอนโดมิเนียมหลายโครงการในกรุงเทพฯ และได้เข้าจดทะเบียนตลาดหลักทรัพย์ในปีที่ผ่านมา อีกทั้งวิสัยทัศน์ของแอสเซทไวส์ “We build happiness” ก็เป็นไปในทิศทางเดียวกับทาคาระ เลเบ็น เช่นกัน ความร่วมมือครั้งนี้จะเสริมความแข็งแกร่งต่อวิสัยทัศน์ของเราเช่นกัน”
ที่ผ่านมา บริษัท ทาคาระ เลเบ็น จำกัด เป็นบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำ ก่อตั้งมานานกว่า 50 ปี มีชื่อเสียงในการพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียม Leasing and management และบ้านเดี่ยวมากว่า 500 โครงการ ทั้งยังประกอบธุรกิจโรงผลิตไฟฟ้าและธุรกิจโรงแรมในญี่ปุ่น โดยจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์โตเกียวมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2547
สำหรับการ่วมทุนระหว่าง ‘ทาคาระ เลเบ็น’ และ ‘AssetWise’ จะประเดิมโครงการแรกร่วมกัน มูลค่ากว่า 2,200 ล้านบาท ในโครงการ แอทโมซ บางนา (Atmoz Bangna) คอนโดมิเนียมโลว์ไรส์ขนาดใหญ่บนทำเล NEW CBD ย่านบางนา ใกล้รถไฟฟ้า BTS สายสีเขียว และ MRT สายสีเหลือง ติดถนนใหญ่เส้นบางนา-ตราด โดย AssetWise ถือหุ้นในสัดส่วน 51% และ ทาคาระ เลเบ็น ถือหุ้นในสัดส่วน 49%
ขยายพอร์ตผลิตภัณฑ์ ต่อยอดการลงทุนที่คุ้มค่า
นอกจากการร่วมทุนแล้ว AssetWise ยังเดินหน้าจิ๊กซอว์ขยายพอร์ตผลิตภัณฑ์ ด้วยการเข้าซื้อ โครงการ แม็กซี่ ไพร์ม รัชดา - สุทธิสาร (Maxxi Prime Ratchada-Sutthisan) ภายใต้การบริหารของ บริษัท แม็กซี่ พรีเมียร์ วัน ซึ่งมีทุนจดทะเบียน 30 ล้านบาท โดย AssetWise มองว่า แม็กซี่ ไพร์ม รัชดา - สุทธิสาร เป็นโครงการที่มีความสอดคล้องกับหลักการพัฒนาโครงการของ AssetWise คือ เน้นสร้างความสุขในการอยู่อาศัย ผ่านตัวโครงการที่ดี การออกแบบห้องพักที่สวยงามลงตัว และส่วนกลาง (Facility) ที่จะทำให้ลูกบ้านได้รับประสบการณ์ความสุขในการอยู่อาศัยที่มีคุณภาพเมื่อเทียบกับคอนโดมิเนียมระดับ Affordable ด้วยกัน
หากมองในเชิงศักยภาพของโครงการ แม็กซี่ ไพร์ม รัชดา - สุทธิสาร จะมาช่วยลดความเสี่ยงและระยะเวลาในการพัฒนาโครงการให้กับ AssetWise เป็นการลงทุนที่คุ้มค่า เพราะได้อัตราผลตอบแทนภายใน (IRR) สูงกว่าการพัฒนาโครงการเองจากที่ดินเปล่า
ทั้งนี้ แม็กซี่ ไพร์ม รัชดา – สุทธิสาร เป็นคอนโดมิเนียมสูง 8 ชั้น 1 อาคาร มีทั้งหมด 218 ยูนิต มูลค่า 570 ล้านบาท ตั้งอยู่ใกล้กับรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน สถานีสุทธิสาร ในระยะเดินเท้าเพียง 400 เมตรเท่านั้น อยู่ในทำเลดี พื้นที่ชุมชน ใจกลางแหล่งงาน และสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน สร้างแต้มต่อด้านการเดินทางด้วยส่วนต่อขยายรถไฟฟ้าสายสีเหลือง สถานีลาดพร้าว โดยจะพร้อมโอนกรรมสิทธิ์ในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ 2565 ซึ่งหมายความว่าสามารถสร้างรายได้ให้กับบริษัทได้ในเวลาอันรวดเร็ว
รุกองค์กร Next Generation ต่อเนื่อง หนุน Ecosystem ผ่าน Popcoin
ความเป็นองค์กรที่มีไดนามิกส์สูงและเรียนรู้อยู่ตลอดเวลา AssetWise ไม่เพียงภารกิจเสริมความแข็งแกร่งให้องค์กรธุรกิจเท่านั้น แม้แต่การตอบสนองไลฟ์สไตล์ผู้อยู่อาศัยที่เป็นคนรุ่นใหม่ ตลอดจนขับเคลื่อนองค์กรไปสู่ความเป็น Next Generation AssetWise ก็ยังคงแสวงหาโซลูชั่นใหม่ๆ มานำเสนอ จากมิชชั่นล่าสุดรุกต่อยอดดิจิทัลแอสเซท ผนึกพันธมิตรชั้นนำ นำเหรียญ Popcoin มามอบสิทธิประโยชน์สุดล้ำให้ลูกบ้านและลูกค้า เข้าถึงไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ โดยกลยุทธ์นี้ถือเป็นการพา AssetWise เข้าสู่สมาร์ทมาร์เก็ตติ้ง ตามวิสัยทัศน์ของบิ๊กบอสกรมเชษฐ์ วิพันธ์พงษ์
“แอสเซทไวส์ เห็นความสำคัญของ Digital Transformation ที่กำลังเป็นเทรนด์สำคัญของโลก โดยสิ่งหนึ่งที่เราสนใจคือ “ดิจิทัลแอสเซท” ที่มีบทบาทสำคัญกับคนรุ่นใหม่ซึ่งเป็นลูกค้าหลักของแอสเซทไวส์ ที่ผ่านมาเราจึงได้ตั้งบริษัทในเครือ “บริษัท ดิจิโทไนซ์ จำกัด” ด้วยความร่วมมือจากพันธมิตรทางธุรกิจอย่าง ฟิวเจอร์คอมเพเทเร่ เพื่อรองรับการศึกษาการลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัล รวมถึงแสวงหาโอกาสในการใช้เทคโนโลยีและแพลตฟอร์มทันสมัย เพื่อนำมาประยุกต์ใช้ในธุรกิจ”
ถึงตรงนี้ต้องเกริ่นเล็กน้อย สำหรับใครที่ไม่คุ้ยกับ บริษัทสายฟินเทค หรือ ดิจิทัลแอสเซท ขอพามาทำความรู้จักก่อนว่า ดิจิโทไนซ์ เป็นบริษัทในเครือแอสเซทไวส์ ที่จัดตั้งขึ้นเพื่อขับเคลื่อนธุรกิจดิจิทัลรูปแบบใหม่ที่ใช้สินทรัพย์ดิจิทัล (Digital Asset) ซึ่งทำหน้าที่สำคัญในการสร้างการแลกเปลี่ยนคุณค่าและมูลค่าระหว่างผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทั้งหมด
ส่วน บริษัท ฟิวเจอร์คอมเพเทเร่ จำกัด เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการใช้สินทรัพย์ดิจิตอล มาพัฒนาระบบนิเวศน์ทางธุรกิจ โดยปัจจุบันเป็นพันธมิตรกับองค์กรธุรกิจขนาดใหญ่หลากหลายอุตสาหกรรม
สำหรับความร่วมมือในการใช้เหรียญ Popcoin ร่วมกับ AssetWise นี้ จะเป็นสมาร์ทมาร์เก็ตติ้งแพลตฟอร์มเอนเตอร์เทนเมิร์ช เกิดจากความร่วมมือของบริษัทชั้นนำอย่างบริษัท อาร์เอส จำกัด (มหาชน) หรือ RS Group, บริษัท โฟร์ท แอปเปิ้ล จํากัด, บริษัท ฟิวเจอร์คอมเพเทเร่ จำกัด และบริษัทพันธมิตรชั้นนำแนวหน้าของไทย โดยศักยภาพการใช้เหรียญ Popcoin ถือเป็น Utility Token ที่จะเป็นตัวกลางในการใช้งานต่าง ๆ บนแพลตฟอร์มที่มีระบบน่าเชื่อถือ สร้างโอกาสทางการตลาดให้แก่ผู้เกี่ยวข้องทั้งหมดใน Popcoin Ecosystem ทั้งแบรนด์ ผู้สร้างคอนเทนต์ โดยเฉพาะผู้บริโภค
มากกว่า Popcoin คริปโทเคอร์เรนซี คือคอมมูนิตี้เชื่อมโยงผู้คน
Popcoin จะกลายมาเป็นกลไกสำคัญหนึ่งของการพลิกโฉมการทำกลยุทธ์ทางการตลาดของ AssetWise ในการสร้างสิทธิประโยชน์รูปแบบใหม่ ๆ ให้กับลูกค้า โดยเฉพาะกลุ่มลูกค้า Kave Condo ซึ่งเป็นนักศึกษา คนรุ่นใหม่ อีกทั้งยังสามารถนำเหรียญ Popcoin มาต่อยอดในกิจกรรมต่าง ๆ ที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตของลูกบ้าน
จากวิสัยทัศน์เหล่านี้ AssetWise ได้วางรูปแบบของการเชื่อมต่อเทคโนโลยี Digital Asset เพื่อสร้างคอมมูนิตี้ขนาดใหญ่ที่เชื่อมโยงคนแต่ละกลุ่ม เข้าด้วยกันทำให้สามารถใกล้ชิดกับลูกบ้านและคนรุ่นใหม่มากกว่าเคย ไปจนถึงเป็นเครื่องมือเข้าถึงความต้องการของกลุ่มเป้าหมายใหม่ๆ ได้อย่างตรงจุดมากขึ้น
นี่แค่ไตรมาสแรก AssetWise ยังขับเคลื่อนได้เร็วขนาดนี้ เชื่อว่าตลอดปีนี้จะมีกลยุทธ์มาสร้างการเติบโตให้กับองค์กรอีกมากมายอย่างแน่นอน