เอ็น.ซี.เฮ้าส์ซิ่ง (NCH) โชว์ผลประกอบการปี 64 เติบโต New High กำไรสุทธิแตะ 251.93 ล้านบาท สะท้อนผลการดำเนินงานแข็งแกร่ง โตทั้งรายได้ และกำไร ไตรมาส 4/2564 มีกำไรสุทธิ 80 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 69.61% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน

นายสมนึก ตันฑเทอดธรรม กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็น.ซี.เฮ้าส์ซิ่ง จำกัด (มหาชน) เผยว่า สำหรับผลการดำเนินงานช่วงไตรมาส 4 ปี 2564 มียอดขายสูงสุดถึง 4,442 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกัน ของ ปี 2563 ซึ่งมียอดขาย 3,682 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 20.63% และบริษัทมีรายได้รวม 2,540.47 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 63ซึ่งมีรายได้รวม 1,793.20 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 747.27 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 41.67 % ทำให้ผลประกอบการไตรมาส 4 มีกำไรสุทธิ 80 ล้านบาท และทำให้ผลประกอบการทั้งปี 2564 บริษัทมีกำไรสุทธิ 251.93 ล้านบาท ซึ่งเพิ่มขึ้น 136.65 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 118.54% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา


นายสมนึก ตันฑเทอดธรรม กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็น.ซี.เฮ้าส์ซิ่ง จำกัด (มหาชน)

ด้วยบริษัทฯ มีปัจจัยบวก ด้านความสามารถการโอนกรรมสิทธิ์ส่งมอบบ้านให้กับลูกค้าเพิ่มขึ้น ด้วยปัจจัยสนับสนุนมีความต้องการที่อยู่อาศัยประเภทโครงการบ้านแนวราบในระดับราคา 3-5 ล้านบาท เพิ่มสูงขึ้น บริษัทพร้อมเดินตามแผน พัฒนาโครงการใหม่เพิ่ม 5 โครงการ เจาะกลุ่มตลาดระดับราคาบ้าน 3-5 ล้านบาท บนทำเลศักยภาพหลัก อาทิโซนเหนือ และโซนตะวันตก,ตะวันออก ในปีที่ผ่านมา เอ็น.ซี มีการปรับตัวได้ดี มีการเติบโตด้านรายได้ มีการควบคุมเข้มเรื่องการบริหารต้นทุนในองค์กร มีระบบบริการดูแลลูกค้า ก่อนและหลังการขาย สร้างความพึงพอใจแบรนด์ เอ็น.ซี

นายสมนึก กล่าว เพิ่มเติมได้ทำการตลาดเชิงรุกผลักดันยอดขายจากทุกโครงการ ซึ่งมีสัญญาณบวกกลับมา มีการตอบรับจากยอดขาย ช่วงเดือนมกราคม 2565 จนถึง 20 กุมภาพันธ์ 2565 มียอดขายแล้วถึง 800 ล้านบาท อีกทั้งปีนี้ เอ็น.ซี ได้ต่อยอดธุรกิจเมกะเทรนด์เฮลธ์แอนด์เวลเนส ภายใต้ Nc Regen สปอร์ต เวลเนส ศูนย์รวมด้านกีฬา และศูนย์สุขภาพครบวงจร โดยจะมีการเปิดบริการ 2 ศูนย์ใหญ่ ในโครงการบ้านฟ้าปิยรมย์ วงแหวนลำลูกกาคลอง 6 มีขนาดพื้นที่ 5,328 ตารางเมตร และ Thanya Golf Club ลำลูกกาคลอง5 ขนาดพื้นที่ 1,015 ตารางเมตร NC Regen เป็นส่วนหนึ่งของการดูแลสุขภาพให้กับ ทุกครอบครัวแบรนด์เอ็น.ซี พร้อมมุ่งเน้นการทำยอดขายให้ได้ตามเป้าหมายที่วางไว้ปี 2565นี้ ด้วยยอดขาย 4,600 ล้าน และรับรู้รายได้ 2,500 ล้านบาท พร้อมเร่งพัฒนาโครงการใหม่เพิ่มอีก 5 โครงการ 3 ทำเลศักยภาพ มูลค่ารวมกว่า 4,500 ล้านบาท ด้วยการตั้งเป้ายอดขายโตขึ้นกว่าปีที่ผ่านมา นายสมนึกกล่าวปิดท้าย