เจาะพฤติกรรมผู้บริโภคยุคโควิด-19 สู่กลยุทธ์การตลาดอสังหาฯ ในปี 2022
TerraBKK เผย โควิด 19 มีผลต่อการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมผู้บริโภค โดยเฉพาะการเลือกซื้ออสังหาฯ ที่หันมาให้ความสำคัญกับฟังก์ชั่น พื้นที่ใช้สอยในบ้าน, ระบบรักษาความปลอดภัย, ราคา-โปรโมชั่น, สภาพแวดล้อม, วัสดุในการก่อสร้าง รวมถึงการออกแบบภายนอก ขณะที่ทำเลที่ตั้งโครงการกลายเป็นเรื่องรอง หากผู้บริโภคจะตัดสินใจซื้ออสังหาฯ ภายใต้สถานการณ์นี้
นางสาวสุมิตรา วงภักดี กรรมการผู้จัดการ บริษัท เทอร์ร่า มีเดีย แอนด์ คอนซัลติ้ง จำกัด กล่าวในงานสัมมนาอสังหาริมทรัพย์ดัชนีหลักชี้เศรษฐกิจปี 2022 ซึ่งจัดโดยสมาคมธุรกิจบ้านจัดสรร, สมาคมอสังหาริมทรัพย์ไทย และสมาคมอาคารชุดไทย ว่า TerraBKK ได้จัดทำข้อมูลแบบสอบถามออนไลน์ 1,000 ชุด เพื่อสำรวจพฤติกรรมผู้บริโภคการซื้ออสังหาฯ ในยุคโควิด 19 ซึ่งพบว่า กว่า 50% ของผู้ตอบแบบสอบถามเป็นกลุ่ม Gen Y และคนส่วนใหญ่สนใจซื้อบ้านเดี่ยวเป็นอันดับ 1 รองลงมาคือ คอนโดมิเนียม, ทาวน์โฮม,บ้านพักตากอากาศ และบ้านแฝด ตามลำดับ
ทั้งนี้จากการเก็บข้อมูลในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา พบว่า ในช่วงปี 2563-2564 ในช่วงที่โควิด19 กำลังแพร่ระบาด ความต้องการซื้อที่อยู่อาศัยของผู้บริโภค มีการเปลี่ยนแปลงโดยเฉพาะความต้องการซื้อที่ดินสร้างเองมีเพิ่มสูงขึ้น ส่วนบ้านแฝดแม้จะมีสัดส่วนการตลาดน้อย แต่ผู้บริโภคก็ยังมีความต้องการเพิ่มขึ้นถึง 2 เท่า ขณะที่อาคารพาณิชย์ก็ยังมีความต้องการมากขึ้น ซึ่งเป็นสะท้อนการเติบโตของเศรษฐกิจ จากการนำอาคารมาประกอบกิจการเป็นหลัก ส่วนความต้องการซื้อคอนโดมิเนียมก็คือเพิ่มขึ้นเล็กน้อย
แน่นอนว่าช่องทางออนไลน์ยังคงเป็นช่องทางหลักที่ผู้บริโภคใช้ในการหาข้อมูลเกี่ยวกับสินค้า โดยอันดับ 1 คือ Facebook รองลงมาคือ เว็บไซต์ทั่วไป, เว็บไซต์ของ developer, search engine และเว็บไซต์ pantip ตามลำดับ
ซึ่งผู้บริโภคก็จะมีการเปรียบเทียบสินค้า จากแบรนด์ที่เป็นที่รู้จัก ซึ่งที่ผ่านมาผู้บริโภคส่วนใหญ่มีกำลังซื้ออสังหาฯจากแบรนด์ดังในราคาที่มากกว่าแบรนด์ทั่วไปถึง 20% แต่ด้วยสถานการณ์โควิด ที่ส่งผลกระทบต่อรายได้ก็ทำให้ผู้บริโภคส่วนใหญ่ขาดความเชื่อมั่นที่จะซื้ออสังหาฯในช่วงนี้
ทั้งนี้จากข้อมูลสามารถจำแนกพฤติกรรมผู้บริโภคที่จะเกิดขึ้นตั้งแต่ในช่วงโควิดและหลังโควิด ออกเป็น 4 กลุ่ม คือ
Home Body คือ บ้านจะกลายเป็นทุกอย่าง โดยคนกลุ่มนี้ที่จะใช้ชีวิตในบ้านมากขึ้น ซึ่งมีความต้องการพื้นที่ภายในบ้าน โดยเฉพาะส่วนการทำอาหาร พื้นที่ทำงาน และพื้นที่สำหรับสัตว์เลี้ยง
Tidy คือ กลุ่มคนที่ไม่นิยมสัตว์เลี้ยง เป็นคนที่ชื่นชอบการซื้อของออนไลน์ และให้ความสำคัญกับพื้นที่ทำงาน ซึ่งเป็นคนที่มีความเป็นส่วนตัวสูง มีความต้องการพื้นที่ทำงาน จัดเก็บของ
Wellbeing คือ กลุ่มคนที่มีความต้องการสุขภาพที่ดี ชอบพื้นที่สีเขียว ต้องการพื้นที่เพื่อเสริมสร้างสุขภาพให้ดียิ่งขึ้น
Outdoorsy คือ กลุ่มคนที่ต้องการใช้ชีวิตนอกบ้านให้มากขึ้น ซึ่งความต้องการจะมีลักษณะที่ใกล้เคียงกับกลุ่ม Wellbeing ซึ่งข้อมูลเหล่านี้ผู้พัฒนาอสังหาฯ สามารถนำมาปรับใช้ เพื่อเน้นเจาะกลุ่มลูกค้าเป้าหมายให้ตรงจุด พร้อมพัฒนาฟังก์ชั่นบ้าน หรือที่อยู่อาศัยให้ตอบโจทย์ความต้องการ
นอกจากนี้พฤติกรรมการเลือกซื้อที่อยู่อาศัยของคนยุคนี้ ยังมีความต้องการเรื่องความปลอดภัยขั้นสูง ที่ต้องควบคู่ระหว่างการดูแลจากเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย และเทคโนโลยี ที่ต้องนำมาใช้ควบคู่ เพื่อสร้างระบบความปลอดภัยสูงสุด
ซึ่งจากแนวโน้มดังกล่าวจะเห็นว่าการเลือกซื้ออสังหาฯของคนยุคนี้ให้ความสำคัญกับฟังก์ชั่น พื้นที่ใช้สอยในบ้าน, ระบบรักษาความปลอดภัย, ราคา-โปรโมชั่น, สภาพแวดล้อม, วัสดุในการก่อสร้าง รวมถึงการออกแบบภายนอก ขณะที่ทำเลกลายเป็นเรื่องรอง หากผู้บริโภคจะตัดสินใจซื้ออสังหาฯ ภายใต้สถานการณ์นี้
ส่วน Metaverse ต้องยอมรับว่าจะต้องเข้ามามีผลกับคน โดยเฉพาะการเปลี่ยนแปลงทางสังคม การเข้ามาของสังคมสูงวัย ซึ่งที่อยู่อาศัยในอดีตอาจจะไม่ตอบโจทย์ความต้องการในยุคนี้แล้ว ขณะที่คนรุ่นใหม่ Gen Z จะเป็นกลุ่มลูกค้าในอนาคต ดังนั้นการทำโฆษณาใหม่เพื่อเข้าถึงลูกค้ากลุ่มใหม่จำเป็นต้องเข้าสู่ Metaverse และอาจมีสำนักงานขายฝังตัวอยู่ใน Metaverse ด้วย เป็นอีกหนึ่งในช่องทางสร้างประสบการณ์การอยู่อาศัยได้ดี ทั้งนี้มองว่า Metaverse จะมีความเชื่อมโยงกับเทคโนโลยี AR,VR เพื่อสร้างประสบการณ์ให้ผู้ใช้งานได้ดีมากขึ้น
ทางด้านการรับชำระเงิน ในอนาคตก็จะมีการเปลี่ยนแปลงตามกลุ่มลูกค้า ให้มีความสะดวกมากขึ้น ซึ่ง Cryptocurrency คือหนึ่งในตัวเลือกที่คนรุ่นใหม่ให้ความสนใจ ทั้งการลงทุน การแลกเปลี่ยนทรัพย์ ซึ่งในภาคอสังหาฯ ควรมีการปรับตัวเพื่อมารับชำระเงินด้วยคริปโต เพื่อสร้างความดึงดูดให้กับลูกค้ากลุ่มใหม่
ทั้งนี้การทำการตลาดให้ประสบความสำเร็จ อันดับแรกจำเป็นต้องมีความเข้าใจกลุ่มลูกค้าอย่างแท้จริง ซึ่งธุรกิจอสังหาฯ หลังจากนี้อาจจะต้องมีการดูเรื่องกับราคา โปรโมชั่นให้สอดคล้องกับความต้องการของลูกค้ามากขึ้น ส่วนเทคโนโลยีควรเสริมด้านการประหยัดพลังงาน เป็นสิ่งจำเป็นต้องจะเข้ามาใช้ภายในโครงการให้มากขึ้น เพื่อช่วยลดการใช้พลังงานไฟฟ้าภายในบ้านมากขึ้น