PPS โชว์งบปี 64 พลิกทำกำไรโต 176.69% เดินหน้าประมูลงานภาครัฐ-เอกชน พัฒนาแหลมยามู เพิ่มความสามารถการขาย
PPS เผยงบปี 64 รายได้ 372.50 ล้านบาท กำไร 20.04 ล้านบาท โต 176.69% เดินหน้าตามแผน เตรียมยื่นประมูลงานภาครัฐ-เอกชน ตามนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ ขณะที่โครงการแหลมยามู จ.ภูเก็ต ได้รับความสนใจจากนักลงทุนมากขึ้น พร้อมออกหุ้นกู้เพื่อชำระคืนหุ้นกู้เดิม 200 ล้านบาท อัตราดอกเบี้ย 7.5%
ดร.พงศ์ธร ธาราไชย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โปรเจค แพลนนิ่ง เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) (PPS) เปิดเผยว่า ผลประกอบการปี 64 บริษัทมีกำไรสุทธิ 20.04 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่มีขาดทุนสุทธิ 26.13 ล้านบาท จำนวน 46.17 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 176.69% และมีรายได้รวม 396.56 ล้านบาท ลดลงจากปีก่อนที่มีรายได้รวม 409.65 ล้านบาท จำนวน 13.09 ล้านบาท หรือลดลง 3.20%
ทั้งนี้ ผลการขาดทุนของบริษัทสามารถพลิกกลับมาเป็นกำไรได้ เนื่องจากตลอดปี 64 ที่ผ่านมา บริษัทได้ปรับกลยุทธ์รับงานโครงการระยะสั้นและสามารถส่งมอบงานได้รวดเร็ว รวมถึงบริหารค่าใช้จ่ายและควบคุมต้นทุนการดำเนินงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ขณะที่ รายได้ของบริษัทปรับตัวลดลงเล็กน้อย เนื่องจากในปี 64 ประเทศไทยยังคงประสบปัญหาโคโรน่าไวรัส มีการหยุดโครงการก่อสร้างจากมาตรการภาครัฐ ซึ่งส่งผลกระทบกับรายได้ของบริษัทและบริษัทย่อย อย่างไรก็ตาม บริษัทมีรายได้เพิ่มขึ้นจากการต่อสัญญาโครงการสนามบินสุวรรณภูมิ และยังคงได้รับงานโครงการระยะสั้นจากภาคเอกชนที่ทำให้บริษัทสามารถรับรู้รายได้และส่งมอบงานได้เร็วจำนวนหนึ่ง
สำหรับแผนการดำเนินงานในปีนี้ บริษัทเดินหน้าเร่งยื่นประมูลงานภาครัฐ - เอกชนต่อเนื่อง ซึ่งคาดว่าจะมีโครงการที่ทยอยลงทุนหลายงาน ตามแผนพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของประเทศเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยเฉพาะภาคเอกชนในกลุ่มค้าปลีกที่คาดว่าจะมีการลงทุนเพิ่มขึ้น เสริมศักยภาพทางรายได้ จากการขยายขอบเขตการบริการเพื่อเจาะตลาดกลุ่มลูกค้าใหม่ๆ พร้อมกับบริหารต้นทุนและค่าใช้จ่ายตามแผนอย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างอัตรากำไรสุทธิที่ดียิ่งขึ้น ปัจจุบันบริษัทมี Backlog ประมาณ 503 ล้านบาท โดยมีงานที่อยู่ในระหว่างรอเซ็นสัญญารวมมูลค่าประมาณ 70 ล้านบาท
ขณะที่ โครงการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ประเภทลักซ์ชัวรี่วิลล่าในที่ดินแหลมยามูจ.ภูเก็ต ได้รับความสนใจจากนักลงทุนมากขึ้น หลังการเปิดประเทศและมีการฉีดวัคซีนที่แพร่หลาย อีกทั้ง การพัฒนาพื้นที่ส่วนกลาง ประกอบด้วย ถนน และแหล่งจ่ายไฟ จะเพิ่มความสามารถในการขาย และอำนวยความสะดวกให้แก่ผู้ที่สนใจเข้ามาดูโครงการ ซึ่งบริษัทมองว่าการลงทุนในจังหวัดภูเก็ตยังเป็นพื้นที่ที่น่าสนใจสำหรับนักลงทุนนานาชาติ
นอกจากนี้ บริษัทได้ยื่นแบบแสดงรายการข้อมูล (ไฟลิ่ง) ต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เพื่อออกและเสนอขายหุ้นกู้มีประกันบางส่วนของบริษัท ครั้งที่ 1/2565 มูลค่าไม่เกิน 200 ล้านบาท อายุ 1 ปี 11 เดือน 29 วัน อัตราดอกเบี้ยคงที่ 7.50% ต่อปี ชำระดอกเบี้ยทุก 3 เดือนตลอดอายุหุ้นกู้ เสนอขายให้แก่ผู้ลงทุนสถาบัน และ/หรือผู้ลงทุนรายใหญ่ เมื่อวันที่ 22-24 ก.พ.65 ที่ผ่านมา ผ่านบล.เคทีบีเอสที ซึ่งเป็นผู้จัดการการจัดจำหน่ายหุ้นกู้ครั้งนี้ โดยบริษัทจะนำเงินที่ได้จากการเสนอขายหุ้นกู้ครั้งนี้เพื่อใช้ชำระคืนหุ้นกู้ ที่จะครบกำหนดในวันที่ 25 ก.พ. 65 จำนวน 200 ล้านบาท