ผศ.ดร.เกษรา ธัญลักษณ์ภาคย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เสนาดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า เชื่อว่าหลังสถานการณ์โควิด-19 ภาพรวมธุรกิจอสังหาฯ มีแนวโน้มดีขึ้น ซึ่งไทยต้องมีความพร้อมในการเปิดประเทศและตั้งรับกับการเดินทางท่องเที่ยวให้ดีขึ้น ซึ่งจะช่วยสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชน โดยเฉพาะผู้ที่อยู่ในกลุ่มการท่องเที่ยว ให้กลับมามีกำลังซื้อ รวมถึลสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้ซื้อชาวต่างชาติด้วย

            ส่วนคอนโดฯ ต่ำล้าน เชื่อว่าในปีนี้ จะเห็นผู้พัฒนาอสังหาฯ รายอื่นโดดเข้ามาเจาะตลาดมากขึ้น โดยเชื่อว่าจะเป็นคอนโดฯ ระดับราคาล้านต้นๆ ซึ่งเป็นไปตามกลไกต้นทุนวัสดุและการก่อสร้างที่ปรับตัวสูงขึ้นในช่วงนี้

            อย่างไรก็ดี เสนาฯ ยังคงเดินหน้าพัฒนาคอนโดฯ ต่ำล้าน เพื่อรองรับความต้องการของลูกค้า ที่ยังคงมีต่อเนื่อง เพื่อทำให้คนรายได้น้อยถึงปานกลางได้มีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเอง โดยเน้นเปิดตัว “SENA Kith” คอนโดของคนช่างคิด ไฟติ้งแบรนด์ของเสนาที่ได้รับการตอบรับจากตลาดดีมากในปีที่ผ่านมา พร้อมปั้นแบรนด์คอนโดใหม่ “Flexi” เจาะกลุ่มลูกค้ากลุ่มคนรุ่นใหม่ Gen Y และ Z ที่กำลังมองหาบ้านหลังแรก และโครงการแนวราบ ซี่รีส์ทาวน์โฮมอิสระ ภายใต้แบรนด์ “SENA  Village”

 

            ทั้งนี้ในปี 2565 ถือเป็นปีแห่งการทรานส์ฟอร์มครั้งใหญ่ของเสนาที่จะสร้างการเปลี่ยนแปลงในการดำเนินธุรกิจครั้งสำคัญภายใต้กลยุทธ์ “SENA Next” มิติใหม่สู่การเติบโตอย่างยั่งยืน เพื่อให้บรรลุเป้าหมายและเติบโตอย่างแข็งแกร่ง พร้อมตอกย้ำแนวคิด Made From Her “คิดละเอียดกว่า ก็อยู่สบายกว่า” ครอบคลุม 3 เรื่องหลัก Next EXPANSION – Next ERA – Next LEVEL และเปิดโมเดลธุรกิจใหม่รูปแบบรีเคอร์ริ่งอินคัมเฟ้นพาร์ทเนอร์มืออาชีพปั้นบริษัทในเครือให้แข็งแกร่งปูพรมขยายการเติบโตสู่ความยั่งยืน

            โดยในปี 65 บริษัทจะเปิดตัวโครงการใหม่ 49 โครงการ  มูลค่า 27,480 ล้านบาท แบ่งเป็นแนวสูง 21 โครงการ และแนวราบ 28 โครงการ ส่วนหนึ่งเกิดจากการควบรวมกิจการบริษัท เจ.เอส.พี พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ JSP  ทำให้เสนาฯ สามารถขยายฐานกลุ่มลูกค้าใหม่ทั้งในกรุงเทพ - ปริมณฑล และต่างจังหวัด ได้ครอบคลุมทุกโลเคชั่นอย่างรวดเร็ว และมีจำนวนโครงการแนวราบมาเสริมทัพจำนวนมาก

            โดยได้วางเป้าหมายยอดโอน 12,186 ล้านบาท และยอดขาย 13,979 ล้านบาท มาจากการขายโครงการรวมปัจจุบัน จำนวน 41 โครงการ มูลค่ารวม 25,137 ล้านบาท และโครงการใหม่ 49 โครงการ มูลค่า 27,480 บ้านบาท รวมโครงการที่อยู่ระหว่างการขายในมือปัจจุบันเพิ่มเป็น 90 โครงการ รวมมูลค่ากว่า 52,617 ล้านบาท

 

 

            นอกจากนี้ ยังมีการเฟ้นหาพันธมิตร เพื่อขยายโอกาสในธุรกิจใหม่ อาทิ SENA WELLNESS ธุรกิจบริการด้านการดูแล ป้องกัน และฟื้นฟูสุขภาพ SENA จับมือ ทีมแพทย์ผู้ชำนาญการจัดตั้งบริษัทในเครือภายใต้ Brand “SENA HEALTHCARE” รองรับการเติบโตของสังคมสูงอายุ, SENA WAREHOUSE   ธุรกิจให้เช่าคลังสินค้า พร้อมช่วยบริหารจัดการแบบครบวงจรที่สามารถตอบสนองความต้องการทางธุรกิจ และ S FINANCIAL SERVICE ธุรกิจให้บริการทางการเงินเพื่อซื้ออสังหาริมทรัพย์ เพื่อให้ลูกค้าทุกคนสามารถมีบ้านอย่างปรารถนา

อย่างไรก็ดี เสนาฯยังคงร่วมมือ “ฮันคิว ฮันชิน พร็อพเพอร์ตี้ส์ คอร์ป” พันธมิตรทางธุรกิจที่แข็งแกร่งจากญี่ปุ่น เพื่อร่วมกันในการพัฒนาโครงการอย่างต่อเนื่อง โดยในปี 2565 มีแผนจะพัฒนาโครงการร่วมกันทั้งแนวราบ และแนวสูง 19 โครงการ รวมมูลค่า 13,900 ล้านบาท