“วัน ออริจิ้น” ผนึกอีกหนึ่งแลนด์ลอร์ด ปูพรมบุกตลาดรีเทล เนรมิตแลนด์มาร์คใหม่

“วัน ออริจิ้น” ผนึกอีกหนึ่งแลนด์ลอร์ด ปูพรมบุกตลาดรีเทล เนรมิตแลนด์มาร์คใหม่ “พอร์โทเบลโล มอลล์ แจ้งวัฒนะ” ตรงข้ามศูนย์ราชการ

“วัน ออริจิ้น” ร่วมขับเคลื่อน “Origin Multiverse” จับมือ “แอสเซท บลูม” บริษัทในเครือแลนด์ลอร์ดใหญ่ ย่านสุขุมวิท-แจ้งวัฒนะ เนรมิตคอมมูนิตี้ มอลล์แห่งใหม่บนพื้นที่ 14 ไร่ “พอร์โทเบลโลมอลล์ แจ้งวัฒนะ” ตรงข้ามศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ พร้อมร้านค้า ร้านอาหาร แหล่งไลฟ์สไตล์ชั้นนำมากมาย บนพื้นที่รวมเฉียดหมื่น ตร.ม. รองรับการเติบโตแบบรอบด้านของทำเลศักยภาพ คาดเปิดให้บริการปลายปี 2565  

นายปิติพงษ์ ไตรนุรักษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วัน ออริจิ้น จำกัด ผู้ดำเนินธุรกิจที่สร้างรายได้ประจำ (Recurring Income) ในเครือบริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ ORI เปิดเผยว่า จากแผนการดำเนินงานปี 2565 ของเครือออริจิ้นภายใต้แนวคิด Origin Multiverse บริษัทยังคงเดินหน้าสร้างโอกาสเติบโตแบบคู่ขนานอย่างต่อเนื่องทั้งผ่านการพัฒนาโครงการเอง การสร้างความร่วมมือกับพันธมิตรใหม่ๆ ตลอดจนการซื้อกิจการ ล่าสุด ได้จัดตั้งบริษัทร่วมทุนกับบริษัท แอสเซท บลูม จำกัด บริษัทในเครือของ แลนด์ลอร์ดตระกูลใหญ่ เจ้าของที่ดินหลายแปลงทั้งย่านสุขุมวิทและย่านแจ้งวัฒนะ ภายใต้ชื่อ บริษัท วัน แอสเซท บลูม จำกัด ในสัดส่วน 50:50 เพื่อร่วมกันพัฒนาโครงการคอมมูนิตี้มอลล์ “พอร์โทเบลโลมอลล์ แจ้งวัฒนะ” (Portobello Mall Chaengwattana) 

“ครั้งนี้นับเป็นครั้งที่สองที่เครือออริจิ้น จับมือกับกลุ่มแลนด์ลอร์ดเพื่อร่วมกันพัฒนาโครงการที่สร้างรายได้ประจำหรือ Recurring Income เรามองว่าแลนด์ลอร์ดกลุ่มนี้ ถือเป็นกลุ่มที่มีศักยภาพหลากหลายด้าน มีที่ดินในทำเลที่มีศักยภาพและน่าสนใจ  มีความเชี่ยวชาญในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์มายาวนานกว่า 30 ปี และมีวิสัยทัศน์ที่อยากจะเติบโตด้านอสังหาริมทรัพย์อย่างต่อเนื่อง เราจึงเชื่อมั่นความร่วมมือกันในครั้งนี้ จะช่วยกันเติมเต็มโอกาสในการเนรมิตแลนด์มาร์คแห่งใหม่ในทำเลศักยภาพ  และนำมาสู่โอกาสการสร้างความร่วมมือด้านอื่นๆ เพิ่มเติมในอนาคต” นายปิติพงษ์ กล่าว 

สำหรับโครงการคอมมูนิตี้มอลล์ “พอร์โทเบลโลมอลล์ แจ้งวัฒนะ” (Portobello Mall Chaengwattana) ตั้งอยู่บนพื้นที่กว่า 14 ไร่ บนถนนแจ้งวัฒนะ ตรงข้ามศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ มีพื้นที่อาคารรวม (Gross Floor Area) ประมาณ 10,000 ตารางเมตร ภายในโครงการจะประกอบด้วย ร้านค้าปลีก ร้านอาหารชั้นนำ ลานกิจกรรม แหล่งไลฟ์สไตล์ และพื้นที่จอดรถขนาดใหญ่กว่า 300 คัน โดยคาดว่าจะเปิดให้บริการได้ในไตรมาส 4/2565 

นายปิติพงษ์ กล่าวอีกว่า ทำเลที่ตั้งของโครงการเป็นทำเลแหล่งงานขนาดใหญ่ มีอาคารสำคัญจำนวนมากอยู่ในบริเวณใกล้เคียง อาทิ ศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ อาคาร Software Park สำนักงานของกสิกร บิซิเนส เทคโนโลยี กรุ๊ป (KBTG) รวมข้าราชการ พนักงานรัฐวิสาหกิจ พนักงานเอกชน ทำงานอยู่ในอาคารบริเวณใกล้เคียงจำนวนมาก นอกจากนี้ ทำเลของโครงการยังเชื่อมโยงกับปั๊ม ปตท แจ้งวัฒนะ ซึ่งเป็นสถานีสาขาที่มียอดการสัญจรวันละจำนวนมาก มีโครงข่ายคมนาคมที่รองรับการเติบโตของพื้นที่ อาทิ รถไฟฟ้าสายสีชมพูที่คาดว่าจะเปิดให้บริการได้ใน ปลายปี 2565 ซึ่งจะช่วยเสริมการเชื่อมต่อจากแนวตะวันออก-ตะวันตก รวมถึงรถไฟฟ้าสายสีแดงที่จะช่วยให้การเชื่อมต่อเข้าสู่กรุงเทพฯ ชั้นในมีความสะดวกมากยิ่งขึ้น จึงเชื่อมั่นว่า พอร์โทเบลโล มอลล์ แจ้งวัฒนะ จะได้รับการตอบรับที่ดีเมื่อเปิดให้บริการ 

ทั้งนี้ โครงการ “พอร์โทเบลโลมอลล์ แจ้งวัฒนะ” ถือเป็นโครงการคอมมูนิตี้มอลล์แห่งที่ 3 ของเครือออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ ต่อยอดความสำเร็จมาจาก 2 โครงการในพื้นที่ EEC ได้แก่ พอร์โทเบลโล มอลล์ ศรีราชา ตั้งอยู่ในโครงการ “ออริจิ้น ดิสทริค แหลมฉบัง-ศรีราชา” (Origin District Laemchabang-Sriracha) เปิดให้บริการตั้งแต่ปี 2561 และ พอร์โทเบลโลมอลล์ ระยอง ตั้งอยู่ในโครงการ “ออริจิ้น สมาร์ท ซิตี้ ระยอง” (Origin Smart City Rayong) โดยอยู่ระหว่างการพัฒนา และคาดว่าจะเปิดให้บริการในช่วงปลายปี 2565 

ด้าน นายชาญณรงค์ เศรษฐพฤกษ์ กรรมการ บริษัท แอสเซท บลูม จำกัด กล่าวเพิ่มเติมว่าบริษัท แอสเซท บลูม จำกัด และกลุ่มบริษัทในเครือ มีประสบการณ์ในการพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์มาเป็นเวลากว่า 30 ปี โดยเฉพาะในกลุ่ม Commercial Real Estate และ Real Estate for Rent เน้นลงทุนในที่ดินทำเลศักยภาพมาโดยตลอด อีกทั้งยังมีที่ดินบนทำเลศักยภาพภายใต้การดูแลอีกเป็นจำนวนมาก ที่พร้อมจะนำมาพัฒนาในอนาคต ความร่วมมือกับออริจิ้นในครั้งนี้ บริษัทมีความเชื่อมั่นเป็นอย่างยิ่งว่าจะสามารถนำความรู้ ความเชี่ยวชาญและประสบการณ์มาร่วมกันพัฒนาโครงการคุณภาพ เพื่อส่งมอบให้กับลูกค้าในทำเลย่านแจ้งวัฒนะนี้ได้  

สำหรับกลุ่มบริษัทในเครือของแลนด์ลอร์ด เป็นผู้ดำเนินธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ประเภทให้เช่า และให้เช่าที่ดินเพื่อการพาณิชย์ เช่น ปั๊ม ปตท แจ้งวัฒนะ สถานีที่มีผู้ใช้บริการมากที่สุดแห่งหนึ่ง โครงการโรงแรมและเซอร์วิสอพาร์ตเมนต์บนทำเลศักยภาพใจกลางสุขุมวิท, โครงการ คอมมูนิตี้มอลล์ ย่านพหลโยธิน และอื่นๆ  

ขณะที่ บริษัท วัน ออริจิ้น จำกัด เป็นผู้ดำเนินธุรกิจที่สร้างรายได้ประจำ (Recurring Income) ในเครือบริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) ปัจจุบัน ดำเนินธุรกิจหลากหลายกลุ่ม อาทิ กลุ่มธุรกิจโรงแรม พัฒนาโครงการโรงแรมและเซอร์วิสอพาร์ทเมนท์ พร้อมทั้งจับมือกับแบรนด์โรงแรมชั้นนำระดับโลกเข้ามาบริหาร มีโรงแรมที่เปิดดำเนินการแล้ว 2 แห่ง ได้แก่ โรงแรมสเตย์บริดจ์ สวีท แบงค็อก ทองหล่อ และโรงแรมฮอลิเดย์ อินน์ แอนด์ สวีทส์ ศรีราชา-แหลมฉบัง และมีโรงแรมที่อยู่ระหว่างการพัฒนาอีกหลายแห่ง นอกจากนี้ ยังมีกลุ่มธุรกิจอาคารสำนักงาน กลุ่มธุรกิจศูนย์การค้า กลุ่มอาคารมิกซ์ยูส ไปจนถึงกลุ่มธุรกิจอาหาร 

บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ ORI มีโครงสร้างธุรกิจหลากหลาย ประกอบด้วย 4 กลุ่มจักรวาลหลัก ได้แก่ 

1.กลุ่มจักรวาลที่อยู่อาศัยเพื่อการขาย (Residential for Sales) พัฒนาคอนโดมิเนียมและบ้านจัดสรรมาแล้ว 98 โครงการ (ณ สิ้นปี 2564) เช่น แบรนด์ พาร์ค ออริจิ้น (PARK ORIGIN), ดิ ออริจิ้น (The Origin), ออริจิ้น ปลั๊ก แอนด์ เพลย์ (Origin Plug & Play), ไนท์บริดจ์ (KnightsBridge), นอตติ้ง ฮิลล์ (Notting Hill), เคนซิงตัน (Kensington), แฮมป์ตัน (Hampton) และ บริทาเนีย (BRITANIA) รวมมูลค่าโครงการกว่า 143,800 ล้านบาท 

2.กลุ่มจักรวาลธุรกิจที่สร้างรายได้ประจำ (Recurring Income Business) เช่น โรงแรม เซอร์วิส อพาร์ตเมนท์ ค้าปลีก 

3.กลุ่มจักรวาลธุรกิจบริการ (Service Business) เช่น ธุรกิจการจัดการอสังหาริมทรัพย์ ธุรกิจตัวแทนซื้อ ขาย เช่า อสังหาริมทรัพย์ ธุรกิจที่ปรึกษาด้านอสังหาริมทรัพย์ 

4.กลุ่มจักรวาลเมกะเทรนด์ระยะยาว (Mega Trends Business) เช่น โลจิสติกส์ เฮลท์แคร์ ประกันภัย พลังงาน การเงิน ร้านอาหาร กัญชง และยังอาจมีจักรวาลย่อยๆ เพิ่มขึ้นในอนาคต เพื่อสร้างอีโคซิสเท็มที่ช่วยยกระดับคุณภาพการใช้ชีวิตของผู้บริโภคแบบครบวงจร