หากคุณเป็นคนหนึ่งที่กำลังจะวางแผนติดโคมไฟภายในบ้าน แต่ไม่รู้ว่าจะเลือกซื้อแบบไหนบ้างให้เหมาะและใช้ได้นานๆ วันนี้เราก็อยากที่จะพาทุกคนไปดูกันว่า ควรที่จะต้องเลือกอย่างไรให้เหมาะสม และใช้งานได้ยาวนานคุ้มค่าสุดๆ ถ้าพร้อมแล้วตามไปดูเทคนิคดีๆ ในการเลือกซื้อโคมไฟภายในบ้านกันเลย

โทนสีของไฟ

  • ไฟ Warm White 

สำหรับตัวแรกอย่างไฟ Warm White นั้น จะออกโทนส้มๆ นวลๆ ทำให้รู้สึกถึงความอบอุ่น ผ่อนคลาย เหมาะกับบรรยากาศภายในห้องนอน ห้องน้ำ ห้องรับแขก ไม่ทำให้แสบตาจนเกินไป เพราะมีอุณหภูมิสีอยู่ที่ประมาณ 2,500 - 3,300 เคลวิน แต่แสงไฟประเภทนี้ไม่เหมาะกับห้องแต่งตัว ห้องแต่งหน้า หรือห้องที่จำเป็นจะต้องทำกิจกรรมที่ให้มองเห็นสีของวัตถุที่เป็นจริงมากที่สุด

  • ไฟ Cool White 

ไฟ Cool White เป็นไฟที่ให้สีออกขาวๆ โทนเย็น มองสบายตา เหมาะกับห้องที่ต้องการให้สามารถมองเห็นสีสันได้อย่างชัดเจน ส่วนมากใช้งานในร้านค้าต่างๆ เป็นประจำ หรือในพื้นที่ห้องอาหาร ห้องทานข้าว ก็จะช่วยให้สีสันของอาหารดูน่ารับประทานมากยิ่งขึ้น สำหรับอุณหภูมิสีของไฟประเภทนี้จะอยู่ที่ 4,000 เคลวิน

  • ไฟ Daylight White 

สีของไฟประเภทสุดท้ายก็คือไฟ Daylight White ที่ให้สีใกล้เคียงกับแสงอาทิตย์ ไม่ทำให้สีวัตถุผิดเพี้ยน ช่วยกระตุ้นให้ร่างกายกระปรี้กระเปร่า และทำให้ร่างกายสดชื่นได้อีกด้วย ซึ่งอุณหภูมิของสีอยู่ที่ประมาณ 6,000 - 6,500 เคลวินนั่นเอง

ขั้วของหลอดไฟ

  • หลอดไส้ 

สำหรับโคมไฟภายในบ้านที่ใช้หลอดไส้นั้น จะเป็นการปล่อยพลังงานไฟฟ้าผ่านขดลวด ในปัจจุบันมีการยืดอายุการใช้งาน และอาจจะเรียกกันว่าหลอดทังสเตนฮาโลเจนแทน ซึ่งหลอดไส้นั้นจะเน้นบรรยากาศของห้องให้ดูสว่างเป็นพิเศษ เหมาะสำหรับการใช้งานภายในตู้โชว์เป็นหลัก

  • หลอดคอมแพคฟลูออเรสเซนต์ 

หลอดคอมแพคฟลูออเรสเซนต์ หรือหลอดตะเกียบนั้น เป็นหลอดที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก เพราะว่าเป็นหลอดที่ให้แสงสว่างสูง มีอายุการใช้งานยาวๆ และประหยัดไฟกว่าหลอดไส้ ซึ่งหลอดไฟประเภทนี้ก็สามารถให้แสงสว่างได้ทั้งภายในและภายนอกอาคารอีกด้วย

  • หลอด LED

สำหรับหลอด LED ถือเป็นหลอดที่มีขนาดเล็ก แต่ให้แสงสว่างได้ดี ไม่ปล่อยรังสียูวี ไม่แผ่ความร้อน ทำให้สามารถยืดอายุการใช้งานได้นานยิ่งขึ้นอีกด้วย ซึ่งโคมไฟภายในบ้านในปัจจุบันก็มักจะเลือกใช้หลอด LED เป็นหลัก

ระดับความสว่างเหมาะกับพื้นที่ 

สำหรับการเลือกโคมไฟภายในบ้านนั้น ควรที่จะต้องเลือกความสว่างให้เหมาะสม เพื่อให้สามารถทำกิจกรรมได้ตามต้องการ ไม่ว่าจะเป็นห้องอ่านหนังสือหรือห้องทำงาน ก็ควรที่จะต้องมีแสงสว่างที่เพียงพอ เพื่อไม่ให้สายตาเสีย และห้องนอน ห้องสำหรับพักผ่อน ควรที่จะต้องมีแสงนวลๆ เพื่อให้สามารถพักผ่อนได้อย่างเต็มที่