อัปเดต ‘นวัตกรรมที่อยู่อาศัย และการก่อสร้างสุดล้ำ’ จากเอสซีจี ที่จะสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น พร้อมสร้างคุณค่าให้ธุรกิจ และการเติบโตอย่างยั่งยืนให้สังคมและสิ่งแวดล้อม
เมื่อโลกกำลังขยับตัวสู่การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ ทั้งการก้าวสู่ยุคดิจิทัลเต็มตัว และแนวคิด Go Green เพื่อการมีส่วนร่วมในการดูแลรักษาสิ่งแวดล้อม ปัจจัยต่างๆ เหล่านี้ส่งผลให้ผู้คนกำลังก้าวเข้าสู่วิถีชีวิตปกติรูปแบบใหม่ (Next Normal) “นวัตกรรม” จึงเข้ามามีบทบาทสำคัญในการช่วยขับเคลื่อนการใช้ชีวิตของผู้คน และการดูแลสิ่งแวดล้อมในยุค Next Normal ล่าสุด เอสซีจี ในฐานะผู้นำนวัตกรรมด้านที่อยู่อาศัย และการก่อสร้าง ได้จัดงาน SCG Livin’novation 2022 (เอสซีจี ลีฟวิ่งโนเวชั่น) เมื่อวันที่ 5-10 เมษายน 2565 ที่ผ่านมา โดยแสดงนวัตกรรมสุดล้ำ ที่สามารถตอบโจทย์การเปลี่ยนแปลงในปัจจุบัน และอนาคต รวมถึงนำมาใช้ยกระดับการอยู่อาศัย การใช้ชีวิต และการพัฒนาเมืองให้ดีขึ้น มอบคุณภาพชีวิตที่ดี ควบคู่ไปกับสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนของสังคม และสิ่งแวดล้อม
ดิจิทัลเทคโนโลยี คือ จิ๊กซอว์ชิ้นสำคัญที่ช่วยให้ทุกคนปรับตัวให้สอดรับกับเมกะเทรนด์แห่งอนาคตเหล่านี้ เอสซีจี จึงนำดิจิทัลเทคโนโลยีมาพัฒนานวัตกรรมสินค้า บริการ และโซลูชั่นด้านที่อยู่อาศัย และการก่อสร้างครบวงจร เพื่อส่งต่อ ‘สิ่งที่ดีกว่า’ ให้กับทุกคน (BetterFuture Living) พร้อมมุ่งมั่นทำให้ดียิ่งขึ้นในทุกวัน โดยในงาน SCG Livin’novation 2022 (เอสซีจี ลีฟวิ่งโนเวชั่น) ได้ฉายภาพแห่งอนาคตให้ทุกคนได้เห็นว่าที่อยู่อาศัย และการใช้ชีวิตประจำวันในเมืองที่ดียิ่งขึ้นนั้นเป็นอย่างไร ซึ่งบทความนี้ได้รวบรวมไฮไลท์นวัตกรรมการอยู่อาศัยและการก่อสร้าง มาสร้างแรงบันดาลใจให้กับผู้บริโภค และผู้ประกอบการทุกอุตสาหกรรม
นวัตกรรมเพื่อสุขอนามัย ลดเสี่ยงโรค สร้างคุณภาพชีวิตให้ดีขึ้น ตอบโจทย์ด้าน Health & Well-Being เหมาะกับการใช้ชีวิตในยุคที่โควิด-19 กำลังจะเป็นโรคประจำถิ่น และฝุ่น PM 2.5 ยังคงวนเวียนกลับมาสร้างความกังวลให้เสมอ เราจึงควรหันมาดูแลตัวเองด้วยนวัตกรรมเหล่านี้ เช่น SCG Active AIR Quality ระบบปรับคุณภาพอากาศภายในบ้าน สร้างอากาศดี เติมออกซิเจนเข้าสู่บ้าน กรองฝุ่น PM 2.5 และเชื้อไวรัสกลุ่มโคโรน่าจากภายนอกบ้าน* พร้อมไล่อากาศเสียออกจากบ้าน SCG Bi-ion ระบบไอออนกำจัดเชื้อโรคในอากาศ สามารถกำจัดเชื้อโรคและแบคทีเรียในอากาศได้สูงสุดถึง 99%** รวมถึงเชื้อโควิด-19 ทั้งยังช่วยลดฝุ่น PM 2.5 ปลอดภัยต่อระบบหายใจ ระบบผนังกั้นห้อง ที่นำนวัตกรรม ULTRA CLEAN COATING มาใช้กับผนังสมาร์ทบอร์ด
เอสซีจี ทำให้ทำความสะอาดได้ง่าย สามารถเช็ดฆ่าเชื้อโรคได้ จึงปลอดภัยต่อสุขภาพ รวมถึงกลุ่มสุขภัณฑ์จาก COTTO Health & Clean ที่พัฒนานวัตกรรมไปอีกขั้นให้ตอบโจทย์การอยู่อาศัยในยุค Next Normal ซึ่งมีทั้งกระเบื้องยับยั้งแบคทีเรีย กระเบื้องฟอกอากาศ สุขภัณฑ์อัติโนมัติ สุขภัณฑ์ไร้สัมผัสด้วยระบบเซ็นเซอร์ ไปจนถึงเซ็นเซอร์สำหรับก๊อกซิงค์ เรียกได้ว่าเป็นนวัตกรรมที่สามารถสร้างความมั่นใจให้ทุกคนในบ้านอยู่กันได้อย่างอุ่นใจ และปลอดภัยยิ่งขึ้น
นวัตกรรม Go Green สร้างความยั่งยืน เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม พร้อมประหยัดพลังงานให้บ้าน อาทิ เปลี่ยนหลังคาที่ว่างเปล่าให้เป็นแหล่งผลิตไฟฟ้าจากพลังงานสะอาดด้วย SCG Solar Roof Solutions เปิดตัวเทคโนโลยีใหม่ “Microinverter” ที่ช่วยให้การติดโซลาร์ล้ำสมัย คุ้มค่า และปลอดภัยยิ่งขึ้น และ “SCG Solar Roof ระบบ Hybrid” ทางเลือกใหม่ที่มาตอบโจทย์เจ้าของบ้านและไลฟ์สไตล์ของผู้คนในยุคปัจจุบัน ให้นอกจากจะผลิตไฟฟ้าใช้ในเวลากลางวันได้แล้ว ยังสามารถกักเก็บไฟฟ้าไว้ใช้ในเวลากลางคืน และสามารถเป็นระบบไฟฉุกเฉินสำหรับเครื่องใช้ไฟฟ้าสำคัญของบ้านได้ ช่วยประหยัดไฟสูงสุด 60% ขึ้นอยู่กับพฤติกรรมการใช้ไฟ สถานที่ติดตั้ง และสภาพอากาศ
ถัดมาฉนวนกันความร้อน รุ่นสเตย์คูลสมาร์ท และแผ่นสะท้อนความร้อน รุ่นอัลตราคูล อินโนกรีน อีกขั้นของนวัตกรรมเพื่อบ้านเย็น ให้มากกว่าการกันร้อน แต่ปลอดภัยต่อสุขภาพและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากยิ่งกว่าเดิม ด้วยเทคโนโลยี G-Care Insulation : Green-4 Series ทั้งยังได้รับรองฉลาก ‘SCG Green Choice’ ซึ่งเป็นฉลากรับรองผลิตภัณฑ์และบริการที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และส่งเสริมสุขอนามัยที่ดี ซึ่งเอสซีจี ยังมีนวัตกรรมที่ได้รับรองฉลากนี้อีกมากมาย ครอบคลุมตั้งแต่สินค้ากลุ่มงานโครงสร้าง หลังคา งานฝ้าเพดาน พื้น ผนัง สุขภัณฑ์และก๊อกน้ำ ไปจนถึงวัสดุตกแต่งสวนรอบบ้าน
ปัจจุบันการก่อสร้างแบบเดิมไม่เพียงพออีกต่อไป ก้าวสู่ยุคแห่ง ‘เทคโนโลยีและนวัตกรรมการก่อสร้าง’ ที่จะตอบโจทย์งานก่อสร้างยุคใหม่ให้กับผู้ประกอบการธุรกิจ และอุตสาหกรรมต่างๆ ทั้งยังช่วยยกระดับวงการการก่อสร้างของไทยให้ก้าวไปอีกขั้น
นวัตกรรมการก่อสร้างที่มอบคุณค่าหลากมิติ ทั้งก่อสร้างรวดเร็ว มีประสิทธิภาพ แม่นยำสูง ลดเสี่ยงอันตราย ประหยัดแรงงาน ลดเศษวัสดุในไซต์ ลดต้นทุน และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ได้แก่ CPAC BIM ระบบสร้างแบบจำลองเสมือนของอาคาร 3 มิติ ที่ทำให้เห็นการออกแบบสถาปัตย์ งานโครงสร้าง และงานระบบได้ในคราวเดียว ช่วยเพิ่มความแม่นยำในการออกแบบ การใช้วัสดุก่อสร้าง ตรวจสอบความผิดพลาด และควบคุมคุณภาพทั้งระบบ CPAC 3D Printing Solution ฉีกข้อจำกัดการก่อสร้างแบบเดิมๆ ด้วยเทคโนโลยีการขึ้นรูปโครงสร้างและตัวอาคารตามรูปแบบที่ต้องการได้อย่างอิสระ และ CPAC Low-Rise Building Solution นวัตกรรมการก่อสร้างด้วยคอนกรีตสำเร็จรูป ระบบพรีแคส ที่ผลิตชิ้นส่วนผนัง พื้น บันได คานมาจากโรงงาน และสามารถนำไปติดตั้งที่หน้างานได้ทันที โดยนำเสนอแบบบ้านพรีแคสด้วยระบบโครงสร้างคอนกรีตสำเร็จรูปทั้งหลัง (Fully Precast) ทั้งแบบบ้านชั้นเดียว บ้านสองชั้น และทาวน์โฮม เริ่มต้นรับงานขั้นต่ำเพียง 8 หลัง โดยดูแลครบวงจรด้วยทีมงานมืออาชีพ
นวัตกรรมเสริมประสิทธิภาพอาคาร และประหยัดพลังงาน ยกตัวอย่างไฮไลท์นวัตกรรม อาทิ SCG HVAC Air Scrubberระบบบำบัดอากาศเสีย ทำให้คุณภาพอากาศภายในอาคารดีขึ้น จากการดูดซับก๊าซพิษในอากาศภายในตึก พร้อมลดภาระการทำความเย็นของระบบปรับอากาศได้ประมาณ 20-30% และ SCG IoT Sensing Thermostat ระบบควบคุมเครื่องปรับอากาศไร้สายอัจฉริยะ นวัตกรรมที่ปรับเปลี่ยนระบบควบคุมเครื่องปรับอากาศให้ “สมาร์ท” และทำงานอย่างชาญฉลาดมากขึ้น ช่วยประหยัดพลังงาน ประหยัดค่าใช้จ่ายจากการลดพลังงานของระบบปรับอากาศได้ตั้งแต่ 15-60%
เพราะการสร้างสรรค์นวัตกรรมของเอสซีจี ไม่ได้ใช้เพียงเพื่อตอบโจทย์ความต้องการในปัจจุบัน แต่เอสซีจีมองไปไกลในมุมของอนาคตว่ารูปแบบการใช้ชีวิต สังคม และโลกจะเปลี่ยนไปในทิศทางใด จึงไม่หยุดที่จะพัฒนานวัตกรรมให้สามารถตอบโจทย์ ช่วยแก้ปัญหา พร้อมสามารถมอบคุณภาพชีวิตที่ดีกว่าให้แก่ทุกคน
ติดตามงานดีๆ ที่เอสซีจีตั้งใจนำเสนอทั้งนวัตกรรมสินค้าและโซโลชั่นเพื่อตอบโจทย์การใช้ชีวิตที่ดีขึ้น ครั้งถัดไปได้ที่ งานสถาปนิก’65 วันที่ 26 เมษายน – 1 พฤษภาคม 2565 ที่ อาคารชาเลนเจอร์ ฮอลล์ อิมแพค เมืองทองธานี
ผู้ที่สนใจสินค้า บริการ และโซลูชั่นต่างๆ หรือ ต้องการปรึกษาทีมผู้เชี่ยวชาญมืออาชีพจาก SCG สามารถติดตามข่าวสาร และสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ SCG Home Contact Center 02-586-2222 หรือ https://www.scgbuildingmaterials.com/ หรือ FacebookPage : SCGBrand และติดตามงานจัดแสดงนิทรรศการต่างๆ ของ SCG ได้ที่ www.SCGlivingverse.com
หมายเหตุ
*ผลทดสอบจากห้องปฏิบัติการ NSTDA,TBES,NCTC และศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล คุณสมบัติเป็นไปตามที่บริษัทฯ กำหนด
**SCG Bi-ion เป็นระบบที่มีคุณสมบัติช่วยลดโอกาสในการติดโรคที่เกิดจากเชื้อไวรัสและแบคทีเรีย ไม่ได้เป็นอุปกรณ์ที่ช่วยป้องกันการติดเชื้อโควิด19