“ออลล์ อินสไปร์” ประกาศเบรกอสังหาฯ 3 ปีไม่สร้างใหม่ หันรุกธุรกิจบริหารสินทรัพย์, หนี้ -คาร์บอนเครดิต รับ Mega Trend
นายธนากร ธนวริทธิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ออลล์ อินสไปร์ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า บริษัทจะปรับโครงสร้างการทำธุรกิจใหม่ เตรียมก้าวสู่ “โฮลดิ้ง คอมพานี” รับกระแส Mega Trend โดยจะลดสัดส่วนการทำธุรกิจอสังหาฯ เหลือ 10% ซึ่งในช่วงหลังจากนี้ในระยะ 3 ปี จะทยอยขายโครงการเดิมที่มี Backlog อยู่ราว 8,000 ล้านบาท เพื่อสร้างการรับรู้รายได้ และยังไม่มีแผนการก่อสร้างโครงการใหม่ ส่วนที่ดินรอการพัฒนาที่ถืออยู่ 5-6 แปลง ตอนนี้ถ้ามีคนซื้อก็พร้อมขายทันที
ทั้งนี้บริษัทจะเดินหน้าธุรกิจใหม่ 3 ธุรกิจ รับกระแส Mega Trend คือ ธุรกิจบริหารสินทรัพย์ ธุรกิจบริหารหนี้สิน และ ธุรกิจคาร์บอนเครดิต โดยใช้งบลงทุนราว 1,400 ล้านบาท แบ่งเป็นธุรกิจบริหารสินทรัพย์ ใช้ทุนราว 50% ส่วนธุรกิจบริหารหนี้สิน และ ธุรกิจคาร์บอนเครดิต จะใช้เลินลงทุนประมาณ 40% ซึ่งบริษัทได้มีการจับมือกับพันธมิตรทางธุรกิจที่มีความพร้อม และสามารถดำเนินธุรกิจได้ทันที ซึ่งคาดว่าในช่วงไตรมาส 3/65 จะเห็นความชัดเจน โดยบริษัทตั้งสัดส่วนธุรกิจบริหารสินทรัพย์ คิดเป็น 30% ธุรกิจบริหารหนี้สิน คิดเป็น 30% และ ธุรกิจคาร์บอนเครดิต คิดเป็น 30% โดยตั้งเป้ามาร์เก็ตแคป 30,000 ล้านบาท ภายใน 3 ปี
อย่างไรก็ดีการปรับโครงสร้างธุรกิจครั้งนี้เกิดขึ้นภายใต้แนวคิด “All New Era” ออลล์ อินสไปร์ ยุคใหม่ ที่ไม่หยุดแค่อสังหาริมทรัพย์อีกต่อไป มองหาโอกาสใหม่ๆ เพื่อการพลิกฟื้นธุรกิจให้มีอัตราการเติบโตอย่างรวดเร็ว พร้อมตั้งเป้าเทิร์นอะราวด์ เตรียมก้าวสู่ “โฮลดิ้ง คอมพานี” เพิ่มความคล่องตัวในการขยายธุรกิจไปสู่ธุรกิจใหม่ที่สามารถสร้างรายได้อย่างต่อเนื่อง
ทั้งนี้ในปี 65 คาดว่าจะมีรายได้ราว 4,000 - 4,500 ล้านบาท โดยมาจากธุรกิจอสังหาฯ ประมาณ 40% และมาจากธุรกิจบริหารสินทรัพย์-หนี้สิน ราว 60%
สำหรับ 3 ธุรกิจใหม่ คือ
ธุรกิจบริหารสินทรัพย์ Assets Management (AMC) รูปแบบการดำเนินงานคือ การจัดตั้งบริษัทใหม่พร้อมจับมือกับพันธมิตรทางธุรกิจ รวมถึงการควบรวมกิจการและพร้อมเข้าประมูลกับสถาบันการเงิน
ธุรกิจบริหารหนี้สิน Debt Management เป็นการเข้าซื้อหนี้เสียมาบริหาร ปรับปรุงโครงสร้างหนี้ อาทิ สินเชื่อส่วนบุคคล สินเชื่อบัตรเครดิต หรือหนี้อื่นๆ และมีแผนร่วมมือกับพันธมิตรทางธุรกิจ
ธุรกิจคาร์บอนเครดิต Carbon Credits ได้มีการร่วมทุนกับพันธมิตรทางธุรกิจระดับโลก โดยรูปแบบการดำเนินธุรกิจ One Stop Service ซื้อ ขาย พัฒนา คาร์บอนเครดิต ผ่านบล็อกเชน รายแรกของประเทศไทย