เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ ครองสถานะคลังสินค้าชั้นนาของประเทศ ส่งมอบศูนย์กระจายสินค้าแห่งใหม่อีก 11,000 ตร.ม. ให้แก่ บริษัท โบลโลเร่ โลจิสติคส์ รองรับดีมานด์คลังสินค้าโต
บริษัท เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ อินดัสเทรียล (ประเทศไทย) จากัด หรือ “FPIT” ผู้นาในการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เพื่ออุตสาหกรรมสมัยใหม่ของอาเซียน ภายใต้เครือบริษัท เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ ประเทศไทย จากัด (มหาชน) หรือ “FPT” เดินหน้าส่งมอบคลังสินค้าแบบสร้างตามความต้องการ (Built-to-Suit) อย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุด ได้พัฒนาอาคารศูนย์กระจายสินค้าแห่งใหม่ขนาดพื้นที่ 11,000 ตรม. ให้กับ บริษัท โบลโลเร่ โลจิสติคส์ ผู้ให้บริการทางด้านโลจิสติกส์ระดับสากลจากประเทศฝรั่งเศสโดยใช้ชื่ออาคารว่า “SMILE Hub” เพื่อใช้รองรับการบริการขนส่งและจัดเก็บสินค้าแฟชั่น น้าหอม เครื่องสาอาง ระดับพรีเมี่ยมของแบรนด์นานาชาติ
ศูนย์กระจายสินค้าแห่งนี้ ตั้งอยู่ภายในโครงการ เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ โลจิสติกส์ เซ็นเตอร์ (บางพลี 7 ) จังหวัดสมุทรปราการ ซึ่งเป็นทาเลศักยภาพสะดวกต่อการดาเนินงานด้านโลจิสติกส์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ภายในอาคารมีความสูง 13 เมตร และสามารถรองรับน้าหนักได้สูงถึง 3 ตันต่อตารางเมตร โดยแบ่งพื้นที่ออกเป็น 2 ส่วน ประกอบด้วยพื้นที่จัดเก็บสินค้าแบบอุณภูมิปกติ (Ambient Storage) และแบบควบคุมอุณหภูมิ (Temperature Controlled Storage) ที่มีความเย็นในระดับต่ากว่า 25 องศาเซลเซียส ซึ่งออกแบบขึ้นเพื่อรองรับการจัดเก็บรักษาสินค้าและผลิตภัณฑ์พรีเมียมที่ต้องการการดูแลเป็นพิเศษ จึงมีการติดตั้งระบบกรองอากาศและฝุ่นละออง ระบบป้องกันแมลง ระบบควบคุมอุณหภูมิและระดับความชื้น และระบบรักษาความปลอดภัยระดับสูงไว้อย่างครบครัน
นายโสภณ ราชรักษา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ อินดัสเทรียล (ประเทศไทย) กล่าวว่า “FPIT มีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้รับความไว้วางใจจากบริษัท โบลโลเร่ โลจิสติคส์ (ประเทศไทย) ให้มีบทบาทสาคัญในการพัฒนาโครงการศูนย์กระจายสินค้าแห่งใหม่ในประเทศไทย เพื่อรองรับการดาเนินงานด้านโลจิสติกส์และการจัดการซัพพลายเชนระดับโลกของบริษัทฯ ในการร่วมงานกับโบลโลเร่ครั้งนี้ นับเป็นอีกหนึ่งความภาคภูมิใจของ FPIT ที่ได้นาประสบการณ์และความชานาญของบริษัทและทีมงานมืออาชีพมาสรรสร้างพื้นที่คลังสินค้าคุณภาพเกรดพรีเมียม ที่มีความเป็นต้นแบบด้านนวัตกรรมและเทคโนโลยี รวมถึงการพัฒนาเพื่อความยั่งยืนเทียบเท่าระดับสากล”
นายวัฒนา กิตติก้องนพกรณ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท โบลโลเร่ โลจิสติคส์ (ประเทศไทย) กล่าว “การเปิดตัวศูนย์กระจายสินค้าใหม่ในชื่อ SMILE HUB ในครั้งนี้ เป็นเครื่องพิสูจน์ความมุ่งมั่นของโบลโลเร่ โลจิสติคส์ ที่จะสร้างการเติบโตในประเทศไทยและภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก โดยบริษัทฯมั่นใจว่า ภายใต้การดาเนินงานอย่างเป็นมืออาชีพภายในโครงการคลังสินค้าแห่งใหม่นี้ที่ทันสมัยและตอบโจทย์การดาเนินงานที่มุ้งเน้นประสิทธิภาพ ความยั่งยืน และการมีคุณภาพชีวิตที่ดีของพนักงาน จะทาให้ฮับการกระจายสินค้าสามารถดาเนินงานได้อย่างลุล่วงไปพร้อมๆกับการดูแลพนักงาน สังคม และสิ่งแวดล้อม”
ด้วยวิสัยทัศน์ที่สอดคล้องกันระหว่าง FPIT และ บริษัท โบลโลเร่ โลจิสติคส์ ที่ให้ความสาคัญกับการดาเนินธุรกิจตามแนวทางความยั่งยืน (Sustainability) ศูนย์กระจายสินค้าแห่งนี้จึงได้รับการออกแบบและพัฒนาอย่างสอดคล้องกับมาตรฐานอาคารสีเขียว หรือ Leadership in Energy and Environmental Design (LEED) ในระดับ GOLD ซึ่งเป็นมาตรฐานระดับสากลด้านอาคารที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และส่งเสริมคุณภาพชีวิตของผู้ใช้อาคารให้มีสภาพแวดล้อมการทางานที่ดีในองค์รวมเพิ่มเติมจากความถูกสุขลักษณะและปลอดภัยที่เป็นพื้นฐาน
ตัวอย่างที่น่าสนใจของอาคารนี้ ได้แก่ การติดตั้งสกายไลท์บนหลังคาเพื่อให้แสงธรรมชาติเพียงพอและลดอุณหภูมิความร้อนในพื้นที่อาคารด้วยพัดลมอุตสาหกรรมขนาดใหญ่, การใช้ Metal Sheet ที่มีการเคลือบผิวด้วยเซรามิคที่มีค่าการสะท้อนความร้อนจากแสงอาทิตย์ถึง 96%, การติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์แสงอาทิตย์ เพื่อลดค่าใช้จ่ายในระยะยาว, การติดตั้งระบบและอุปกรณ์ที่ช่วยประหยัดพลังงานน้าและการใช้ Motion Sensor ร่วมกับระบบไฟ LED ในห้องน้าเพื่อช่วยลดการใช้ไฟฟ้าในขณะที่ไม่มีผู้ใช้งาน รวมถึงการออกแบบอาคารโดยใช้หลักการ Universal Design สาหรับผู้ใช้อาคารทุกกลุ่ม
ในฐานะผู้นาธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เพื่อการอุตสาหกรรมที่มีประสบการณ์ยาวนานกว่าสามทศวรรษ FPIT จะยังคงเดินหน้าพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการด้วยโซลูชันครบวงจรที่ตรงความต้องการของลูกค้าทุกกลุ่ม โดยยึดลูกค้าเป็นศูนย์กลาง (Customer Centric) ตลอดจนมุ่งสร้างแรงบันดาลใจและประสบการณ์ที่ดีให้กับลูกค้า ชุมชน รวมถึงผู้มีส่วนได้ส่วนเสียของบริษัทฯ FPIT จะไม่หยุดนิ่งในการพัฒนาอาคารเพื่ออุตสาหกรรม ที่เน้นการส่งเสริมแนวคิดด้านความยั่งยืนในทุกมิติ โดยพร้อมที่จะเป็นส่วนหนึ่งในการสนับสนุนให้ลูกค้าสามารถบรรลุทุกเป้าหมายด้านความยั่งยืนในระยะยาว