เค.ซี. พร็อพเพอร์ตี้ ชู 5 กลยุทธ์ พลิกฟื้นบริษัทแบบยั่งยืน
บมจ.เค.ซี. พร็อพเพอร์ตี้ ตอกย้ำความเป็นบริษัทพัฒนาธุรกิจอสังหาริมทรัพย์แนวราบที่เน้นคุณภาพ ชู 5 กลยุทธ์พลิกฟื้นบริษัทแบบยั่งยืน ทั้งด้าน Product, ด้าน Process, ด้านต้นทุน, ด้านการตลาด และกลยุทธ์ด้านธุรกิจใหม่ พร้อมเติบโตแบบก้าวกระโดด ตั้งเป้าปี 65 โตกว่า 100% พร้อมเตรียมที่ดินมาพัฒนาโครงการในรูปแบบใหม่ ๆ สู่ความเป็น living solution ของผู้อยู่อาศัยอีกด้วย
นายสันติ ปิยะทัต กรรมการผู้จัดการ บริษัท เค.ซี. พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ KC ผู้พัฒนาธุรกิจอสังหาริมทรัพย์แนวราบด้วยคุณภาพอย่างมั่นคงที่ก้าวสู่ปีที่ 40 เปิดเผยว่า หลังจากเข้ามาบริหาร ก็ปรับเปลี่ยนการบริหารให้เป็นไปตามกฎเกณท์ ถูกต้อง โปร่งใส ภายในระยะเวลา 4 ปี และบริษัทฯ กลับเข้ามาซื้อขายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์อีกครั้ง ตั้งแต่ 19 พฤษภาคม นี้ ในหมวดกลุ่มอสังหาฯ และก่อสร้าง และได้รับการตอบรับจากนักลงทุนเป็นอย่างดี และจากนี้ไป บริษัทฯ ได้วางกลยุทธ์ เพื่อแก้ไขและปรับปรุงจุดที่ยังไม่สมบูรณ์ให้ดียิ่งขึ้น
โดยแบ่ง กลยุทธ์ออกเป็น 5 ส่วน ได้แก่
- กลยุทธ์ด้าน Product ในปีนี้เรามีการเพิ่ม Product line ใหม่ ในส่วนที่เป็นเชิงพาณิชย์ ได้แก่ อาคารพาณิชย์ โครงการ เค.ซี.สุวินทวงศ์ 2 เพื่อเติมเต็มหมวดหมู่ของสินค้าเราให้สมบูรณ์ยิ่งขึ้น
- กลยุทธ์ด้าน Process จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของ Covid-19 ใน 2 ปีที่ผ่านมา เราได้เห็นถึงปัญหาของความล่าช้าที่เกิดขึ้นในกระบวนการทำงานจากผลกระทบดังกล่าว และได้นำมาปรับปรุงเป็นกระบวนการ FAST process เพื่อทำให้การทำงานของเรารวดเร็ว และถูกต้องมากยิ่งขึ้น
- กลยุทธ์ด้านต้นทุน เราเล็งเห็นถึงปัญหาต้นทุนที่จะปรับตัวสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญในปีนี้รวมถึงในอนาคต โดยเฉพาะต้นทุนค่าก่อสร้างที่เป็นหัวใจสำคัญของธุรกิจอสังหาฯ เราจึงเน้นในเรื่องของการควบคุมต้นทุนเชิงรุก ได้แก่การทำ VAVE การปรับปรุง Design เพื่อให้งานก่อสร้างรวดเร็วขึ้น และต้นทุนลดลง รวมถึงการพยายามใช้วัสดุร่วมกัน เพื่อให้เกิด Economy of scale ให้ได้มากที่สุด โดยยังรักษาคุณภาพของงานก่อสร้างที่มีมาตรฐานเป็นสำคัญ
- กลยุทธ์ด้านการตลาด ซึ่งในปัจจุบันผู้คนส่วนใหญ่ใช้โทรศัพท์มือถือในการค้นหาข้อมูลเป็นหลัก ดังนั้นในปีนี้ และในอนาคต เรามีการเพิ่มสัดส่วนการทำการตลาด Online มากขึ้น เพื่อให้สามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้มากขึ้น และตรงกลุ่มมากขึ้น
- กลยุทธ์ด้านธุรกิจใหม่ จากการที่เราเป็นผู้พัฒนาโครงการอสังหาฯ ที่อยู่ในวงการมากกว่า 40 ปี จึงทำให้เห็นถึงปัญหาของลูกค้าในมุมของความต้องการด้านงานบริการ จึงเป็นที่มาของการพัฒนาธุรกิจที่จะให้บริการด้านงานซ่อมแซม ตกแต่ง ต่อเติม ฯลฯ
สำหรับเป้าหมายทางธุรกิจในปี 2565 ซึ่งเป็นปีที่ท้าทายในส่วนของยอดขาย ซึ่งเราวางเป้าที่จะเติบโตขึ้นจากปีที่แล้วประมาณ 100% จากความพร้อมในภาพรวมที่มีมากขึ้นในหลายๆ ด้าน สำหรับโครงการใหม่ เรามีแผนจะนำที่ดินที่มีอยู่บางส่วนมาพัฒนาโครงการ ซึ่งกำลังอยู่ในขั้นตอนของการศึกษาความเป็นไปได้ของโครงการ รวมถึงการพัฒนาโครงการในรูปแบบใหม่ ๆ อีกด้วย
ทั้งนี้ KC Property สร้างบ้านมากว่า 40 ปี ทั้งกรุงเทพฯ ฝั่งตะวันออกและกรุงเทพฯ ฝั่งตะวันตก ปัจจุบันปลดหนี้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว และปัจจุบันมีเงินทุนหมุนเวียน ในการพัฒนาโครงการบนที่ดินที่มีอยู่ในมือ และตอนนี้ไม่มีการขาดทุนสะสมเหลืออยู่ โดยทำให้การบริหารหลังจากนี้ มีกำไรเข้ามา ปัจจุบัน มีสภาพคล่องพอสมควรไม่ได้ติดขัด และมีสถาบันการเงินยื่นมือเข้ามาเรียบร้อย
พร้อมทั้งยังมี แลนด์แบงก์ที่มีอยู่เดิม กำลังพัฒนาโครงการอยู่ จำนวน 4 โครงการ คาดว่าจะปิดการขายได้ภายใน 3 ปี ประกอบด้วย
- เค.ซี. เนเชอรัลวิลล์ บางนา-เทพารักษ์ ราคาเริ่ม 8 ล้านบาท
- เค.ซี. สุวินทวงศ์ 2 ราคาเริ่ม 2.59 ล้านบาท
- อาคารพาณิชย์ เค.ซี. สุวินทวงศ์ 2 ราคาเริ่ม 3.99 ล้านบาท
- แพลทฟอร์ท ออคิด พาร์ค ราคาเริ่ม 4.29 ล้านบาท
- ทางน์โฮม เค.ซี. คลัสเตอร์ นิมิตใหม่ ราคาเริ่ม 1.59 ล้านบาท
การลงทุนเพิ่ม เป็นการพัฒนา แบบ JV โดยการลงทุนการก่อสร้าง และบริหารงานขายให้กับเจ้าของที่ดิน แล้วแบ่งกำไร เพื่อไม่ต้องถือดอกเบี้ยในราคาที่ดิน รวม 3 โครงการ มูลค่ารวม 5,000 - 6,000 ล้านบาท โดยยังเป็นโครงการในกรุงเทพฯ และปริมณฑล พัฒนาเป็นโครงการแนวราบ 20 - 50 ล้านบาท บนพื้นที่โครงการ 15-20 ไร่ ต่อแปลง เป็นแปลงในพื้นที่ พระราม 2 และเสนานิคม เป็นต้น
โดยที่ ไตรมาส 1 ปี 2565 รายได้รวม 80 ล้านบาท คาดเป้ารายได้ ณ สิ้นปี 2565 อยู่ที่ 300 ล้านบาท
ในขณะที่ทาวน์โฮมซึ่งเป็น Product ขนาดเล็กที่สุดของเราก็มีพื้นที่ใช้สอยกว่า 90 ตร.ม.แล้ว ซึ่งทำให้กลุ่มลูกค้าของเราที่มองหาที่อยู่อาศัยที่ตอบโจทย์กลุ่มครอบครัวสามารถอยู่กันได้อย่างมีความสุข รวมถึงความใส่ใจในรายละเอียดของการอยู่อาศัย เช่น ขนาดของห้องนอนแต่ละห้องต้องมีขนาดใหญ่เพียงพอที่จะอยู่อาศัยได้จริง จุดวางปลั๊กไฟที่มีเพียงพออย่างน้อย 3 จุดในแต่ละห้อง เพื่อให้เพียงพอต่อการใช้งาน วัสดุที่ป้องกันการลื่นของผู้สูงอายุและเด็ก รวมถึงความปลอดภัยและใส่ใจในทุก ๆ รายละเอียด และตลาดอาคารพาณิชย์ โดยเอา solat loop เข้ามา ทำให้ประหยัดไฟ ในเวลากลางวัน จึงได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี โดยที่ลูกค้าในย่านนั้นของ KC Property เป็นแม่ค้าออนไลน์ จึงเปิดโครงการ อาคารพาณิชย์ เค.ซี. สุวินทวงศ์ 2 ในราคาเริ่มที่ 3.99 ล้านบาท ซึ่งอยู่ในพื้นที่ โครงการ เค.ซี. สุวินทวงศ์ 2
สิ่งเหล่านี้เองที่ทำให้เค.ซี.เป็นบ้านที่อยู่ในใจของลูกค้า และเมื่อลูกค้าหรือคนใกล้ตัวมีความต้องการจะซื้อที่อยู่อาศัยก็จะกลับมาซื้อกับเราเสมอ รวมถึงมีการแนะนำเพื่อนฝูง ญาติมิตร ให้มาซื้ออยู่ด้วยกัน จึงเป็นบรรยากาศทำให้โครงการของเราอบอุ่น และน่าอยู่เพราะลูกบ้านส่วนใหญ่รู้จัก และเป็นมิตรต่อกัน