คุณาลัย ชี้ ดีมานด์ที่อยู่อาศัย โซนบางบัวทองพุ่ง ส่ง“คุณาลัย เดซี่” เจาะตลาด ก่อนเปิด Grand Opening ก.ย.นี้
บมจ.วิลล่า คุณาลัย “KUN” ประกาศเดินเกมรุก ตอบโจทย์ดีมานด์ ผู้บริโภคโซนบางบัวทอง จ่อเตรียมเปิดโครงการใหม่ “คุณาลัย เดซี่” รูปแบบบ้านเดี่ยว-บ้านแฝด มูลค่า 830 ล้านบาท เดือนก.ย.นี้ ด้านCEO “ประวีรัตน์ เทวอักษร” ระบุ ความต้องการที่อยู่อาศัยบางบัวทองพุ่ง ส่งผล “คุณาลัย พรีม”ปิดการขายได้เร็วกว่ากำหนด ทำให้บริษัทฯต้องส่ง “คุณาลัย เดซี่” ลงตลาดช่วงมิ.ย.ก่อน Grand Opening อย่างเป็นทางการ ล่าสุด มียอดจองแล้วกว่า 15 ยูนิต ส่งผลครึ่งปีแรกยอดขายส่อแววทะลุเป้า ตอกย้ำทั้งปียอดขายแตะ 1,700 ล้านบาทตามแผนที่วางไว้
นางประวีรัตน์ เทวอักษร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วิลล่า คุณาลัย จำกัด (มหาชน) หรือ “KUN” ผู้พัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ประเภทแนวราบในเขตพื้นที่ชานเมือง เปิดเผยว่า จากภาพรวมของตลาดอสังหาริมทรัพย์ในช่วงที่ผ่านมา เริ่มมีการฟื้นตัวมากขึ้น หลังมีปัจจัยบวกต่างๆ เข้ามาหนุน ทั้งการเปิดเมือง เพื่อรับนักท่องเที่ยว ส่งผลให้ภาพรวมของเศรษฐกิจมีการฟื้นตัว ทำให้ดีมานด์และกำลังซื้อของผู้บริโภคจะเริ่มกลับมาในทิศทางที่ดีขึ้น ประกอบกับกลุ่มลูกค้าที่ยังคงต้องการที่อยู่อาศัย โดยเฉพาะบ้านที่ตอบโจทย์ทุกความต้องการ สะท้อนให้เห็นดีมานด์ที่มีเข้ามาในโครงการของคุณาลัย โดยล่าสุดโครงการ คุณาลัย พรีม ซึ่งเป็นโครงการบ้านเดี่ยว และบ้านแฝด รวมจำนวน 411 ยูนิต ในระดับราคาขายเริ่มต้นที่ 2.98 ล้านบาท สามารถ ปิดการขายได้เร็วกว่ากำหนด 1 ไตรมาส จนส่งผลให้บริษัทฯ ต้องเร่งพัฒนาโครงการ คุณาลัย เดซี่(Kunalai Daisy) โดยเปิดให้ลูกค้าเข้ามาชมบ้านตัวอย่าง และเปิดให้จองซื้อก่อนที่เปิด Grand Opening (เปิดตัวอย่างเป็นทางการ)ในช่วงเดือนกันยายน 2565 นี้ เพื่อทดแทนโครงการ คุณาลัย พรีม
สำหรับ โครงการ คุณาลัย เดซี่ (Kunalai Daisy) ตั้งอยู่โซนบางบัวทอง ถนนบ้านกล้วย - ไทรน้อย ซึ่งเป็นโครงการบ้านเดี่ยว และ บ้านแฝด จำนวนรวม 211 ยูนิต มูลค่าโครงการ 830 ล้านบาท โดยมีระดับราคาเริ่มต้นที่ 3.39-5.5 ล้านบาท ซึ่งโครงการดังกล่าว ถูกพัฒนาภายใต้แนวคิด “ตัดส่วนเกิน เพิ่มเติมส่วนขาด” ซึ่งปัจจุบันผู้บริโภคหันมาให้ความสำคัญกับพื้นที่ภายในบ้านเพิ่มขึ้น “โครงการ คุณาลัย เดซี่” เปิดให้ลูกค้าเข้ามาจองซื้อตั้งแต่ช่วงเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ซึ่งได้การตอบรับที่ดีจากกลุ่มลูกค้า โดยจะเห็นได้จากยอดจอง ล่าสุดอยู่ที่จำนวน 15 ยูนิต คิดเป็นมูลค่ารวมกว่า 55 ล้านบาท และจากแรงหนุนจากยอดขายโครงการ คุณาลัย เดซี่ ส่งผลให้ภาพรวมในช่วงครึ่งปีแรก คุณาลัยมีแนวโน้มยอดขายที่จะปรับตัวในทิศทางที่ดีขึ้นกว่าเป้าหมายที่บริษัทฯวางไว้ และจากปัจจัยดังกล่าว บริษัทฯมั่นใจว่า ในปี 2565 จะสามารถทำยอดขายทั้งปี ได้ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ 1,700 ล้านบาท
“โครงการ คุณาลัย เดซี่ อยู่ระหว่างการก่อสร้าง เพื่อจะเปิดขายอย่างเป็นทางการ (Grand Opening) ภายในเดือนกันยายนนี้ โดยบริษัทฯจะทยอยเปิดขาย 2 เฟส โดยเฟสแรก จะเดินหน้าก่อสร้างประมาณ 100 ยูนิต ซึ่งคาดว่าโครงการจะเสร็จก่อนขาย (กันยายน 2565) และจะทยอยก่อสร้างในเฟสต่อไป ทั้งนี้ความต้องการสินค้าประเภทบ้านแนวราบ โซนบางบัวทอง ยังคงมีดีมานด์ต่อเนื่อง เห็นได้จากยอดเข้าชมโครงการ (Walk in) ในโครงการของคุณาลัยทั้งหมด ในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา มีจำนวนผู้เข้าชมโครงการซึ่งเป็นกลุ่มลูกค้ารายใหม่กว่า 800 ราย ทั้งนี้ โซนบางบัวทองเป็นทำเลที่มีศักยภาพสูง มีการแข่งขันที่หลากหลายในทุกระดับสินค้า ผู้บริโภคจะมีโอกาสได้เลือกที่อยู่อาศัยตามสไตล์ชีวิตของตนเอง ทำเลนี้เป็นโซนที่มาความโดดเด่น ในแง่ของราคาที่ไม่แพงเกินไป และตอบโจทย์ไลฟ์ทุกสไตล์ ซึ่งทุกโครงการของคุณาลัย สามารถตอบทุกความต้องการของกลุ่มผู้บริโภคได้ครบทุกมิติอย่างลงตัว” นางประวีรัตน์ กล่าว
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า คุณาลัย ในฐานะผู้นำในการพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัย โซนบางบัวทอง เห็นถึงโอกาสต่อยอดการลงทุนโซนดังกล่าวอย่างต่อเนื่อง ภายใต้แนวทางการครองแชมป์ และการเป็นเจ้าตลาดของโซนดังกล่าว คือการชิงส่วนแบ่งตลาด (Market Penetration) ด้วยการพัฒนาสินค้าบ้านใหม่ๆ “คุ้มค่า น่าซื้อ” ให้ครบทุก Segment ทั้งทาวน์โฮม บ้านแฝด บ้านเดี่ยว บ้านเดี่ยวพรีเมี่ยม และอาคารพาณิชย์ เพื่อเป็นตัวเลือกให้กับลูกค้า ขณะเดียวกันก็พัฒนาสินค้าบ้านใหม่ๆ เพื่อทดแทนสินค้าที่กำลังจะหมดลง สำหรับรองรับความต้องการที่มีเข้ามาอย่างต่อเนื่อง
“ ปัจจุบัน คุณาลัย มีโครงการอยู่ในระหว่างการขายและพัฒนาโครงการทั้งหมด 5 โครงการ ได้แก่
1.โครงการคุณาลัย บีกินส์ 2
2.โครงการคุณาลัย จอย ออน 314
3.โครงการคุณาลัย พาร์โก้
4.โครงการคุณาลัย คอร์ทยาร์ด
5.โครงการ คุณาลัย เดซี่
ขณะเดียวกัน ปัจจุบัน บริษัทฯ มีพื้นที่อยู่ระหว่างรอการพัฒนา โซนบางบัวทอง 90 ไร่ ซึ่งสามารถพัฒนาได้นานถึง 3-5 ปี จึงทำให้บริษัทฯ ได้เปรียบรายอื่นๆในแง่ต้นทุนการพัฒนาในแต่ละโครงการ อีกทั้ง บริษัทฯยังมีแนวคิดพัฒนาโครงการภายใต้โมเดลธุรกิจ ตามแนวความคิดการสร้างเมือง ซึ่งจะทำให้เกิด Economy of Scale (ต้นทุนต่อหน่วยลดลง) ส่งผลดีต่อความสามารถในการทำกำไรของบริษัทฯ”