นางสาวสมสกุล หลิมศุทธพรรณ รองกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายพัฒนาธุรกิจและบริหารสินทรัพย์ บริษัท พลัส พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด เปิดเผยว่า “ในปี 2565 ทีมบริหารการขายโครงการของพลัสฯ ได้รับความไว้วางใจจากดีเวลลอปเปอร์ให้บริหารงานขายโครงการรวมมูลค่ากว่า 12,400 ล้านบาท รวม 13 โครงการ ทั้งในเขตกรุงเทพฯ และเมืองตากอากาศชั้นนำ อาทิ หัวหิน และภูเก็ต  โดยเป็นโครงการแนวสูง 70% แนวราบ 30%  ครอบคลุมทุกเซกเมนต์ตั้งแต่โครงการระดับ Affordable ไปจนถึงระดับ Luxury  ซึ่งตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา  มีโครงการที่พลัสฯ บริหารงานขายและการตลาด7 โครงการ  ได้แก่  ควินทารา ภูมิ (Quintara Phume) สุขุทวิท 39, ควินทารา ทรีฮาส์ (Quintara Treehaus) สุขุมวิท 42, ทวี (Thawee)  เพชรเกษม, Dusit D2 หัวหิน, คาล์ม เพนท์เฮาส์ อารีย์  (Kalm Penthouse Ari),  พาร์ค (Park)  รามอินทรา, เมฆา รามอินทรา (MEKA Ramintra) โดยคิดเป็นมูลค่าโครงการรวมกว่า 6,000 ล้านบาท  และสร้างยอดขายได้แล้ว 81% คิดเป็นมูลค่ากว่า 4,800  ล้านบาท 

สำหรับโครงการไฮไลท์ที่ประสบความสำเร็จ อย่างโครงการ คาล์ม เพนท์เฮาส์ อารีย์  ที่สร้างปรากฏการณ์ sold out ในระยะเวลาเพียง 11 เดือน มูลค่าโครงการ 440 ล้าน  โครงการ เมฆา  รามอินทรา  เป็นอีกโครงการที่น่าสนใจด้วย ด้วยตั้งอยู่บนทำเลศักยภาพใจกลางรามอินทรา ใกล้รถไฟฟ้าสายสีชมพูเพียง 1 กม.* ออกแบบภายใต้คอนเซ็ปต์ “The Pride For Endless Pleasureเป็นโครงการบ้านเดี่ยว สไตล์ Modern Luxury 3 ชั้น ที่เน้นความเป็นส่วนตัว มีเพียง 24 ยูนิตเท่านั้น”

 

สำหรับในไตรมาสสุดท้ายต่อเนื่องถึงต้นปีหน้า ทางพลัสฯ มีโครงการที่รับบริหารงานขายจ่อคิวเปิดตัวอีก 6 โครงการ  ได้แก่ ณ วรา (Navara) พหลโยธิน 8, ภูเก็ต 2 โครงการ,  ทาวน์โฮม ย่านราชพฤกษ์ และ โครงการ ควินทารา มาย'เจน (Quintara MHyGen) รัชดา-ห้วยขวาง ด้วยlocationใจกลางเมืองในย่านรัชดา สามารถเชื่อมต่อไปได้ทั่วกรุงเทพฯ ในราคาที่จับต้องได้เริ่มเพียง 1.99 ล้าน*เท่านั้น  นอกจากนี้ยังมีโครงการ ควินทารา มาย'เดน (Quintara MHyDen) โพธิ์นิมิตร - สาทร  ที่เป็นโครงการที่ 5  แล้วที่พลัสฯได้บริหารงานขายต่อเนื่องจากบริษัท อีสเทอร์น สตาร์  อีกด้วย

นอกจากบริหารรับงานขายในกรุงเทพฯแล้ว  พลัสฯยังขยายฐานลูกค้าออกไปรับบริหารงานขายในจังหวัดอื่น ๆ โดยเฉพาะเมืองท่องเที่ยว เช่น หัวหิน ภูเก็ต เป็นต้น  ซึ่งตอนนี้ตลาดต่างชาติกำลังกลับมาฟื้นตัว  เนื่องจากข้อมูลการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยคาดการณ์ว่าปีนี้จะมีต่างชาติเข้ามาท่องเที่ยว ประมาณ 7-10 ล้านคน ซึ่งจะสูงกว่าปีที่แล้ว และด้วยนโยบายการเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคมที่ผ่านมาเป็นอีกหนึ่งความหวังในการฟื้นฟูการเติบโตของเศรษฐกิจในประเทศ ซึ่งจะส่งผลดีต่อการฟื้นตัวของภาคธุรกิจต่าง ๆ ในประเทศ โดยเฉพาะภาคการท่องเที่ยว  ที่ส่งสัญญาณบวกไปถึงตลาดอสังหาฯในประเทศไทย

 

“พลัส พร็อพเพอร์ตี้” ให้ความสำคัญกับการ “เป็นพาร์ทเนอร์” พร้อมชูจุดแข็งการบริหารงานขาย คือการให้ความสนใจในรายละเอียดความต้องการของ  Developer  รวมถึงเข้าใจความต้องการของตลาด  โดยมี Key Success ที่ทำให้ลูกค้าไว้วางใจให้บริหารงานขายอย่างต่อเนื่อง เช่น บริษัท อีสเทอร์น สตาร์ เรียล เอสเตท จำกัด (มหาชน) ที่ทางพลัสบริหารงานขายเป็น โครงการที่ 5 รวมถึงกลุ่มบริษัท เอ็นริช (Enrich) รับบริหาร 2 โครงการ โดยทางพลัสฯ นั้นนำเสนอบริการแบบ Total Solution ทั้งธุรกิจบริหารงานขาย (Sole Agent) ดูแลให้คำปรึกษาในทุกขั้นตอนตั้งแต่เริ่มพัฒนาโครงการ การออกแบบ การตลาดและงานขายให้แก่ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ (Developer)    รวมไปถึงพัฒนาศักยภาพของพนักงานขายให้เป็นที่ปรึกษามืออาชีพ   มีความรู้ ความสามารถในการวิเคราะห์ตลาด  และกลุ่มเป้าหมายได้อย่างแม่นยำ สามารถเป็นที่ปรึกษาการลงทุนได้โดย มีทีมวิจัยในการวิเคราะห์ข้อมูล Data Analytics ในการพัฒนางานขาย รวมถึงการทำระบบ CRM ที่ช่วยให้เข้าถึงความต้องการที่แท้จริงของผู้บริโภคได้อย่างชัดเจนผ่าน Customer Journey ให้กับผู้พัฒนาอสังหาฯ อีกด้วย

พลัส พร็อพเพอร์ตี้ ผู้เชี่ยวชาญด้านบริการอสังหาริมทรัพย์แบบครบวงจร รับบริหารงานขายโครงการอยู่อาศัยทุกประเภท ด้วยทีมงานคุณภาพกับประสบการณ์ที่มากกว่า 25 ปี สนใจติดต่อเพื่อรับข้อมูลได้ที่ 02 688 7555  หรือ https://www.plus.co.th/service/sole-agent