SENA เปิดโมเดล ZEH พัฒนาบ้านพลังงานเป็นศูนย์ มุ่งผลิตไฟฟ้าใช้เอง ลดรายจ่ายรับเทรนด์รักษ์โลกสู่ Net Zero
SENA ผู้พัฒนาหมู่บ้านโซลาร์ฯ แบบครบวงจรรายแรกของไทย ยกดีกรีการพัฒนาที่อยู่อาศัย ดึงโมเดลญี่ปุ่นปรับใช้ ปักหมุดสู่บ้านพลังงานเป็นศูนย์หรือ Zero Energy Housing (ZEH) ทยอยลดการใช้พลังงาน 100% ให้กับที่อยู่อาศัยในระยะยาว ตอบโจทย์ลดรายจ่าย พึ่งพาตนเอง ปรับโหมดการพัฒนาสู่พลังงานสะอาดแบบยั่งยืน
ผศ.ดร.เกษรา ธัญลักษณ์ภาคย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เสนาดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า การดำเนินธุรกิจของกลุ่มเสนาในการติดตั้งการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์บนหลังคาที่อยู่อาศัย (โซลาร์รูฟท็อป) ให้กับลูกบ้านทุกหลัง ปัจจุบันได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากทุกกลุ่มผู้อยู่อาศัย และขยายไปยังกลุ่มผู้ประกอบการธุรกิจโรงงาน สถานประกอบการต่างๆ เนื่องจากช่วยประหยัดค่าไฟฟ้าแล้วยังเป็นพลังงานสะอาดที่กระแสทั่วโลกกำลังมาแรงสอดรับกับพฤติกรรมของผู้บริโภคที่ให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อมที่ช่วยลดภาวะโลกร้อนมากขึ้น เพื่อเป็นการยกระดับการพัฒนา ล่าสุดเสนาเตรียมนำโมเดล Zero Energy Housing (ZEH) หรือบ้านและคอนโดมิเนียมพลังงานเป็นศูนย์มาปรับใช้ในโครงการของเสนา
“ที่ผ่านมา เราติดโซลาร์รูฟบนหลังคาบ้านทุกหลังให้กับลูกค้าพร้อมบริการดูแลหลังการขาย โดยเริ่มมาตั้งแต่ 7-8 ปีที่แล้ว ทำให้เสนาเป็นผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่มีโครงการหมู่บ้านโซลาร์เซลล์ครบวงจรรายแรกของไทย และก้าวต่อไปของเราจะให้ความสำคัญกับการนำพลังงานสะอาดมาใช้ให้สอดรับกระแสโลกมากขึ้น ซึ่งได้รับความร่วมมือกับบริษัท ฮันคิว ฮันชิน พร็อพเพอร์ตี้ส์ คอร์ป พันธมิตรจากประเทศญี่ปุ่นในการพัฒนาโครงการบ้านและคอนโดมิเนียม โดยการนำโมเดล Zero Energy Housing (ZEH) หรือเรียกว่าทำบ้านและคอนโดมิเนียม เพื่อลดการใช้พลังงานให้เป็นศูนย์มาพัฒนาโครงการ” ดร.เกษรา กล่าว
ทั้งนี้ ได้มีการกำหนด 2 องค์ประกอบหลัก เพื่อวางเกณฑ์สำหรับบ้านประหยัดพลังงาน คือ
1. เพื่อลดการใช้พลังงานในที่อยู่อาศัย
2. ต้องมีการดำเนินการติดตั้งแหล่งผลิตพลังงานสะอาด
โดยเริ่มต้นของการประหยัดพลังงานให้ได้ตั้งแต่ 20% ขึ้นไป จนถึง 100% ซึ่งอาจต้องใช้ระยะเวลา ซึ่งในประเทศญี่ปุ่น สามารถทำได้ เนื่องจากทางรัฐบาลให้การสนับสนุน ด้วยวงเงินสูงสุด 1 ล้านเยนต่อหลัง (แต่ขึ้นอยู่กับราคาบ้าน) เพื่อสนับสนุนตามเป้าหมายของรัฐบาลให้ผู้ประกอบการพัฒนาที่อยู่อาศัยแบบ ZEH ให้ได้มากที่สุด
ขณะเดียวกัน ทางภาคเอกชนของไทยหลายแห่งเริ่มปรับตัวและต้องการให้ภาครัฐเข้ามาสนับสนุน เพื่อให้เกิดการกระตุ้น Eco System ให้สมบูรณ์เพื่อรองรับกับสังคมที่เปลี่ยนไป รัฐอาจจะต้องกำหนดนโยบายที่ชัดเจน ตามแนวทางนี้เหมือนรัฐบาลญี่ปุ่น ซึ่งจะทำให้สิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นง่ายกว่าปล่อยให้กลไกตลาดทำงานด้วยตัวเอง
สำหรับแนวทางการทำ Zero Energy Housing (ZEH) ระยะต่อไปนั้น ทางเสนามีการวางเป้าหมายพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัย เพื่อลดการใช้พลังงานภายในบ้านให้ได้มากที่สุด เราคิดละเอียดและใส่ใจทุกขั้นตอนตั้งแต่การออกแบบ การเลือกใช้วัสดุก่อสร้าง และสุขภัณฑ์ต่างๆ รวมถึงการติดตั้งโซลาร์รูฟสำหรับบ้านและคอนโด เพื่อผลิตพลังงานสะอาดใช้เอง มุ่งสู่เป้าหมาย Net Zero Carbon ซึ่งเป็นก้าวสำคัญของเสนา เพื่อให้เสนาอยู่ในวงจรของ Eco System ใหม่ มุ่งไปสู่ความยั่งยืนหรือ Sustainability อย่างแท้จริง ด้วยการพัฒนาที่อยู่อาศัยที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
อย่างไรก็ตาม ทาง เสนา กับ ฮันคิว ฮันชิน เป็นพันธมิตรธุรกิจมากว่า 7 ปี พัฒนาที่อยู่อาศัยร่วมกันทั้งโครงการแนวราบและแนวสูง รวม 35 โครงการ มูลค่า 59,000 ล้านบาท โดยครั้งนี้ได้นำระบบ ZEH มาปรับใช้พัฒนาบ้านและคอนโดด้วย ซึ่งเสนาเริ่มต้นทำแล้ว คือ มีการติดตั้งโซลาร์รูฟท็อปทุกโครงการ ซึ่งเมื่อคำนวณผลตอบแทนการลงทุนที่อยู่อาศัยที่มีการติดตั้งโซลาร์รูฟท็อป จะมีความคุ้มค่ากับการลงทุนมากขึ้น เนื่องจากปัจจุบันราคาค่าไฟฟ้าสูงกว่า 4.72 บาทต่อหน่วย ขณะที่ภาครัฐรับซื้อไฟฟ้าจากการผลิตโซลาร์อยู่ที่ 2.20 บาทต่อหน่วย ทำให้ที่อยู่อาศัยมีค่าพลังงานที่ลดลง ประกอบกับการลงทุนการติดตั้งแผงโซลาร์ มีแนวโน้มราคาที่ถูกลงด้วยเช่นกัน