บมจ.เอสซี แอสเสทฯ เผยผลประกอบการ 9 เดือนเติบโตทุกด้าน พร้อมทำนิวไฮทั้งยอดขายและรายได้แนวราบ ตอกย้ำผู้นำแบรนด์บ้านเดี่ยวคุณภาพสูง ส่วนไตรมาส 3/2565 โตสูงสุดในรอบ 3 ไตรมาส มีรายได้รวม 5,261 บาท เติบโต 11% (yoy) และกำไรสุทธิ 652 ล้านบาท เติบโต 20% (yoy)

นายอรรถพล สฤษฎิพันธาวาทย์ ประธานเจ้าหน้าที่ด้านสนับสนุนองค์กร บริษัท เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ SC ภายใต้การเป็นผู้นำ Living Solutions Provider ที่มุ่งสู่การเป็นแบรนด์บ้านเดี่ยวอันดับ 1 ในใจผู้บริโภค เปิดเผยถึงผลความสำเร็จของการดำเนินธุรกิจในรอบ 9 เดือนที่ผ่านมา ว่า

“บริษัทมีรายได้รวม 14,329 ล้านบาท เติบโต 6% (yoy) ซึ่งเป็นรายได้จากการดำเนินงาน 14,275 ล้านบาท แบ่งเป็น รายได้จากการขาย 95% และอีก 5% เป็นรายได้ค่าเช่าและบริการ โดยรายได้หลักจากการขาย 13,593 ล้านบาท มาจากรายได้นิวไฮของแนวราบ 12,202 ล้านบาท เติบโต 15% (yoy) และรายได้จากแนวสูง 1,391 ล้านบาท มีกำไรสุทธิ 1,621 ล้านบาท เติบโต 9% (yoy) โดยมียอดขายรวมทำนิวไฮ 17,182 ล้านบาท เติบโต 7% (yoy)”

โดยหลักมาจากผลประกอบการไตรมาส 3/2565 เติบโตสูงสุดในรอบ 3 ไตรมาส มีรายได้รวม 5,261 ล้านบาท เติบโต 11% (yoy) และกำไรสุทธิ 652 ล้านบาทเติบโต 20% (yoy)

ณ วันที่ 30 กันยายน 2565 บริษัทและบริษัทย่อยมีสินทรัพย์รวมและหนี้สินรวมเท่ากับ 53,504 ล้านบาท และ 32,825 ล้านบาทตามลำดับ

“สำหรับความคืบหน้าของการเปิด 10 โครงการแนวราบในไตรมาส 4/2565 มูลค่า 16,200 ล้านบาท ล่าสุดจากการเปิดจองครั้งแรกของบ้านซีรี่ส์ใหม่ของ 2 โครงการ มูลค่ารวม 3,700 ล้านบาท ในทำเลวิภาวดี-พหลโยธิน จากโครงการ บางกอก บูเลอวาร์ด และเวนิว ไอดี ต่างมีผลตอบรับที่ดีมาก และทำยอดพรีเซลส์รวมกัน 600 ล้านบาท

โดยตามแผนไตรมาส 4/2565 จะเปิดโครงการทั้งหมด 11 โครงการใหม่ มูลค่ารวม 20,000 ล้านบาท ทำให้บริษัทมีโครงการเพื่อขายทั้งสิ้น 54 โครงการ มูลค่า 56,500 ล้านบาท แบ่งเป็นโครงการแนวราบ 48 โครงการ และ โครงการแนวสูง 6 โครงการ และยังมียอดขายรอโอน หรือ Backlog รวม 11,957 ล้านบาท ซึ่งเป็นของโครงการแนวราบ และโครงการคอนโดมิเนียมในสัดส่วน 46% และ 54% ตามลำดับ โดยมี 3 โครงการคอนโดหลักที่จะสร้างเสร็จพร้อมเริ่มโอนตั้งแต่เดือน พ.ย. นี้เป็นต้นไป ได้แก่ โครงการ The Crest Park Residences รวมถึงโครงการ SCOPE Langsuan และ SCOPE Promsri  จึงมั่นใจว่า ด้วยสถานการณ์การขายที่ดีต่อเนื่อง บริษัทจะทำยอดขายและรายได้ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้” นายอรรถพล กล่าว

นอกจากการเติบโตของธุรกิจอสังหาฯ เพื่อขาย  บริษัทได้รุกขยายการลงทุนธุรกิจบนน่านน้ำใหม่  ทั้งธุรกิจ โลจิสติกส์  เพื่อตอบรับโอกาสการเติบโตของอีคอมเมิร์ซ โดยมีโรดแมปพัฒนาอาคารคลังสินค้าและศูนย์คัดแยกพัสดุ 1 ล้าน ตรม. ภายใน ปี 2030   ภายใต้บริษัทย่อย บจ. เอสซีเอ็กซ์ วัน (SCX ONE)  พร้อมนำร่องจับมือกับแฟลช กรุ๊ป ผู้นำด้านคอมเมิร์ซแบบครบวงจร  เพื่อพัฒนาอาคารคลังสินค้าและศูนย์กระจายพัสดุทั่วประเทศ 300,000 ตร.ม.  แห่งแรกที่ จ.นครสวรรค์ และมีเป้าหมายเปิดใช้ปลายปี 2023   ในส่วนธุรกิจโรงแรม ล่าสุดบจ. เอสซี เอ็กซ์เพดิชั่น (SCX) ได้เข้าซื้อหุ้น 100% จากบริษัท เอฟเจ บีเคเค จํากัด (FJBKK)   ของญี่ปุ่น เตรียมพัฒนาโรงแรมแห่งใหม่  บนซอยสุขุมวิท 29  จำนวน 300 ห้องพัก     

นายอรรถพล กล่าวเสริมว่า  “ อีกหนึ่งความสำเร็จของทีมทุกคน ล่าสุดบริษัทได้รับการคัดเลือกเป็นหุ้นยั่งยืนต่อเนื่อง 8 ปีซ้อน ซึ่งมีทั้งหมด 170 บริษัทที่ติดอันดับรายชื่อหุ้นยั่งยืน THSI (Thailand Sustainability Investment) จาก 221 บริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ประจำปี 2565 ตอกย้ำการขับเคลื่อนธุรกิจของบริษัทภายใต้ยุทธศาสาตร์เรื่อง Sustaining ‘ยั่งยืน สร้างคุณค่า สู่ผู้คนและสิ่งแวดล้อม’ ซึ่งเป็นไปตามหลักเกณฑ์ของการดำเนินธุรกิจตามแนวทางการพัฒนาอย่างยั่งยืนโดยคำนึงถึงประเด็นด้านสังคม สิ่งแวดล้อม และบรรษัทภิบาล (Environmental, Social, Governance หรือ ESG) ในกระบวนการทำงาน ตลอดจนให้ความสำคัญกับการมีส่วนร่วมของผู้มีส่วนได้เสีย ควบคู่ไปกับการสร้างผลประกอบการและเติบโตอย่างต่อเนื่องในระยะยาว”