‘บมจ.ผลิตภัณฑ์ตราเพชร หรือ DRT’ ประเมินยอดขายไตรมาส 1/66 เติบโตตามแผน ตอกย้ำความหลากหลายผลิตภัณฑ์ ช่องทางจำหน่ายและแบรนด์สินค้าที่แข็งแกร่ง หนุนศักยภาพการทำตลาดรับความต้องการสินค้าในช่วงฤดูการขายสินค้า พร้อมบริหาร Product Mix เต็มที่เพื่อลดแรงกดดันด้านต้นทุนการผลิตที่ปรับตัวขึ้น

            นายสาธิต สุดบรรทัด ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ผลิตภัณฑ์ตราเพชร จำกัด (มหาชน) หรือ DRT ผู้ผลิตและจำหน่ายระบบหลังคา ไม้สังเคราะห์และบอร์ดไฟเบอร์ซีเมนต์ บอร์ดตกแต่งผนัง อิฐมวลเบา ไม้บันได SPC-FC ร้านกาแฟสำเร็จรูป (DIAMOND Cafe) และบริการติดตั้งโครงหลังคาและกระเบื้องหลังคา ภายใต้เครื่องหมายการค้า
‘ตราเพชร’ เปิดเผยว่า แนวโน้มผลการดำเนินงานในไตรมาสแรกของปีนี้ คาดว่าจะสามารถรักษาอัตราการเติบโตของยอดขายได้ 5% ตามแผนที่วางไว้ เนื่องจากบริษัทฯ มีความแข็งแกร่งด้านความหลากหลายผลิตภัณฑ์ภายใต้แบรนด์ ตราเพชร ที่สามารถนำไปก่อสร้างบ้านได้ทั้งหลัง ตลอดจนช่องทางจำหน่ายที่ครอบคลุมกลุ่มเป้าหมาย ทั้งร้านค้าปลีกวัสดุก่อสร้างรายย่อย ห้างค้าปลีกวัสดุก่อสร้างสมัยใหม่ ลูกค้าโครงการอสังหาริมทรัพย์และตลาดส่งออก รวมถึงแบรนด์สินค้าที่ได้รับการยอมรับจากผู้บริโภคเป็นอย่างดี ช่วยส่งเสริมขีดความสามารถการแข่งขันการทำตลาดได้อย่างโดดเด่น

            นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังมุ่งบริหารด้าน Product Mix ให้มีประสิทธิภาพ พร้อมรักษาอัตราการเดินเครื่องจักรโดยเฉลี่ยให้อยู่ในเกณฑ์ที่ดีหรือประมาณ 80-90% ส่งผลให้ต้นทุนผลิตต่อหน่วยต่ำ (Economy of Scale) รวมถึงการลดต้นทุนการผลิตด้วยแนวทาง Circular Economy ด้วยหลักการ 3R (Reduce Reuse Recycle) เพื่อบริหารความเสี่ยงจากภาวะต้นทุนการผลิตทั้งด้านวัตถุดิบและพลังงานที่ยังคงอยู่ในระดับสูง เพื่อดูแลอัตราการทำกำไรขั้นต้นโดยเฉลี่ยให้ได้รับผลกระทบน้อยที่สุด

            “เรามีแพลตฟอร์มเครือข่ายช่องทางการจำหน่ายที่แข็งแกร่งและความหลากหลายของผลิตภัณฑ์ ‘ตราเพชร’ ทำให้เราสามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้เป็นอย่างดี ทำให้มั่นใจว่ายอดขายในไตรมาสแรกของปีนี้จะเติบโตได้ตามแผน” นายสาธิต กล่าว

            ส่วนแนวโน้มในไตรมาส 2 ของปีนี้ บริษัทฯ มองว่าปัจจัยด้านต้นทุนพลังงานจะคลี่คลายไปในทางที่ดีขึ้น ซึ่ง DRT พร้อมใช้ข้อได้เปรียบเชิงการแข่งขันในทุกด้านเพื่อขับเคลื่อนการเติบโตที่ดีจากการนำเสนอผลิตภัณฑ์ ‘ตราเพชร’ ภายใต้กลยุทธ์ ‘สวยครบเซต ตราเพชรทั้งหลัง’ เพื่อตอบสนองต่อความต้องการสินค้าวัสดุก่อสร้างที่เพิ่มขึ้น จึงมั่นใจว่า ภาพรวมทั้งปีนี้จะสามารถเติบโตได้ตามเป้าหมาย