ESTAR เปิดตัว “ไพโรจน์ วัฒนวโรดม” แม่ทัพใหม่เสริมแกร่งธุรกิจ เตรียมงบพันล้านซื้อที่ดินเพิ่มพอร์ตแนวราบ
บริษัท อีสเทอร์น สตาร์ เรียล เอสเตท จำกัด (มหาชน) หรือ ESTAR ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์โครงการที่อยู่อาศัยบนทำเลศักยภาพ เปิดตัวผู้บริหารใหม่ “พี่แจ้ - ไพโรจน์ วัฒนวโรดม” ข้งเบ้งอสังหาฯ ร่วมคุมบังเหียน ขับเคลื่อนธุรกิจ พร้อมพัฒนาโปรดักส์ใหม่ ถอด DNA แบรนด์ ESTAR ปั้นทุกโครงการบนคอนเซ็ปต์ “Creator of Life’s Pleasures” ตั้งเป้าปี 2566 บุกตลาดคอนโดฯ เปิดโฉม ควินทารา มาย’ ซีรีย์ จำนวน 3 โครงการ มูลค่ารวม 4,150 ล้านบาท พร้อมดันยอดขายรวมแตะ 3,100 ล้านบาทในสิ้นปีนี้
นายไพโรจน์ วัฒนวโรดม กรรมการผู้จัดการ บริษัท อีสเทอร์น สตาร์ เรียล เอสเตท จำกัด (มหาชน) หรือ ESTAR เปิดเผยว่า สำหรับแผนธุรกิจครึ่งหลังของปี 2566 อีสเทอร์น สตาร์ ยังคงไม่มีการเปิดตัวโครงการใหม่ แต่จะมีการเปิดโฉม ควินทารา มาย’ ซีรีย์ คอนโดใจกลางเมือง 3 โครงการ มูลค่ารวม 4,150 ล้านบาท โดยเริ่มดำเนินการก่อสร้างแล้วทั้ง 3 โครงการ และคาดว่าจะแล้วเสร็จประมาณช่วงไตรมาส 3 - ไตรมาส 4 ปี 2567 เป็นต้นไป ซึ่งเป็นซีรีย์แรกที่ใช้แนวคิด “Creator of Life’s Pleasures” มาเป็นแกนหลักในการพัฒนาสินค้าที่ตอบโจทย์ลูกค้า และจะนำไปใช้พัฒนาต่อในโปรดักส์ซีรีย์ปีหน้าด้วย
โครงการควินทารา มาย'เจน รัชดา - ห้วยขวาง (มูลค่าโครงการ 1,050 ล้านบาท) คอนโดมิเนียม 8 ชั้น 2 อาคาร จำนวน 383 ยูนิต ราคาเริ่มต้นที่ 2.19 ล้านบาท มีจุดเด่นทำเล ใจกลางห้วยขวาง โครงการห่างจาก MRT ห้วยขวาง 350 เมตร ดีไซน์แบบมินิมอล มีส่วนกลางขนาดใหญ่ 4 ชั้น ใกล้จุดเชื่อมต่อรถไฟฟ้า 4 สาย
โครงการควินทารา มาย'เซน พร้อมพงษ์ (มูลค่าโครงการ 1,000 ล้านบาท) คอนโดมิเนียม 8 ชั้น 2 อาคาร จำนวน 276 ยูนิต ราคาเริ่มต้นที่ 2.29 ล้านบาท มีจุดเด่น ดีไซน์สไตล์ญี่ปุ่น ทำเลใกล้ BTS สถานีพร้อมพงษ์ เชื่อมต่อถนนสุขุมวิท - เพชรบุรีตัดใหม่ เดินทาง 5 นาที จากเอ็มควอเทียร์
โครงการ ควินทารา มาย'เดน โพธิ์นิมิตร (มูลค่าโครงการ 2,100 ล้านบาท) คอนโดมิเนียม 40 ชั้น จำนวน 628 ยูนิต ราคาเริ่มที่ 2.89 ล้านบาท มีจุดเด่นดีไซน์ และทำเลติดรถไฟฟ้า 0 เมตร
ทั้งนี้ในปีนี้บริษัทฯ ได้เตรียมเพิ่มการลงทุนใหม่ในปี 2567 โดยเตรียมงบไว้ราว 1,000 ล้านบาท เพื่อซื้อที่ดินพัฒนาโครงการแนวราบประมาณ 3 แปลง เพิ่มสัดส่วนโครงการบ้านแนวราบมากขึ้น ทั้ง ทาวน์โฮม บ้านเดี่ยวในกรุงเทพฯ-ระยอง จากเดิมที่ส่วนใหญ่เน้นเป็นคอนโดฯ 80% แนวราบ 20% ให้เป็นคอนโดฯ 50% แนวราบ 50% ตั้งเป้าให้บริษัทสามารถทยอยรับรู้รายได้เร็วขึ้นหลังจากที่บริษัทชะลอการลงทุนในโครงการแนวราบมาระยะหนึ่งแล้ว
ล่าสุดได้ที่ดินมาแล้ว 1 แปลง มูลค่า 300 ล้านบาท อยู่ในโซนกรุงเทพฯฝั่งตะวันออก ปัจจุบันที่ดินดังกล่าวเตรียมพัฒนาเป็นโครงการ ทาวน์โฮม 2-3 ชั้น ภายใต้แบรนด์ ESTARA จำนวน 156 ยูนิต ราคา 3-5 ล้านบาท มูลค่าโครงการ 700 ล้านบาท คาดว่าจะเปิดตัวในช่วงไตรมาส 3 ของปี 2567 ขณะที่ปีนี้ก็ยังคงเตรียมซื้อที่ดินเพิ่มเติมอีก 1-2 แปลง เพื่อรอพัฒนาโครงการแนวราบใหม่ต่อเนื่องนอกจากนี้บริษัทฯยังอยู่ระหว่างการศึกษาเพื่อร่วมกับพาร์ทเนอร์ชั้นนำ พัฒนาโครงการบ้านหรู ราคา 40-80 ล้านบาท ในทำเลเย็นอากาศ ซึ่งปัจจุบันมีที่ดินพร้อมแล้ว 3.2 ไร่ เพื่อรองรับลูกค้ากลุ่มนักธุรกิจซึ่งมีความต้องการบ้านหรูในทำเลใจกลางเมือง ซึ่งคาดว่าโครงการนี้จะเริ่มได้ในช่วงปีหน้าเช่นกัน
สำหรับฝั่งระยอง ปัจจุบันมีอยู่ 6 โครงการพร้อมอยู่ มูลค่ารวม 2,850 ล้านบาท ที่ยังเปิดขายอย่างต่อเนื่อง ซึ่งคาดว่าโครงการเวลาน่า อะโมด้า อู่ตะเภา – บ้านฉาง จะปิดโครงการได้ช่วงต้นปี 67 และโครงการแกรนด์เวลาน่า อู่ตะเภา – บ้านฉาง จะปิดโครงการได้ภายในสิ้นปี 67 ซึ่งจากภาพรวมในตอนนี้ โครงการพร้อมอยู่มี Backlog ราว 560 ล้านบาท และคาดว่ายอดขายรวมภายในปีนี้จะยังเป็นไปตามเป้า โดยจะอยู่ที่ 3,100 ล้านบาท ทำให้ยอดรายได้คาดการณ์อยู่ที่ประมาณ 1,500 ล้านบาท
ทั้งนี้ในช่วงไตรมาส 2 ปี 2567 มีแผนเปิดตัวโครงการ เวลาน่า 3 บ้านเดี่ยวราคา 5-9 ล้านบาท ทำเลอยู่บนที่ดินรอบสนามกอล์ฟบ้านฉาง บนพื้นที่ 38 ไร่ มูลค่าโครงการ 700 ล้านบาท อย่างไรก็ดีบริษัทก็ยังมีที่ดินรอบสนามกอล์ฟที่สามารถพัฒนาโครงการใหม่ได้อีกราว 200 ไร่
สำหรับแผนธุรกิจในช่วง 3-5 ปีข้างหน้า บริษัทตั้งเป้ารายได้แตะ 3,000 – 5,000 ล้านบาท โดยมีการเปิดตัวโครงการใหม่ราว 3 โครงการต่อปี และมีการปรับแผนดำเนินธุรกิจใหม่ โดยเน้นพัฒนาดีไซน์และคุณภาพสินค้ามาเป็นจุดแข็งเพื่อสร้างความได้เปรียบด้านการแข่งขัน พร้อมมุ่งเจาะกลุ่มตลาดระดับกลาง Gen Y โดยพัฒนาที่อยู่อาศัยทุกโครงการภายใต้แนวคิด “Creator of Life’s Pleasures” รวมถึงใช้หลักบริหารจัดการความเสี่ยง ลดต้นทุนวัสดุผ่านการสั่งซื้อล่วงหน้า 2 ปี ซึ่งก็สามารถช่วยลดต้นทุนไปได้ราว 10-25% และการสร้างการเติบโตที่ยั่งยืนภายในองค์กร โดยสร้างทีมเวิร์คในการผลักดันงานให้เป็นไปตามเป้า ลดการทำงานที่ซ้ำซ้อน เหล่านี้ล้วนเป็นป้าหมายที่ “พี่แจ้ ไพโรจน์ วัฒนวโรดม แม่ทัพใหม่แห่ง ESTAR ได้กล่าวไว้”