มองแบบใหม่แบบสับ ที่ทำเล ‘รัชดา-พระราม 9’
เป็นช่วงระยะเวลาหนึ่งแล้วที่ TerraBKK ไม่ได้พูดถึงทำเลรัชดา-พระราม9 และตอนนี้ก็เป็นเวลาเหมาะสมที่จะพาผู้อ่านทุกท่านกลับไปมอง รัชดา-พระราม 9 อีกครั้งในแบบใหม่แบบสับ ทั้งเรื่องของการเปลี่ยนแปลงในทำเลที่นอกเหนือจาก storytelling ของการเป็น New CBD หรือเรื่องของราคาที่ดินและโครงการใหม่ ซึ่งมีความเคลื่อนไหวและมุมมองที่น่าสนใจหลายด้าน
NEW CBD, NEW COMMUNITY
ชื่อเรียกของ รัชดา-พระราม 9 ที่เรียกกันติดปากว่า New CBD ไม่ได้เป็นชื่อที่ตั้งมาเล่นๆ เท่านั้น แต่เพราะรัชดา-พระราม 9 เป็นย่านรวมอาคารออฟฟิศเกิดใหม่หลายแห่ง โดยเฉพาะช่วงหลังจากปี 2540-2550 หลังพ้นต้มยำกุ้งและเกิดรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน ทำเลรัชดา-พระราม 9 ก็มีออฟฟิศเกิดใหม่แซงหน้าทำเล CBD เดิม และยังเป็นอาคารออฟฟิศเกรด A-B ด้วยการเติบโตของแหล่งงานทำให้ปัจจุบันทำเลรัชดา-พระราม 9 มีพื้นที่ออฟฟิศให้เช่ารวมกว่า 830,000 ตร.ม. ราคาเช่าเฉลี่ย 600-1,000 บาทต่อตารางเมตรต่อเดือน
การเป็น New CBD ยังดึงดูดธุรกิจและคนรุ่นใหม่เข้ามาในทำเล กลุ่มธุรกิจในรัชดา-พระราม 9 มีความหลากหลาย ครอบคลุมทั้ง Food & Beverage, Financial, Insurance, Logistic, Consumer Goods, Creative & Agency หรือ Tech Company ซึ่งมีทั้งบริษัทไทยและบริษัทข้ามชาติชั้นนำ อาทิ Garena, Shopee หรือ Unilever เป็นต้น
ระยะทาง 3 กม. จากแยกเพชรบุรีตัดใหม่จนแยกเทียมร่วมมิตร มีศูนย์การค้าพื้นที่รวมกว่า 582,600 ตร.ม. ตัวเลขนี้สะท้อนไลฟ์สไตล์ที่คึกคักบนทำเลรัชดา-พระราม 9 ได้เป็นอย่างดี อีกทั้งยังเป็นศูนย์การค้าที่มีความครบครันและมีจุดเด่นอย่างชัดเจน อาทิ หากคิดถึงบริการด้าน IT ต้องคิดถึง Fortune Town, ศูนย์การค้าที่เปิด 24 ชั่วโมงต้องคิดถึง The Street หรืออยากทานข้าวช้อปปิ้งก็คิดถึง Esplanade หรือ Central Grand Rama9 เป็นต้น
HIGH TRAFFIC, HIGH DEMAND
ไม่เพียงแต่ตัวเลขพื้นที่ให้บริการด้านแหล่งงานและไลฟ์สไตล์ที่รวมกว่า 1.39 ล้านตารางเมตรเท่านั้น ที่ช่วยยืนยันความคึกคักบนทำเลรัชดา-พระราม 9 แต่ยังพิจารณาจากตัวเลขผู้โดยสาร MRT สายสีน้ำเงิน (ปี 2564) พบว่ามีจำนวนปริมาณผู้โดยสารสถานีพระราม 9 ถึง 6.85 ล้านคนต่อปี เฉลี่ย 18,782 คนต่อวัน มากเป็นอันดับสองรองจากสถานีสุขุมวิท และนอกจากผู้ที่เดินทางด้วยรถไฟฟ้าแล้ว ด้านปริมาณรถที่เข้าออกในทำเลเอง ก็พบว่ามีปริมาณรถถึงประมาณ 220,000 คันต่อวัน สะท้อน Daily Traffic บนทำเลรัชดา-พระราม 9 ได้ชัดเจน
สำหรับดีมานด์ด้านชาวต่างชาติ เป็นที่รู้กันแล้วว่าโซนรัชดา-พระราม 9 ได้กลายเป็น Little Chinatown หรือเยาวราชแห่งที่ 2 สำหรับคนเจเนอเรชันใหม่ ด้วยการเป็นที่ตั้งของ สถานเอกอัครราชทูตจีน และ สถานเอกอัครราชทูตเกาหลี รวมถึงมีบริษัทข้ามชาติหลายแห่ง ทำให้ดึงดูดดีมานด์จีนและเกาหลีเข้ามาในโซนนี้จำนวนมาก สะท้อนผ่านร้านค้า ร้านอาหาร และบริการที่กระจายอยู่ทั่วทำเล
THE NEXT BIG THING, THE NEW LIVING
รัชดา-พระราม 9 ไม่ได้หยุดเติบโตแต่เพียงเท่านี้ เพราะยังมีอีกหลายเมกะโปรเจ็กต์ที่จะเข้ามาเติมเต็ม นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไม รัชดา-พระราม 9 ถึงได้ขึ้นแท่นเป็นทำเลทองแห่งยุค ด้วยราคาที่ดินจากเดิมในปี 2564 ที่มีราคาประมาณ 1.1 ล้านบาทต่อตารางวา ขยับไปถึงเกือบ 2 ล้านบาทต่อตารางวาในปี 2566 เพราะในอนาคตทำเลแห่งนี้จะกลายเป็นศูนย์รวมมิกซ์ยูสที่หนาแน่นที่สุดอีกแห่งของกรุงเทพฯ โครงการในอนาคตเหล่านั้น ได้แก่
- AIA รัชดา 2 - อาคารมิกซ์ยูสความสูง 31 ชั้น พื้นที่รวม 110,000 ตร.ม. เป็นพื้นที่สำนักงาน 44,000 ตร.ม. และพื้นที่ค้าปลีก 5,000 ตร.ม. เพิ่มดีมานด์จากออฟฟิศได้ประมาณ 6,500-10,000 คน
- Property Perfect Mixed-use + JODD Fair - อาคารมิกซ์ยูสขนาด 93,000 ตร.ม. แบ่งออกเป็นพื้นที่ค้าปลีกในอาคาร 25,000 ตร.ม. พื้นที่อาคารสำนักงาน 20,000 ตร.ม. และพื้นจอดรถ 33,000 ตร.ม. และรองรับพื้นที่ค้าปลีกนอกอาคารได้อีก 798 ร้าน
- ศูนย์วัฒนธรรมโฉมใหม่ - ศูนย์กลางการแลกเปลี่ยนศิลปวัฒนธรรม พื้นที่รวม 35 ไร่ และให้เป็นพื้นที่แสดงศิลปวัฒนธรรมสู่ระดับโลก
- รถไฟฟ้าสายสีส้ม - ช่วงศูนย์วัฒนธรรม-มีนบุรี เฟสแรกของการเชื่อมระหว่างกรุงเทพตะวันตก-ตะวันออก คาดเปิดให้บริการปี 2568
- ที่ดิน MCOT - ที่ดินทำเลทองด้านหนึ่งติดถนนเทียมร่วมมิตร ด้านหนึ่งติดถนนวัฒนธรรม ขนาด 50 ไร่ ซึ่งอสมท. จะเปิดให้เอกชนประมูลเพื่อพัฒนา มูลค่าโครงการกว่า 10,000 ล้านบาท
- ที่ดินมักกะสัน - โครงการที่อยู่ระหว่างศึกษาการพัฒนาภายใต้กลุ่ม CP เนื้อรวมกว่า 140 ไร่ คาดพัฒนาเป็นโครงการมิกซ์ยูสที่ใหญ่ที่สุดในกรุงเทพ มูลค่ากว่า 1.4 แสนล้านบาท
ภาพรวมตลาดคอนโดทำเลรัชดา-พระราม 9
Terra Research ได้สำรวจภาพรวมตลาดคอนโดรัชดา-พระราม 9 ย้อนหลัง 10 ปี พบว่า มี Supply เข้ามาในทำเลอย่างต่อเนื่องทุกๆปี เปิดตัวเฉลี่ย 3-4 โครงการ ในปี 2561 มีเปิดตัวมากสุดถึง 10 โครงการ สอดคล้องกับข้อมูลจากการสำรวจของเว็บไซต์ Juwai ปี 2562 ที่ระบุว่า ไทยเป็นประเทศอันดับ 1 ที่คนจีนต้องการซื้ออสังหาฯ มากที่สุด นับเป็นช่วงที่กำลังซื้อต่างชาติส่งผลอย่างยิ่งต่อตลาดอสังหาฯ ในไทย และทำเลรัชดา-พระราม 9 เองก็เป็นทำเลที่โดดเด่นที่สุดจนกลายเป็น New Chinatown ในเวลาต่อมา
หากนับเฉพาะ 10 ปีมานี้มี Supply รวมกว่า 22,000 ยูนิต และเมื่อดูสัดส่วนของราคาจะเห็นได้ว่าคอนโดย่านนี้กว่า 55% อยู่ในกลุ่ม Upper Class ที่ระดับราคา 100,000 - 150,000 บาทต่อตารางเมตร รองลงมาคือกลุ่ม Main Class ที่ 28% ในระดับราคา 70,000 - 100,000 บาทต่อตารางเมตร
การเติบโตของราคาคอนโดมิเนียม
ปัจจุบันย่านรัชดา-พระราม 9 มีโครงการที่ยังเปิดขายอยู่ประมาณ 12 โครงการ จะมีที่เกาะกลุ่มอยู่ตรงแยกพระราม 9 ซึ่งมีราคาขายตั้งแต่ 120,000 - 230,000 บาทต่อตารางเมตร และกระจายอยู่ในโซนรัชดาทั้งที่ติดถนนและในซอย ราคาขายอยู่ที่ 75,000 - 142,500 บาทต่อตารางเมตร
และในปี 2566 มีโครงการเปิดตัวใหม่ประมาณ 2 โครงการ ราคาเปิดตัวเฉลี่ยประมาณ 115,000 บาทต่อตารางเมตร* หนึ่งในโครงการใหม่ก็คือ COBE รัชดา-พระราม 9 คอนโดไลฟ์สไตล์แบรนด์ใหม่จาก SC ASSET ในการพัฒนาแบรนด์ COBE ขึ้นมานี้ เพื่อให้เข้าถึงตลาด Mass มากขึ้น ต้องการขยายฐานลูกค้าไปยังกลุ่ม Young Generation หรือคนรุ่นใหม่มากขึ้น ด้วยราคาที่เข้าถึงได้ง่าย จับต้องได้มากขึ้น เริ่มต้นเพียง 2.49 ล้านบาท* ราคาเฉลี่ยต่อตารางเมตรเริ่มต้นที่ 100,000 - 150,000 บาท
รัชดา-พระราม 9 กับผลตอบแทนเฉลี่ย 4% - 5% ต่อปี
ด้านผลตอบแทนจากการปล่อยเช่าคอนโดรัชดา-พระราม 9 สร้าง Rental Yield ประมาณ 4.5% - 5.4 % ต่อปี ขึ้นอยู่กับที่ตั้งของโครงการ สภาพของโครงการ และขนาดห้อง สำหรับห้องแบบ Studio ขนาด 22 - 28 ตารางเมตร อัตราค่าเช่าอยู่ที่ 11,000 - 17,000 บาทต่อเดือน, 1 Bedroom ขนาด 30 - 40 ตารางเมตร ราคาค่าเช่าประมาณ 13,000 - 22,000 บาทต่อเดือน, 2 Bedroom ขนาด 40 - 80 ตารางเมตร ค่าเช่าต่อเดือนอยู่ที่ 22,000 - 40,000 บาท และ 3 Bedroom ขนาด 90 - 140 ค่าเช่าอยู่ที่ 45,000 - 80,000 บาทต่อเดือน คอนโดในโซนนี้มีการเพิ่มขึ้นของราคา Capital Gain ประมาณ 4% - 5% ต่อปี ราคาซื้อขายมือสองอยู่ที่ 70,000 - 225,000 บาทต่อตารางเมตร
COBE รัชดา-พระราม 9 แบรนด์ใหม่แบบสับ คอนโด Best Value for Money จาก SC ASSET
COBE รัชดา-พระราม 9 ไลฟ์สไตล์คอนโดในราคาที่จับต้องได้ แบรนด์ใหม่จาก SC ASSET ซึ่งคำว่า “COBE” ย่อมาจาก CO-BEING COMMUNITY เป็นคอนโดที่เข้าใจไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่ พื้นที่ที่ให้ทุกคนได้ใช้ชีวิตในแบบฉบับของตัวเอง มาพร้อมกับ Community ที่ดี ให้คนรุ่นใหม่ที่มีแนวคิดและมุมมองคล้ายๆ กัน ร่วมสร้างสรรค์ทำสิ่งดีๆ ไปด้วยกัน
“COBE” ถูกพัฒนาภายใต้ 3 แกนหลัก ที่สะท้อนการเป็นสังคมใหม่แห่งการอยู่อาศัยที่ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ เลือกที่จะเป็นตัวเองได้ในแบบที่ใจต้องการ
- Design for Living การออกแบบโครงการที่เริ่มต้นจากความต้องการในการอยู่อาศัยของคนรุ่นใหม่ ให้ความสำคัญกับการออกแบบพื้นที่ที่ตอบโจทย์การอยู่อาศัยทั้งเรื่องฟังก์ชันการใช้งานที่ครบครันและดีไซน์ที่เป็นเอกลักษณ์โดดเด่น มีรูปแบบห้องที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ที่หลากหลาย ตั้งแต่ Studio 23-28 ตร.ม. / 1 Bedroom 30-34 ตร.ม. / 1 Bedroom Plus 35-40 ตร.ม. / 2 Bedroom 50-72 ตร.ม และ 3 Bedroom 106 ตร.ม. โดยทุกยูนิตจะเป็นห้องแบบ Fully Furnished มาพร้อมเฟอร์นิเจอร์ที่ปรับเปลี่ยนได้ตามการใช้งานที่หลากหลาย เป็นการประหยัดพื้นที่ สามารถใช้พื้นที่ได้อย่างเต็มที่ คุ้มค่าทุกตารางเมตร
- Community for all ต้องการที่จะสร้างสังคมที่ดีเพื่อให้คนที่อยู่อาศัยได้มีปฏิสัมพันธ์กัน มีพื้นที่ส่วนกลางที่ให้คุณได้เป็นตัวเองและสามารถสร้างสรรค์สิ่งดีๆ ไปพร้อมกับผู้อื่นได้ และมีแอพพลิเคชัน Ruejai ที่สามารถใช้จองพื้นที่ส่วนกลาง จ่ายค่าน้ำ ค่าไฟ นอกจากนี้ยังมี Partnership ที่เข้ามาเติมเต็มความต้องการเพื่อเป็น Community ที่ตอบโจทย์ความต้องการของคนรุ่นใหม่มากที่สุด ไม่ว่าจะเป็นผู้ช่วยวางแผนทางการเงินโดย KBANK ที่จะเข้ามาช่วยวางแผนทางการเงิน แนะนำเรื่องการกู้สินเชื่อตั้งแต่วันจองและที่ปรึกษาสุขภาพใจโดย Relationflip
- Sustainability for future จากแนวคิดที่ว่าความยั่งยืนคือมาตรฐานใหม่ของที่อยู่อาศัย มีการเตรียมพื้นที่และสิ่งอำนวยความสะดวกที่จะเป็นส่วนหนึ่งในการเปลี่ยนแปลงโลกให้ดีขึ้น อาทิ Recycle Station พื้นที่แยกขยะ, โปรแกรม Zero Waste, การติดตั้ง solar cell ไว้บนอาคาร เพื่อลดการใช้พลังงานสำหรับพื้นที่ส่วนกลาง และ บริการ EV Shuttle Service จาก Muvmi
COBE รัชดา-พระราม 9 ถูกออกแบบจากคาแรคเตอร์ของทำเลรัชดา-พระราม9 ที่มีความหลายหลายของวัฒนธรรม การออกแบบโครงการได้รับแรงบันดาลใจมาจากปรัชญาการใช้ชีวิตจากสองซีกโลกทั้งฝั่งตะวันตกและฝั่งตะวันออก นำเสนอผ่านคอนเซปต์การออกแบบชื่อว่า “Valleys & Hills” ที่ผสมผสานความโดดเด่นของสองปรัชญา ได้แก่
“Valleys” ที่สะท้อนปรัชญาการใช้ชีวิตของโลกฝั่งตะวันตกอย่าง Hygge (ฮุกกะ) แนวคิดวิถีการใช้ชีวิตจากเดนมาร์ก ซึ่งเป็นประเทศที่มีความสุขติดอันดับต้นๆ ของโลก โดย Hygge (ฮุกกะ) คือความสุขสบายที่เกิดจากความสงบผ่อนคลาย สามารถเกิดขึ้นจากสิ่งแวดล้อมรอบตัวที่ดี
และแนวคิดจากฝั่งตะวันออกอย่าง “Hills” ด้วยปรัชญาการใช้ชีวิตของชาวญี่ปุ่น หรือ Wabi-Sabi (วะบิ-ซะบิ) ถ่ายทอดผ่านเส้นสายที่ให้คุณค่ากับความสวยงามตามธรรมชาติ เรียบง่าย ไม่ยึดติดในความสมบูรณ์แบบ
East meets West นี้ได้ถูกถ่ายทอดผ่านการออกแบบที่โดดเด่น ไม่ว่าจะเป็นการตกแต่งภายในและเฟอร์นิเจอร์ที่มีดีไซน์หลากหลายรูปทรงทั้งโค้งมน รวมถึงสไตล์การตกแต่งในสีโทนธรรมชาติเพื่อเพิ่มบรรยากาศแบบสไตล์ Cozy ให้ความรู้สึกอบอุ่น ผ่อนคลาย เรียบง่าย เหมาะกับการเป็นพื้นที่พักอาศัยได้อย่างลงตัว
COBE รัชดา-พระราม 9 คอนโด High Rise ทั้งหมด 9 อาคาร บนที่ดินขนาด 12-2-69 ไร่ จำนวนยูนิตทั้งหมด 1,612 ยูนิต + ร้านค้า 8 ยูนิต พื้นที่จอดรถ 45.9% พื้นที่ส่วนกลางและพื้นที่สีเขียวรวมกว่า 4 ไร่ มีหลากหลายฟังก์ชันที่เพียงพอต่อการใช้งาน อาทิ สระว่ายน้ำ, Fitness, Co-Working Space, Yoga Studio, Workshop space, Live Studio เป็นต้น
สัมผัสไลฟ์สไตล์คอนโดแนวคิดใหม่ CO-Being Community ในราคาที่จับต้องได้เริ่มต้น 2.49 ล้านบาท* กับประสบการณ์การอยู่อาศัยที่มั่นใจได้เรื่องคุณภาพและการบริการหลังการขายที่ดี ได้ที่ COBE รัชดา-พระราม 9 จาก SC ASSET
ลงทะเบียนขอข้อมูลเพิ่มเติมและรับสิทธิพิเศษ ได้ที่ https://bit.ly/43fq9yh