“คราฟเวิร์ค” ปักธงรุกตลาดที่อยู่อาศัยแนวราบทำเลฮอตโซนกรุงเทพฯ ตะวันออก ภายใต้แบรนด์ใหม่ “ละไม” ประเดิมเปิดตัวโครงการ “ละไม หทัยราษฎร์ 39” แนวคิด “ชีวิตที่ได้มากกว่า กับการอยู่อาศัยที่ออกแบบมาอย่างละเมียดละไม” ด้วยปรัชญาการออกแบบบ้านญี่ปุ่น (Modern Japanese Philosophy) มั่นใจ “ทำเล-ดีไซน์-ฟังก์ชัน” ตอบโจทย์กลุ่มผู้บริโภคที่กำลังมองหาบ้านเพื่อสร้างครอบครัวใหม่
พร้อมดึง “เวลา เรียลเอสเตท” เอเจ้นท์มืออาชีพช่วยบริหารงานขาย ราคาเริ่ม 5 ล้านบาท* วันที่ 26-27 สิงหาคม นี้    

บริษัท คราฟเวิร์ค จำกัด โดย นายเฉลิมพล โขนแจ่ม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และ นายภาค ธนาอัครชล  รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กล่าวว่า บริษัท คราฟเวิร์ค จำกัด เป็นผู้ประกอบธุรกิจลงทุนและพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ (Holding Real Estate Company) ที่มีประสบการณ์ในแวดวงธุรกิจอสังหาริมทรัพย์มากกว่า 30 ปี เพื่อประกอบธุรกิจลงทุนและพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยประเภททาวน์เฮ้าส์ บ้านแฝด บ้านเดี่ยว และอาคารชุด ทั้งในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล รวมถึงต่างจังหวัดที่มีศักยภาพและการเจริญเติบโตสูง

ทั้งนี้ในช่วงครึ่งหลังของปี 2566 บริษัทได้รุกลงทุนและพัฒนาโครงการอสังหาฯ ในกรุงเทพฯ ภายใต้แบรนด์ใหม่ “ละไม” โดยประเดิมโครงการแรกย่านถนนหทัยราษฎร์ ใช้ชื่อโครงการว่า ละไม หทัยราษฎร์ 39 (LAMAI  HATAIRAT 39)

พัฒนาเป็นบ้านแฝด 2 ชั้น ภายใต้แนวคิด “ชีวิตที่ได้มากกว่า กับการอยู่อาศัยที่ออกแบบมาอย่างละเมียดละไม” จับกลุ่มลูกค้าเป้าหมายคนรุ่นใหม่ 2 กลุ่ม คือ กลุ่มคนในพื้นที่ที่กำลังมองหาที่อยู่อาศัยเพื่อต้องการสร้างครอบครัวของตนเอง แต่ในขณะเดียวกันยังคงต้องการอยู่ใกล้ครอบครัวเดิม และเป็นกลุ่มลูกค้าทั่วไปที่ต้องการที่อยู่อาศัยใกล้ที่ทำงาน เป็นผู้อยู่อาศัยในพื้นที่หรือทำงานในพื้นที่ใกล้เคียง เช่น บางกะปิ มีนบุรี ลาดพร้าว และปทุมธานี เป็นต้น

โครงการละไม หทัยราษฎร์ 39 ตั้งอยู่บนเนื้อที่กว่า 35 ไร่ พัฒนาตามแนวคิดสไตล์ญี่ปุ่น (Modern Japanese Philosophy) ที่มีมีรายละเอียดการออกแบบในรูปแบบที่เรียกว่า Liveable Layout  จำนวน 144 ยูนิต รวมมูลค่ากว่า 1,000 ล้านบาท ราคาเริ่มต้น 5-9 ล้านบาท* มีแบบบ้านให้เลือก 3 แบบคือ

 • แบบ ARUN ขนาดพื้นที่ใช้สอย 153 ตารางเมตร เป็นบ้าน 2 ชั้นมี 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 1 ห้องนั่งเล่น 1 ห้องครัว
1 ห้องอเนกประสงค์ และจอดรถได้ 2 คัน

 • แบบ TIWA ขนาดพื้นที่ใช้สอย 160 ตารางเมตร ขนาด 2 ชั้น 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 1 ห้องนั่งเล่น 1 ห้องครัว 1 ห้องพระ   1 ห้องอเนกประสงค์ และจอดรถได้ 2 คัน

 • แบบ SURI ขนาดพื้นที่ใช้สอย 216 ตารางเมตร ขนาด 2 ชั้น มี 4 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ 1 ห้องนั่งเล่น 1 ครัวไทย
1 ห้องอเนกประสงค์ และจอดรถได้ 3 คัน

“ก่อนหน้านี้บริษัทฯ เน้นลงทุนและพัฒนาโครงการอสังหาฯ ในโซน EEC ผ่านบริษัทในเครือ หรือบริษัทย่อย ส่วนโครงการละไม หทัยราษฎร์ 39 เป็นโครงการแรกที่ลงทุนและพัฒนาภายใต้บริษัท คราฟเวิร์ค จำกัด รวมถึงการเปิดตัวโครงการใหม่ในอนาคตก็จะใช้บริษัท คราฟเวิร์ค จำกัด ในการลงทุนและพัฒนาโดยตรง” นายเฉลิมพลกล่าว

สำหรับจุดเด่นของโครงการ ละไม หทัยราษฎร์ 39 มีดังนี้

 • ฟังก์ชัน เป็นบ้านรุ่นใหม่ที่ออกแบบบ้านผ่านแนวคิด Life-Centric ที่เข้าใจสไตล์การอยู่อาศัยที่ละเมียดละไมในรายละเอียดและพร้อมจัดสรรพื้นที่บ้านในฝันได้ดั่งใจ ประกอบกับการออกแบบฟังก์ชัน Liveable Layout จะเห็นว่าบ้านในแต่ละแบบแต่ละหลังมีฟังก์ชันใช้สอยครบครัน รวมถึง EV Charger รองรับการชาร์จรถไฟฟ้า และ Application สำหรับสมาร์ทโฮมในอนาคต เพื่อให้ทุกคนในบ้านใช้ประโยชน์ได้อย่างเต็มที่ 

นอกจากนี้ยังเติมเต็มทุกความต้องการอย่างละเมียดละไมกับการออกแบบพื้นที่ส่วนกลางที่ใส่ใจกับการอยู่อาศัยทุกวัย ทั้งคลับเฮ้าส์ สนามเด็กเล่น และสระว่ายน้ำ ห้องเรียนรู้นอกห้องเรียนสําหรับเด็กๆ สวนขนาดใหญ่รองรับพื้นที่เล่นสนุก และสิ่งอํานวยความสะดวกสำหรับสัตว์เลี้ยง พร้อม Smart Village เข้าถึงจุดต่างๆ ของโครงการได้อย่างง่ายดาย ทั้งระบบประตูอัตโนมัติไปจนถึงระบบการจองพื้นที่ส่วนกลางออนไลน์ ประตูเข้า-ออก แบบ Double Gate พร้อม CCTV ระบบรักษาความปลอดภัยทั่วทั้งโครงการ

 • ดีไซน์ ที่ตอบโจทย์และการใช้ชีวิตยุค New Normal เพื่อให้ชีวิตที่ได้มากกว่ากับการอยู่อาศัย ด้วยปรัชญาการออกแบบบ้านสไตล์ MODERN JAPANESE มีความเรียบง่ายในสไตล์มินิมอล กลมกลืน ลงตัว พร้อมกับพื้นที่สีเขียวรอบบ้านและสวนส่วนกลางขนาดใหญ่

 • ทำเลเด่น ถนนหทัยราษฎร์เป็นทำเลที่มีศักยภาพและเป็นทำเลทองของฝั่งตะวันออกของกรุงเทพฯ เป็นโซนที่อยู่อาศัยที่มีสิ่งอำนวยความสะดวกต่อการดำเนินชีวิตครบครัน ทั้งห้างสรรพสินค้า สถานพยาบาล สถานศึกษา รวมทั้งมีการตัดถนนเส้นใหม่ๆ เส้นทางลัดให้เลือกเดินทางเพื่อเชื่อมต่อไปยังพื้นที่โซนอื่นๆ ได้หลากหลายเส้นทาง รวมถึงโครงการรถไฟฟ้าสาย
สีชมพู ทำให้การเดินทางเข้าสู่ใจกลางเมืองได้ง่ายและสะดวกสบายขึ้น

ด้วยจุดเด่นต่างๆ ดังกล่าว และความใส่ใจในรายละเอียดต่างๆ ประกอบกับได้ทีมงานจากบริษัทเวลาเรียลเอสเตท จำกัด ที่เข้ามาช่วยดูแลงานด้านการตลาดและการขาย ทำให้มั่นใจว่าโครงการละไม หทัยราษฎร์ 39 จะได้รับการตอบรับจากผู้บริโภคที่ต้องการซื้อบ้านเพื่ออยู่อาศัยและให้ความสะดวกสบายแบบทันยุคสมัยที่มี Facilities ครบครัน คุ้มค่า คุ้มราคา โดยในอนาคตมูลค่าทรัพย์สินยังเพิ่มมูลค่าจากราคาที่ดินที่ปรับขึ้นทุกปีเฉลี่ย 5-10%

ด้านนางสาวชลธิชา เสนารีย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เวลา เรียลเอสเตท จำกัด ซึ่งดำเนินธุรกิจเป็นที่ปรึกษาด้านการตลาดและการขายอสังหาริมทรัพย์ เปิดเผยว่า บริษัทรับบริหารงานด้านการตลาดและการขายครอบคลุมทั้งโครงการที่อยู่อาศัยแนวราบและแนวสูงประเภทคอนโดมิเนียมในพื้นที่ EEC เป็นหลัก และจากประสบการณ์ที่บริษัทเคยร่วมงานด้านการตลาดและการขายให้กับโครงการเดิม ซึ่งเป็นคอนโดมิเนียมระดับ Luxury และ Super Luxury ในพัทยา จังหวัดชลบุรี ซึ่งประสบความสำเร็จด้านการขายเป็นอย่างดี โดยปัจจุบันมีโครงการขายอยู่ในพอร์ต 3 โครงการ มูลค่าร่วม 8,000 ล้านบาท

สำหรับการขยายฐานลูกค้ามายังพื้นที่กรุงเทพฯ ด้วยการเปิดตัวโครงการ ละไม หทัยราษฎร์ 39 เป็นโครงการแรก จะเปิดขายเฟสแรก ในวันที่ 26-27 สิงหาคมนี้ พิเศษเฉพาะวันงาน รับประกันคุ้มครองบ้านทั้งภายในและภายนอกบ้านจาก MSIG ประกันภัย นาน 5 ปี มูลค่า 3 ล้านบาท  และฟรีค่าส่วนกลางนาน 5 ปี โดยคาดว่าจะได้รับการตอบรับและปิดการขายโครงการได้ในระยะเวลาอันสั้น แม้ตลาดบ้านในโซนหทัยราษฎร์ค่อนข้างมีการแข่งขันสูงก็ตาม แต่ก็มั่นใจในตัวโปรดักส์ และดีไซน์ที่เป็นบ้านสไตล์ MODERN JAPANESE ที่ฉีกตลาดไปจากคู่แข่งในพื้นที่ รวมถึงสิ่งอำนวยความสะดวกที่ครบครัน จะสามารถตอบโจทย์ความต้องการของกลุ่มลูกค้าผู้บริโภคเป้าหมายได้เป็นอย่างดี

นางสาวชลธิชา กล่าวถึงภาพรวมตลาดอสังหาริมทรัพย์ในทำเลหทัยราษฎร์ และพื้นที่ใกล้เคียงว่า การแข่งขันของตลาดค่อนข้างสูง มีคู่แข่งขันทั้งผู้ประกอบการในพื้นที่และจากนอกพื้นที่ อย่างไรก็ตาม ผู้บริโภคยังมีความต้องการซื้อบ้านในทำเลดังกล่าว เห็นได้จากอัตราการขายที่สูงกว่า 50-60% ขึ้นไปในสินค้าแต่ละประเภท ขณะที่บ้านแฝดมีจำนวนซัพพลายที่น้อยเมื่อเทียบกับบ้านเดี่ยวและทาวน์เฮาส์ ในขณะเดียวกันอัตราการขายบ้านแฝดทุกระดับราคามีอัตราที่สูงมากและสามารถแทรกตลาดทาวน์เฮ้าส์และบ้านเดี่ยวได้

ติดต่อสอบถามและเยี่ยมชมโครงการได้ที่เบอร์โทรศัพท์ 061-215-1000