3 สมาคมอสังหาฯ เตรียมจัดงาน “มหกรรมบ้านและคอนโด ครั้งที่ 44” อัดโปรโมชั่น พร้อมบ้าน-คอนโดกว่า 1,000 โครงการ ดึงกำลังซื้อโค้งสุดท้ายปลายปีนี้
สมาคมธุรกิจบ้านจัดสรร สมาคมอาคารชุดไทย และสมาคมอสังหาริมทรัพย์ไทย เตรียมจัดงาน มหกรรมบ้านและคอนโด ครั้งที่ 44 หวังกระตุ้นอสังหาฯ ไตรมาสสุดท้ายมั่นใจผู้บริโภคตอบรับงาน เป็นอย่างดี
ดร.ทัพพ์เทพ ภัคกระนก ประธานคณะกรรมการจัดงานมหกรรมบ้านและคอนโด ครั้งที่ 44 กล่าวว่า งานมหกรรมบ้านและคอนโด ครั้งที่ 44 จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 2 – 5 พฤศจิกายน 2566 เวลา 10.00 – 20.00 น. ณ ฮอลล์ 5 ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ โดยครั้งนี้จะชูคอนเซปต์ “Property Solutions” ครบจบทุกอย่างในงานเดียว เป็นการยกระดับการจัดงานเพื่อตอบโจทย์การใช้ชีวิต ทุกดีมานด์ และทุกช่วงวัยของผู้บริโภค ซึ่งในงานจะมีทั้งหมด 150 บริษัท นำสินค้ามานำเสนอรวมมากกว่า 1,000 โครงการจากทั่วประเทศ มีทั้งในกรุงเทพฯ ปริมณฑล และจากเชียงใหม่ ภูเก็ต ชลบุรี เป็นต้น โดยมีโครงการบ้านเดี่ยวมากที่สุด ประมาณ 30% ทาวน์เฮ้าส์ 25% คอนโดฯ 35% และอื่นๆ 10% เช่น ซัพพลายเออร์ต่างๆ วัสดุก่อสร้าง ธนาคาร และกลุ่ม NPA พร้อมโปรโมชั่นสำหรับผู้ที่จองซื้อบ้าน - คอนโดฯภายในงาน
ทั้งนี้เชื่อว่าจากกระแสตลาดอสังหาฯ ในไตรมาสสุดท้ายที่ยังอยู่ในช่วงขาขึ้น และเป็นช่วงไฮซีซั่น จะทำให้งานมหกรรมบ้านและคอนโด ครั้งที่ 44 ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี จากโปรโมชั่นที่ผู้ประกอบการพร้อมธนาคารที่จะเข้ามามีส่วนร่วมช่วยกระตุ้นตลาดอสังหาฯ ส่งท้ายปี ซึ่งเป็นงานที่ผู้บริโภคส่วนใหญ่รู้จักกันดี เป็นอีเวนท์ใหญ่ที่สุดของวงการอสังหาฯ มีทุกอย่างครบ มีแบรนด์ผู้ประกอบการชั้นนำให้เลือกมากมาย ที่พร้อมใจกันขนเอาโปรโมชั่นดีๆ มานำเสนอภายในงาน ทั้งยังมีโปรโมชั่นของงานมหกรรมฯ เอง
โดยคาดว่าตลอดทั้ง 4 วัน จะมีคนมาเดินงานอยู่ที่ 50,000 – 80,000 คน มีมูลค่าการซื้อขายในงานมากกว่า 3 พันล้านบาท โดยคณะกรรมการจัดงานได้ใช้งบประชาสัมพันธ์ประมาณ 20 ล้านบาท เผยแพร่ข่าวสารสร้างการรับรู้ในวงกว้างผ่านสื่อโทรทัศน์ วิทยุ สื่อออนไลน์ โซเชียลมีเดีย สื่อ Out of Home รวมไปถึงสื่อในสถานี MRT ทั้งบริเวณทางเชื่อมสถานีสีลมและสุขุมวิท สื่อ Digital Billboard ที่อโศก ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ และบ่อนไก่ พระราม 4
สำหรับภาพรวมธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในประเทศช่วงที่ผ่านมาของปีนี้ว่าเป็นช่วงขาขึ้น ถึงแม้สภาวะดอกเบี้ยจะอยู่ในช่วงขาขึ้น ซึ่งส่งผลให้ประชาชนมีความสามารถในการซื้อลดลง แต่ว่าโดยรวมแนวโน้มดีขึ้น เมื่อเทียบกับปี 2565 ที่หนี้ในภาคครัวเรือนเพิ่มสูงขึ้นราว 90% ของ GDP ราคาที่อยู่อาศัยปรับตัวสูงขึ้น ทำให้อุปสงค์อุปทานหดตัว การโอนกรรมสิทธิ์ลดลง แต่ว่าตอนนี้เมืองเปิดแล้ว ทุกอย่างกลับมาเป็นปกติแล้ว ได้รัฐบาลชุดใหม่แล้ว มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจจากภาครัฐก็มีและจะมีอย่างต่อเนื่อง กำลังซื้อเพิ่มมากขึ้น ทั้งบ้านเดี่ยว ทาวน์เฮ้าส์ บ้านแฝด คอนโดมิเนียม ส่วนที่ขายดีที่สุดในช่วงที่ผ่านมาของปีนี้ คือคอนโดมิเนียม รองลงมาคือบ้านเดี่ยว ทาวน์เฮาส์ และบ้านแฝด
“สำหรับเซ็กเมนต์ที่ขายดีที่สุดคือกลุ่มสินค้าระดับบนไปถึง Super Ultra Luxury ราคา 7.5 – 10 ล้าน และ 10 ล้านบาทขึ้นไป มีการโอนเพิ่มมากกว่าปีก่อน อยู่ประมาณ 18% ส่วนห้องชุดหรือคอนโดฯ ทุกระดับราคามีการโอนมาก ยกเว้นระดับราคาประมาณ 2 – 3 ล้านบาทที่มีการโอนลดลง เนื่องจากปัจจัยด้านการเงินของผู้บริโภค ซึ่งกู้ไม่ผ่าน หรือมาตรการ LTV ที่ธนาคารแห่งประเทศไทยออกมา ที่อาจมองได้ว่าเป็นกับดัก ถ้ามีการแก้ไขมาตรการนี้ได้ ก็คงดีขึ้น ขณะที่มาตรการกระตุ้นอสังหาฯ ในด้านการลดค่าจดจำนองและค่าธรรมเนียมการโอน เหลือ 0.01% ที่จะสิ้นสุดในวันที่ 31 ธันวาคมปีนี้ คาดว่ารัฐบาลชุดใหม่ก็คงจะต่ออายุมาตรการนี้ออกไป รวมถึงอาจจะมีการทบทวนหรือปรึกษากับทางธนาคารแห่งประเทศไทยว่ามาตรการ LTV จะปรับลดหรือจะยกเลิกหรือไม่ สำหรับคอนโดฯ ระดับ 10 ล้านบาทก็มีการโอนมากขึ้น ตั้งแต่ต้นปีจนถึงไตรมาส 3 นี้ เพิ่มขึ้น 49%”