จับสัญญาณตลาดคอนโดมิเนียม ไตรมาส 3 ปี 2566 โครงการเปิดตัวใหม่มาแรงสุดอยู่ในกลุ่ม เกรด B ราคาขาย 80,000-149,999 บาท/ตร.ม. รองลงมา กลุ่มเกรด C ราคาขาย 80,000 บาท/ตร.ม. ร้อยละ 47 ไนท์แฟรงค์ เผยกลุ่มระดับซุปเปอร์ไพร์มและไพร์ม ใกล้โรงเรียนชั้นนำกระแสดี แรงซื้อพุ่ง เหตุผลวิจัยชี้ “อยู่เอง-ปล่อยเช่า” ดันมูลค่าเพิ่มกว่า 100% ในช่วงเวลา 10 – 15 ปี โชว์ผลงานยอดขายคอนโดมิเนียมระดับลักซ์ชัวรี่ บนถนนพระราม 3 'KingsQuare Residence' (คิง สแควร์ เรสซิเดนซ์)  หลังเปิดตัวกวาดยอดขายทะลุ 1,000 ล้านบาท ใน 2 ชั่วโมง

บริษัท ไนท์แฟรงค์ ประเทศไทย จำกัด เผย ภาพรวมตลาดคอนโดมิเนียมในไตรมาส 3 ปี 2566 ฟื้นตัวเล็กน้อย หลังเผชิญกับความท้าทายที่สำคัญ ทั้งการกลับมาของกำลังซื้อที่ช้าแซงหน้าอุปสงค์ที่ฟื้นตัว แม้จะมีอุปทานใหม่เติมเข้าสู่ตลาดอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ยูนิตสะสมที่เหลือสำหรับขายในโครงการราคาต่ำก็เพิ่มขึ้นด้วย  นอกจากนี้ ยังมีปัจจัยลบจากอัตราเงินเฟ้อของธนาคารกลาง รวมไปถึงหนี้ครัวเรือนที่อยู่ในระดับสูง ส่งผลให้ตลาดคอนโดมิเนียมในบางกลุ่มยังอยู่ในสภาวะทรงตัวถึงถดถอย

กลุ่มคอนโดมิเนียมเปิดตัวใหม่มาแรงสุดอยู่ในกลุ่ม เกรด B ราคาขาย 80,000-149,999 บาท/ตร.. คิดเป็นร้อยละ 52 รองลงมาเป็นกลุ่มเกรด C ราคาขาย 80,000 บาท/ตร.. ร้อยละ 47 ในขณะที่เกรด A ราคาขาย 15,000 บาท/ตร.. ขึ้นไป  มีเพียงร้อยละ 1 เท่านั้น

โดยคอนโดมิเนียมเปิดตัวใหม่ ปักหมุดอยู่บริเวณชานเมืองของกรุงเทพฯ มากที่สุดร้อยละ 76  รองลงมา ทำเลบริเวณใจกลางเมือง ร้อยละ 16 ในขณะที่บริเวณรอบใจกลางเมือง ร้อยละ 8  

ด้านตลาดคอนโดมิเนียมระดับซุปเปอร์ไพร์มและไพร์มยังคงเติบโตต่อเนื่อง แม้ว่าที่ดินเปล่าเพื่อพัฒนาโครงการจะน้อยลง แต่ความต้องการในตลาดกลุ่มนี้ยังอยู่ในระดับสูง โดยเฉพาะกลุ่มผู้ซื้อชาวไทยและชาวต่างชาติ ซึ่งทำเลยังเป็นปัจจัยหลักที่จะทำให้กลุ่มผู้ซื้อตัดสินใจลงทุนเพื่อขายต่อในอนาคตเพราะเชื่อว่ายังสามารถทำราคาได้ดี อาทิ ทำเลใกล้โรงเรียนนานาชาติในย่าน CBD เริ่มมีบทบาทมากขึ้น โดยเฉพาะชาวต่างชาติ

อย่างไรก็ดี ท่ามกลางความท้าทายของตลาดเช่นนี้ บริษัท ไนท์แฟรงค์ ประเทศไทย จำกัด ที่ปรึกษาด้านอสังหาริมทรัพย์ระดับโลก ได้ประสบความสำเร็จอย่างน่าทึ่งด้วยการเปิดตัวโครงการคอนโดมิเนียมระดับลักซ์ชัวรี่ บนถนนพระราม 3 'KingsQuare Residence' (คิง สแควร์ เรสซิเดนซ์)  และใช้เวลาเพียง 2 ชั่วโมงหลังเปิดตัวกวาดยอดขายทะลุกว่า 1,000 ล้านบาท ซึ่งเกินเป้าที่ตั้งไว้

ในฐานะตัวแทนและที่ปรึกษาแต่เพียงผู้เดียวสำหรับ 'KingsQuare Residence' บริษัท ไนท์แฟรงค์ ประเทศไทย ได้วางแผนการตลาดที่เน้นเจาะกลุ่มลูกค้าหลัก ได้แก่ กลุ่มลูกค้าระดับไฮเอนด์และกลุ่มผู้ปกครอง เนื่องจาก KingsQuare Residenceมีทำเลที่ตั้งอยู่ติดกับโรงเรียนนานาชาติคิงส์คอลเลจกรุงเทพฯ

โดยผลจากการวิจัย ระบุว่า การตัดสินใจซื้อและลงทุนในโครงการคอนโดมิเนียมทำเลใกล้โรงเรียนที่ได้รับการยอมรับในชื่อเสียง เป็นปัจจัยที่ทำให้ยูนิตที่ซื้อนั้นมีมูลค่าเพิ่มขึ้นมากกว่า 100% ภายในช่วงเวลา 10 15 ปี ซึ่งเป็นผลตอบแทนจากการปล่อยเช่าหรือขายต่อในอนาคต จากจำนวนนักเรียนใหม่ที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องทุกปี ตัวอย่างเช่น King's College International School Bangkok ซึ่งมีนักเรียนกว่า 1,300 คนหลังจากเปิดมา 3 ปี และคาดว่าจะมีจำนวนนักเรียนเพิ่มขึ้นอีกในอนาคต

นอกจากนี้ ผลการศึกษากำลังซื้อในตลาดโซนนี้ยังพบว่า ลูกค้าซึ่งเป็นกลุ่มผู้ปกครองเป็นส่วนใหญ่ต้องการคอนโดมิเนียมที่ให้ความรู้สึกเสมือนบ้านหลังที่ 2 จึงได้นำเสนอห้องขนาดใหญ่ ประมาณ 100-170 ตารางเมตร 2-3 ห้องนอน และมีความสูงจากพื้นจรดเพดานไม่ต่ำกว่า 3 เมตร และต้องการความเป็นส่วนตัวสูง ด้วยจำนวนยูนิตที่ไม่ควรเกิน 250 ยูนิตต่อโครงการ

นายจักรกฤษณ์ สันติรัตนกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท คิง สแควร์ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด เปิดเผยว่า ด้วยความตั้งใจที่ต้องการสร้าง KingsQuare Residence” (คิง สแควร์ เรสซิเดนซ์) ให้เป็นมากกว่าที่อยู่อาศัย และเป็นจิ๊กซอว์ชิ้นสำคัญที่จะสร้างความสุขให้กับทุกครอบครัว ซึ่งเป็นหนึ่งในโครงการของเครือสหพัฒน์ จึงออกแบบให้ที่นี่เป็น ‘Curated Living Communityผสาน Well-being ที่ดีของการใช้ชีวิตด้วย Fitness & Wellness Club ระดับพรีเมียม ทำเลที่ตั้งอยู่ใกล้จุดตัดทางด่วนถึง 3 เส้นทาง พร้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวก เพื่อให้เติมเต็มชีวิตให้สมบูรณ์ และเป็นสังคมที่น่าอยู่

พร้อมกันนี้ ยังเสริมทัพด้วยพาร์ทเนอร์ทางธุรกิจที่เข้ามาสร้างสรรค์สังคมที่ดีให้กับผู้อยู่อาศัยในโครงการนี้  อาทิ Villa Supermarket, Tobys คาเฟ่ Brunch สไตล์ออสซี่ที่มาในคอนเซ็ปต์ใหม่ All Day Dining, Hong Bao ร้านอาหารจีนสไตล์กวางตุ้ง ที่เพิ่มพื้นที่ห้องรับรองสำหรับครอบครัวมากขึ้น, James boulangerie ตำนานครัวซองที่คิวยาวที่สุดในประเทศไทย และ Sousaku ร้านชาบูสุดพรีเมียมที่ถูกใจคนทุกวัย ซึ่งเป็นการยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้อยู่อาศัยในคอนโดฯ ผู้ปกครอง นักเรียน และผู้คนย่านพระราม 3 ให้มีพื้นที่ผ่อนคลายสำหรับครอบครัวเพิ่มขึ้น รวมถึงที่จอดรถ สะดวกสบายพร้อมสิทธิการจอดที่ให้สอดคล้องกับจำนวนห้องนอน ซึ่งสร้างความพึงพอใจให้กับผู้อยู่อาศัยเป็นอย่างมาก

“ผมเชื่อว่า คุณภาพชีวิตที่ดีต้องเริ่มจากการมี Quality Time ในครอบครัว เพราะการได้ใช้เวลาคุณภาพกับคนที่รักมันเป็นสิ่งที่มีค่า และเติมพลังชีวิตให้ทุกคน จึงเป็นแรงบันดาลใจในการออกแบบผลิตภัณฑ์ที่ตอบสนองความต้องการเฉพาะของลูกค้าในโครงการ KingsQuare Residence คอนโดมิเนียมลักซ์ชัวรี่ ติดกับโรงเรียนนานาชาติคิงส์คอลเลจกรุงเทพฯ เพราะต้องการให้ทุกครอบครัวได้มีช่วงเวลาที่มีคุณภาพ มีเวลาทานข้าวเช้าด้วยกัน พูดคุยกัน พ่อแม่สามารถไปส่งลูกที่โรงเรียนได้ก่อนจะแยกย้ายไปทำหน้าที่ของตัวเองโดยไม่ต้องกังวลเรื่องการเดินทาง” คุณจักรกฤษณ์ กล่าว 

ด้านนางสาวพจมาน วรกิจโภคาทร หัวหน้างานบริหารงานขายโครงการ ฝ่ายที่ปรึกษาด้านที่พักอาศัย บริษัท ไนท์แฟรงค์ ประเทศไทย จำกัด กล่าวว่า "เราเข้าใจลูกค้ากลุ่มเป้าหมายเป็นอย่างดี และเชื่อมั่นอย่างยิ่งว่าการวาง Positioning และราคาให้สอดคล้องกัน สามารถสร้างยอดขายที่โดดเด่นได้ แม้ในสภาวะตลาดคอนโดมิเนียมที่ท้าทายในช่วงไตรมาสที่ผ่านมา

โครงการ KingsQuare Residence เปิดให้ชมห้องตัวอย่าง ณ บริเวณใกล้ที่ตั้งของโครงการแล้วตั้งแต่วันนี้ สำหรับผู้ที่สนใจสามารถติดต่อนัดหมายเข้าชมโครงการล่วงหน้าได้ที่เบอร์ 061-413-6222 โดยมีทีมงาน Knight Frank เป็นผู้ดูแลด้านบริหารงานขายและการตลาด หรือรายละเอียดเพิ่มเติมคลิก knightfrankthailand.co/KingsQuare