เสนา ฮันคิว ฮันชิน ส่ง “โคซี่ เอ็มอาร์ที เพชรเกษม 48” คอนโด Low rise ใกล้รถไฟฟ้า เจาะลูกค้าวัยทำงานในราคาเริ่มล้านต้น*

Nov 24, 2023 | อ่าน 1039

เสนา ฮันคิว ฮันชิน เปิดตัว โคซี่ เอ็มอาร์ที เพชรเกษม 48 (COZI MRT Phetkasem 48) คอนโดฯโครงการใหม่ล่าสุดรุกตลาดคอนโดย่านเพชรเกษม 48 รับลูกค้ากลุ่มวัยทำงานที่มีความต้องการที่อยู่อาศัยใกล้รถไฟฟ้า ท่ามกลางธรรมชาติในราคาเริ่มต้นเพียง 1.19 ล้านบาท เตรียมเปิดขาย 25-26 พฤศจิกายนนี้

โครงการโคซี่ เอ็มอาร์ที เพชรเกษม 48 (COZI MRT Phetkasem 48) พัฒนาโดย เสนา ฮินคิว ฮันชิน ซึ่งเป็นบริษัทร่วมทุนระหว่างบริษัทเสนา ดีเวลลอปเม้นท์ กับบริษัทฮันคิว ฮันชิน พร็อพเพอร์ตี้ส์ คอร์ป กลุ่มบริษัทอสังหาฯยักษ์ใหญ่ของญี่ปุ่น โดยตั้งอยู่ในซอยเพชรเกษม 48 เป็นโซนที่โดดเด่นในเรื่องเส้นทางการเชื่อมต่อกับจุดขนส่งสาธารณะ มีถนนหลักเชื่อมต่อให้เลือกหลายสาย ทั้งถนนเพชรเกษม, ถนนพุทธมณฑลสาย 1, ถนนราชพฤกษ์ และถนนกาญจนาภิเษก อีกทั้งยังใกล้รถไฟฟ้า MRT สายสีน้ำเงิน สถานีเพชรเกษม 48 และบางหว้า อินเตอร์เชนจ์ ท่าเรือบางหว้า นอกจากนี้ยังแวดล้อมด้วยแหล่งช้อปปิ้งชั้นนำ สถานศึกษา และสถานพยาบาล อีกมากมาย ทั้ง Seacon บางแค, The Mall บางแค, The Mall ท่าพระ, เดอะเซอร์เคิล ราชพฤกษ์, โรงพยาบาล พญาไท 3, โรงพยาบาลศิริราช, โรงพยาบาลอินเตอร์เมดิคัล, โรงเรียน SISB Thonburi, โรงเรียนเซนต์ปีเตอร์ ธนบุรี และมหาวิทยาลัยสยาม ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากโครงการ

สำหรับโครงการโคซี่ เอ็มอาร์ที เพชรเกษม 48 เป็นคอนโดมิเนียม Low rise 8 ชั้น 2 อาคาร จำนวน 428 ยูนิต มีห้องพักตั้งแต่ 1 ห้องนอน ขนาด 22.50-26.00 ตร.ม. และ 2 ห้องนอน ขนาด 34.5 ตร.ม. พร้อมที่จอดรถกว่า 38.08% ของพื้นที่

มาพร้อมแนวคิดใหม่ใส่ใจสิ่งแวดล้อมที่ผสานกับธรรมชาติและวิถีชุมชนรอบข้างอย่างลงตัว ภายใต้แนวคิด “NATURE LIVING” ชีวิตท่ามกลางธรรมชาติ สะท้อนผ่านการออกแบบพื้นที่ส่วนกลางของโครงการ ที่ถูกออกแบบมาให้เป็น Nature Valley living พร้อมฟังก์ชันครบตอบรับทุกการอยู่อาศัย ท่ามกลางธรรมชาติในบรรยากาศส่วนตัว ไฮไลท์คือ การอยู่ใกล้ชิดกับธรรมชาติและชุมชน เข้าไว้ด้วยกันภายใต้แนวคิด “Condo Low Carbon” ให้ลูกบ้านได้ใช้ชีวิตแบบลดคาร์บอนได้ง่ายๆ อย่างลงตัวในทุกวัน

อย่างที่บอกว่าโครงการโคซี่ เอ็มอาร์ที เพชรเกษม 48 ชูจุดเด่นเป็นคอนโด “Condo Low Carbon” ทำให้ทุกพื้นที่ในโครงการ ตั้งแต่ส่วนกลางถูกออกแบบมาให้เป็น Nature Valley living โดยมีจุดพักผ่อนเช่น Pavilion ซึ่งรายล้อมด้วยพื้นที่สีเขียวขนาดใหญ่เกือบ 1 ไร่ ที่คอยดูดซัพคาร์บอน ทั้งยังมี Sky Garden ไว้สำหรับนั่งชมวิวในยามค่ำคืน

และยังมีเทคโนโลยีที่ตอบโจทย์เพื่อการอยู่อาศัย ประกอบด้วย Smart Living / Health, Smart Energy, Smart Mobility, Smart Environment เช่น ร้านค้าอัตโนมัติ, หลอดไฟ LED, Solar Rooftop การนำพลังงานสะอาดมาใช้ในพื้นที่ส่วนกลาง ซึ่งในโครงการนี้ติดตั้ง 10 กิโลวัตต์ ก็จะช่วยลดค่าใช้จ่ายส่วนกลางให้กับลูกบ้านได้ถึง 6 บาท/ตร.ม. (เมื่อคำนวนจากค่าส่วนกลางปกติที่ 45 บาท/ตร.ม. หลังจากติดตั้ง Solar Rooftop ค่าส่วนกลางเหลือ 39 บาท/ตร.ม.เท่านั้น)

รวมถึง Smart Mobility อย่าง V-Move เพื่อการเดินทางแบบไร้รอยต่อด้วย Shuttle service ไปส่งลูกบ้านที่จุดขนส่งสาธารณะ เป็น Application เพื่อวางแผนการเดินทาง ติดตามและนำทางขนส่งโดยสารเรียลไทม์ซึ่งถ้าลูกบ้านใช้รถ Shuttle service ของโครงการ 1 คน จะช่วยลดการใช้พลังงาน และเทียบเท่าการปลูกต้นไม้ ถึง 147 ต้นต่อคนต่อปี เลยทีเดียวและยังมีพื้นที่สำหรับ EV Charger Station จุดชาร์ตรถไฟฟ้าพลังงานสะอาดจากโซลาร์เซลล์ในพื้นที่จอดรถยนต์ ถึง 3 ช่องจอด และรถจักรยานยนต์ 1 ช่องจอด

นอกจากนี้ผู้อาศัยยังได้ดื่มด่ำกับธรรมชาติรอบๆโครงการ ตามวิถีชุมชนริมน้ำและธรรมชาติขนาดใหญ่ บนสวนลอยฟ้าทีเปรียบเสมือน โอเอซีสในย่านภาษีเจริญ พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกภายในโครงการ ทั้งฟิตเนส สระว่ายน้ำ และ พื้นที่ Co-Working Space จากไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตของคนเมืองในปัจจุบัน ที่เพิ่มความห่างเหินระหว่างตนเองกับธรรมชาติ ด้วยเงื่อนไขและข้อจำกัดในการดำเนินชีวิต หากในแต่ละวันได้มีช่วงเวลาของการพักผ่อนอยู่ในพื้นที่ที่เชื่อมโยงกับธรรมชาติ แหวกว่ายท่ามกลางสายน้ำเย็น ทอดสายตามองท้องฟ้าเพื่อชาร์จพลังให้กลับมาสดชื่นได้ทุกเวลาที่ต้องการ