ออริจิ้น จับมืออีกหนึ่งยักษ์ธุรกิจญี่ปุ่น โซเท็ตซึ กรุ๊ป เนรมิตคอนโดสำหรับ Pet Lover ดิ ออริจิ้น พหล 57 เจาะตลาดตอนเหนือกรุงเทพฯ
ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ เปิดตัวร่วมทุนอีกหนึ่งพันธมิตร “โซเท็ตซึ เรียล เอสเตท” ในเครือ “โซเท็ตซึ กรุ๊ป” ยักษ์ใหญ่ด้านรถไฟ-อสังหาฯ-ค้าปลีกสัญชาติญี่ปุ่น นำร่องโครงการแรกร่วมกัน “ดิ ออริจิ้น พหล 57” มูลค่าโครงการ 1,040 ล้าน ต่อยอดความสำเร็จการพัฒนาคอนโดสำหรับ Pet Lover ในฝั่งตอนเหนือกรุงเทพฯ ราคาเริ่มต้น 2.39 ล้าน ด้านโซเท็ตสึมั่นใจกำลังซื้อและตลาดคอนโดเลี้ยงสัตว์ได้ในไทยมาแรง มองโอกาสขยายความร่วมมือกับเครือออริจิ้นต่อเนื่อง
นายพีระพงศ์ จรูญเอก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ ORI ผู้พัฒนาธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ครบวงจร เปิดเผยว่า บริษัทได้ลงนามในสัญญาร่วมทุน (Joint Venture Agreement) ร่วมกับบริษัท โซเท็ตซึ เรียล เอสเตท (ไทยแลนด์) จำกัด บริษัทในเครือของ “โซเท็ตซึ กรุ๊ป” (Sotetsu Group) กลุ่มธุรกิจยักษ์ใหญ่ด้านคมนาคมขนส่ง (Transportation) อสังหาริมทรัพย์ (Real Estate) การขายสินค้า (Merchandising) จากประเทศญี่ปุ่น เพื่อร่วมกันพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียม ดิ ออริจิ้น พหล 57 (The Origin Phahol 57) โครงการคอนโดมิเนียมสำหรับ Pet Lover มูลค่าโครงการ 1,040 ล้านบาท เจาะตลาดฝั่งตอนเหนือของกรุงเทพฯ
“นับเป็นอีกครั้งหนึ่งที่เราได้รับความไว้วางใจจากพันธมิตรยักษ์ใหญ่ต่างประเทศที่มีวิสัยทัศน์สอดคล้องกัน มาร่วมทุนพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัย เราและโซเท็ตซึกรุ๊ป ต่างมีความมุ่งมั่นในการส่งมอบที่อยู่อาศัยที่ดี มีคุณภาพ มีฟังก์ชันตอบโจทย์การใช้ชีวิตยุคใหม่ ตลอดจนสร้างชุมชนเมืองให้เกิดขึ้นในจุดที่ใกล้เส้นทางขนส่งมวลชนที่สำคัญ เพื่อให้ผู้คนได้ใช้ชีวิตอย่างสะดวกสบายและมีความสุข เราเชื่อมั่นว่าความร่วมมือครั้งนี้ จะเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีของเราทั้ง 2 บริษัทที่มีธุรกิจหลากหลาย และเชื่อว่าโนว์ฮาวของเราทั้ง 2 บริษัทจะช่วยส่งมอบที่อยู่อาศัยที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภค” นายพีระพงศ์ กล่าว
นับตั้งแต่ปี 2564-2566 ออริจิ้น ได้ทยอยเปิดตัวโครงการคอนโดสำหรับ Pet Lover สะสมทั้งสิ้น 16 โครงการ มูลค่าโครงการรวมกว่า 26,000 ล้านบาท โดยดิ ออริจิ้น พหล 57 ถือเป็นโครงการล่าสุดภายใต้การเปิดตัวสะสมดังกล่าว และนับเป็นโครงการคอนโด Pet Lover โครงการที่ 3 ของเครือออริจิ้น ในฝั่งตอนเหนือของกรุงเทพฯ หลังจากที่ประสบความสำเร็จจากโครงการ Pet Lover ในย่านนี้ โดยเฉพาะออริจิ้น เพลส พหล 59 สเตชั่น (Origin Place Phahol 59 Station) ที่กวาดยอดขายสะสมแล้วถึง 80%
สำหรับโซเท็ตซึ กรุ๊ป เป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์โตเกียว มีประวัติความเป็นมายาวนานกว่า 100 ปี ปัจจุบันมีทุนจดทะเบียนกว่า 3.88 หมื่นล้านเยน (ประมาณ 9,417 ล้านบาท) เป็นเจ้าของและผู้ให้บริการรถไฟสายโซเท็ตซึ ในจังหวัดคานางาวะ ขณะเดียวกัน ยังเป็นบริษัทสำคัญที่มีบทบาทในการพัฒนาจังหวัดคานางาวะทั้งด้านคมนาคม อสังหาริมทรัพย์ การขายสินค้า โดยธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ภายใต้โซเท็ตซึ กรุ๊ป ครอบคลุมทั้งการพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัย ห้างสรรพสินค้า อาคารสำนักงาน พัฒนาเมืองโดยรอบสถานีต่างๆ ในสายโซเท็ตซึ ให้แข็งแกร่งขึ้นอย่างต่อเนื่อง ปัจจุบันมีโครงการภายใต้บริษัท โซเท็ตซึ เรียล เอสเตท จำกัด (โซเท็ตซึ ฟุโดซัง) ซึ่งเป็นคอนโดมิเนียมภายใต้แบรนด์ เกรเชีย (Gracia) และบ้านภายใต้แบรนด์ เกรเชีย ไลฟ์ (Gracia Life) สะสมรวมกันมากกว่า 38,000 ยูนิต
ด้านนายมาซามุเนะ ซูสุกิ ประธานบริษัท โซเท็ตซึ เรียล เอสเตท จำกัด ในประเทศญี่ปุ่น (โซเท็ตซึ ฟุโดซัง) กล่าวว่า ตลาดที่อยู่อาศัยในประเทศไทย ถือเป็นตลาดที่น่าสนใจ เนื่องจากยังคงมีความต้องการที่อยู่อาศัยเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะตามการขยายตัวของเส้นทางคมนาคมในพื้นที่กรุงเทพฯและปริมณฑล บริษัทในฐานะผู้ที่มีประสบการณ์การพัฒนาจังหวัดคานางาวะ ซึ่งเป็นจังหวัดสำคัญติดกับโตเกียว ให้กลายเป็นเมืองที่น่าอยู่ มีความมุ่งมั่นจะร่วมส่งมอบการพัฒนาที่อยู่อาศัยที่มีคุณภาพ และการพัฒนาเมืองในประเทศไทย เพื่อเมืองที่เจริญรุ่งเรืองและมีความสุข เราเชื่อว่าโครงการนี้จะสามารถแข่งขันกับโครงการอื่นได้โดยการใช้ประโยชน์จากทำเลที่ตั้งที่พหลโยธิน 57 ใกล้กับรถไฟฟ้าสายสีเขียวซึ่งเป็นเส้นทางหลักสู่ใจกลางกรุงเทพฯ นอกจากนี้เรายังมั่นใจว่าโครงการนี้จะได้รับการตอบรับอย่างดีจากผู้บริโภค เนื่องจากการวางแผนสินค้าของออริจิ้น กรุ๊ป ที่จะสามารถตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคที่ต้องการเลี้ยงสัตว์เลี้ยงได้
ทั้งนี้ บริษัทยังคงมีความยินดีที่จะพิจารณาโอกาสในการสร้างความร่วมมือกับเครือออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ ทั้งในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์และธุรกิจที่มีความเป็นไปได้ในประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง
สำหรับโครงการ “ดิ ออริจิ้น พหล 57” (The Origin Phahol 57) เป็นโครงการคอนโดมิเนียม Low-rise สูง 8 ชั้น จำนวน 2 อาคาร แบ่งเป็น อาคาร A สำหรับพักอาศัยทั่วไป และอาคาร B เป็นอาคาร "Pet-friendly" สามารถเลี้ยงสัตว์ได้ พัฒนาขึ้นภายใต้แนวคิด “Live your own wave” มีสวนบนดาดฟ้าให้เป็นพื้นที่สำหรับสัตว์เลี้ยงและเจ้าของได้พักผ่อนและตอบสนองความต้องการของผู้ที่ชอบสัตว์เลี้ยงในอาคาร โดยเฉพาะกลุ่มคนรุ่นใหม่ การออกแบบตัวโครงการเน้นโทนสีขาว สไตล์ Beach Minimal
รูปแบบห้องพักมี 2 แบบ ประกอบด้วย ห้อง 1 Bedroom ขนาดเริ่มต้น 28 ตร.ม. และห้อง 1 Bedroom Plus ขนาดเริ่มต้น 34.5 ตร.ม. พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกหลากหลาย อาทิ Lobby, Pet Lobby, Pet Club, Fitness, Yoga room, Co-working space และ Lab Pool ตั้งอยู่ทำเลใกล้สสถานีรถไฟฟ้า BTS พหลฯ 59 รายล้อมไปด้วย สถานศึกษา ห้างสรรพสินค้า โรงพยาบาล ราคาเริ่มต้น 2.39 ล้านบาท
ขณะที่บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ ORI มีโครงสร้างธุรกิจหลากหลาย ประกอบด้วย
1.ธุรกิจพัฒนาที่อยู่อาศัยเพื่อการขาย (Residential Development Business) พัฒนาคอนโดมิเนียมและบ้านจัดสรรมาแล้ว 147 โครงการ (ณ สิ้นไตรมาส 3/2566) เช่น แบรนด์ พาร์ค ออริจิ้น (Park Origin), โซ ออริจิ้น (So Origin), ออริจิ้น ปลั๊ก แอนด์ เพลย์ (Origin Plug & Play), ไนท์บริดจ์ (Knightsbridge), นอตติ้ง ฮิลล์ (Notting Hill), ออริจิ้น เพลส (Origin Place), ดิ ออริจิ้น (The Origin), เคนซิงตัน (Kensington), แฮมป์ตัน (Hampton),ออริจิ้น เพลย์ (Origin Play), บริกซ์ตัน (Brixton) และ บริทาเนีย (Britania) รวมมูลค่าโครงการกว่า 225,495 ล้านบาท
2.ธุรกิจที่สร้างรายได้ประจำ (Recurring Income Business) เช่น โรงแรม เซอร์วิส อพาร์ตเมนท์ ค้าปลีก
3.ธุรกิจบริการ (Service Business) เช่น ธุรกิจให้บริการลูกบ้าน ธุรกิจการจัดการอสังหาริมทรัพย์ ธุรกิจตัวแทนซื้อ ขาย เช่า อสังหาริมทรัพย์ ธุรกิจที่ปรึกษาด้านอสังหาริมทรัพย์
และ 4.ธุรกิจเมกะเทรนด์ระยะยาว (Mega Trends) กลุ่มธุรกิจใหม่ที่มีแนวโน้มเติบโตในระยะยาว เช่น ธุรกิจโลจิสติกส์ ธุรกิจเฮลท์แคร์ ธุรกิจพลังงาน ธุรกิจด้านการเงิน ธุรกิจเอนเตอร์เทนเมนท์ ฯลฯ เพื่อยกระดับคุณภาพการใช้ชีวิตของผู้บริโภคแบบครบวงจร