AWC จับมือกลุ่ม ปตท. เปิดสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าแบรนด์ on-ion ในโครงการเครือ AWC ครอบคลุมเมืองท่องเที่ยวสำคัญทั่วไทย เชื่อมต่อประสบการณ์การเดินทางพลังงานสะอาดและการท่องเที่ยวรักษ์โลก
- AWC ลุยเปิดสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าในโรงแรม ศูนย์การค้า และคอมมูนิตี้มอลล์ในเครือ 17 แห่ง รวมกว่า 50 หัวชาร์จ รองรับไลฟ์สไตล์ยุคอีวี อำนวยความสะดวกด้านการเดินทางท่องเที่ยวทั่วไทยอย่างไร้กังวล
- AWC กลุ่มธุรกิจโรงแรมและการบริการรายใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ร่วมรองรับเทรนด์รถยนต์ไฟฟ้าเติบโต พร้อมสนับสนุนการใช้พลังงานสะอาด และสร้างสังคมคาร์บอนต่ำในประเทศไทยเพื่ออนาคตยั่งยืน
บริษัท แอสเสท เวิรด์ คอร์ป จำกัด (มหาชน) หรือ AWC ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ของไทยที่มุ่งเน้นตอบสนองไลฟ์สไตล์แบบครบวงจร ร่วมกับ บริษัท อรุณ พลัส จำกัด ในกลุ่ม ปตท. ลงนามความร่วมมือในการเปิดสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า (EV Charging Station) ภายใต้แบรนด์ on-ion (ออน-ไอออน) ในโครงการอสังหาริมทรัพย์เครือ AWC ทั้งหมด 17 โครงการ รวมกว่า 50 หัวชาร์จภายในปีนี้ ครอบคลุมหัวเมืองท่องเที่ยวใหญ่ ด้วยเครื่องอัดประจุไฟฟ้าชนิดกระแสสลับ (AC Charger) และเครื่องอัดประจุไฟฟ้าชนิดกระแสตรง (DC Charger) ขนาดกำลังไฟสูงสุด 100 กิโลวัตต์ ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์การเดินทางด้วยพลังงานสะอาด รองรับการเติบโตแบบก้าวกระโดดของอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทย พร้อมสนับสนุนการท่องเที่ยวยั่งยืน (Sustainable Tourism) ตลอดการเดินทางจนถึงจุดหมายปลายทาง
นางวัลลภา ไตรโสรัส ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท แอสเสท เวิรด์ คอร์ป จำกัด (มหาชน) หรือ AWC กล่าวว่า “AWC มุ่งมั่นในการสนับสนุนการท่องเที่ยวยั่งยืน ด้วยการผนึกกำลังกับกลุ่ม ปตท. ตอบโจทย์การดำเนินธุรกิจของทั้งสองฝ่ายที่มีวิสัยทัศน์ร่วมกันในการสนับสนุนการใช้พลังงานสะอาดเพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก และสร้างความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutrality) พร้อมส่งเสริมความยั่งยืนและสภาพแวดล้อมที่ดียิ่งขึ้นให้แก่โลกใบนี้ เนื่องจากตลาดยานยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทยมีการเติบโตอย่างรวดเร็ว ในฐานะองค์กรที่มีความมุ่งมั่นในการพัฒนาธุรกิจเพื่อตอบสนองไลฟ์สไตล์ของลูกค้าไปพร้อมกับการสร้างความยั่งยืนอย่างต่อเนื่อง AWC มีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้ร่วมมือกับพันธมิตรผู้นำทางด้านพลังงานสะอาดและธุรกิจด้านยานยนต์ไฟฟ้าแบบครบวงจร (EV Value Chain) ในการเปิดจุดชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าภายใต้แบรนด์ on-ion ภายในโครงการอสังหาริมทรัพย์เครือ AWC ครอบคลุมเมืองท่องเที่ยวสำคัญกว่า 17 โครงการ ไม่ว่าจะเป็นกรุงเทพมหานคร เชียงใหม่ และภูเก็ต โดยจะเริ่มทยอยเปิดจุดชาร์จแรกในไตรมาส 2 ซึ่งนับเป็นก้าวสำคัญในการดำเนินธุรกิจของ AWC ในการลงทุนด้านนวัตกรรมพลังงานสะอาดแห่งอนาคต และอำนวยความสะดวกด้านการเดินทางแก่ลูกค้าที่ใช้รถยนต์ไฟฟ้าให้เดินทางท่องเที่ยวอย่างไร้กังวลเรื่องที่ชาร์จ มอบประสบการณ์การท่องเที่ยวยั่งยืนครบทุกมิติ”
คุณเชิดชัย บุญชูช่วย รองกรรมการผู้จัดการใหญ่นวัตกรรมและธุรกิจใหม่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “กลุ่ม ปตท. มุ่งขยายเครือข่ายสถานีอัดประจุสำหรับยานยนต์ไฟฟ้า ภายใต้แบรนด์ ออน- ไอออน (on-ion EV Charging Station) บนทำเลศักยภาพให้ครอบคลุมทั่วทุกพื้นที่ในประเทศไทยในปี 2567 โดยความร่วมมือระหว่าง อรุณ พลัส ที่ดำเนินธุรกิจยานยนต์ไฟฟ้าครบวงจร กับ AWC ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำของไทยที่มีโครงการที่หลากหลายในเมืองท่องเที่ยวสำคัญทั่วประเทศในครั้งนี้ นับเป็นก้าวสำคัญในการขับเคลื่อนการลงทุนด้านนวัตกรรมพลังงานอนาคต เพื่อสร้างความแข็งแกร่งด้านระบบนิเวศยานยนต์ไฟฟ้าของประเทศไทยให้สมบูรณ์ยิ่งขึ้นในทุกมิติ ทั้งในด้านการผลิต จำหน่าย ระบบกักเก็บพลังงาน แพลตฟอร์มเช่ายานยนต์ไฟฟ้า รวมถึงพลังงานหมุนเวียนและการประหยัดพลังงาน ทั้งยังเป็นการสนับสนุนการใช้พลังงานสะอาด สอดรับกับนโยบายการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิให้เป็นศูนย์ (Net Zero Emissions) ของกลุ่ม ปตท. อีกด้วย”
สำหรับสถานีอัดประจุสำหรับยานยนต์ไฟฟ้า ภายใต้แบรนด์ ออน- ไอออน เป็นการชาร์จไฟในรูปแบบของ “Green Charging Network” โดยผู้ขับขี่รถยนต์ไฟฟ้าจะได้รับพลังงานไฟฟ้าที่เป็นพลังงานสะอาดมาจากแหล่งพลังงานหมุนเวียน 100% และเป็นพลังงานหมุนเวียนที่ผลิตขึ้นในประเทศไทยทั้งหมด นอกจากนี้ on-ion Mobile Application ยังอำนวยความสะดวกให้แก่ผู้ขับขี่ในการค้นหาสถานีชาร์จ และรับสิทธิพิเศษต่างๆ มากมาย และพบกับสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าในโครงการอสังหาริมทรัพย์เครือ AWC ทั่วไทย อำนวยความสะดวกสบายให้แก่ผู้ขับขี่รถยนต์ไฟฟ้าที่มาใช้บริการที่โครงการ สร้างความมั่นใจในการขับขี่ปลอดภัย และเดินทางได้อย่างไร้กังวล
ความร่วมมือระหว่าง AWC และบริษัท อรุณ พลัส จำกัด ในกลุ่ม ปตท. สอดคล้องกับความมุ่งมั่นในการดำเนินธุรกิจตามแผนกลยุทธ์การพัฒนาอย่างยั่งยืนของ AWC ในกรอบการดำเนินงาน BETTER PLANET เพื่อโลกที่มีสภาพแวดล้อมที่ดีขึ้น ด้วยการผลักดันประเทศไทยให้เกิดการเปลี่ยนผ่านสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutrality) ในปี 2573 และสนับสนุนการใช้พลังงานสะอาดประสิทธิภาพสูงที่เป็นหนึ่งใน เทรนด์ใหญ่ของโลกเพื่อการอนุรักษ์พลังงาน พร้อมรวมพลังในการ “สร้างสรรค์อนาคตที่ดีกว่า”