“โฮมโปร (HomePro)” ปรับตัวนำเทรนด์ ตอกย้ำความเป็นเบอร์หนึ่งผู้นำธุรกิจด้าน Home Solution and Living Experience ในประเทศไทย ด้วยการประกาศทิศทางและแผนยุทธศาสตร์ 5 ปี ขยายธุรกิจสู่แสนล้านบาท ตั้งเป้าส่วนแบ่งการตลาดเติบโตต่อเนื่อง พร้อมขับเคลื่อนธุรกิจด้วยแผน Sustainability เติบโตสมดุลอย่างยั่งยืน สู่เป้าหมายองค์กร Net Zero ระดับโลก ภายในปี ค.ศ.2050 พร้อมเปิดตัวครั้งแรก "First Closed Loop Circular Appliances" ในงาน HOMEPRO NEXT CHAPTER ก้าวไปสู่ความสำเร็จ ภายใต้แนวคิด "MAKE EVERY CHANGE A BETTER LIFE" สร้างความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ในทุกความเปลี่ยนแปลงของช่วงชีวิต

นายวีรพันธ์ อังสุมาลี กรรมการผู้จัดการ บริษัท โฮม โปรดักส์ เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ โฮมโปร (HomePro) กล่าวว่า ภาพรวมธุรกิจในปี 2566 ว่าบริษัทสามารถทำยอดขาย 68,000 ล้านบาท เติบโตขึ้นประมาณ 20% จากปีก่อนหน้า โดยในช่วงครึ่งปีแรก บริษัทได้รับอานิสงค์จากนโยบายช็อปดีมีคืน รวมทั้งสภาพอากาศที่ร้อน ทำให้เครื่องใช้ไฟฟ้า อาทิ เครื่องปรับอากาศและพัดลม ขายดี ขณะที่ในช่วงปลายปีปัจจัยเรื่องการจัดตั้งรัฐบาลที่ล่าช้า ส่งผลให้เศรษฐกิจชะลอตัว และส่งผลกระทบต่อยอดขายของโฮมโปรตามไปด้วย อย่างไรก็ตาม จากนโยบายของบริษัทที่มีการขยายสาขาเพิ่ม มีการปรับประสิทธิภาพการบริหารจัดการภายในองค์กร รวมทั้งบริษัทได้ออกแคมเปญ “แลกเก่าเพื่อโลกใหม่” เปลี่ยนของเก่ามาใช้ของใหม่ รับส่วนลดสูงสุด 5,000 บาท ซึ่งมีลูกค้านำสินค้าร่วมแคมเปญถึง 100,000 รายการ มูลค่ารวม 2,000-3,000 ล้านบาท ผลประกอบการของบริษัทจึงยังเติบโตขึ้นจากปีก่อนหน้า

สำหรับในปี 2567 มองว่าจากนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล อาทิ Digital wallet ซึ่งจะทำให้ประชาชนมีเงินในกระเป๋ามากขึ้น ธุรกิจค้าปลีกก็จะได้ประโยชน์รวมถึงโฮมโปรด้วย โดยในปี 2567 บริษัทเตรียมทุ่มงบ 8,000 ล้านบาท เพื่อขยายสาขาใหม่และปรับปรุงสาขาเดิม 6-8 สาขา พื้นที่ 6,000-8,000 ตร.ม. จากเดิมที่มีจำนวน 127 สาขาในประเทศไทย และ 7 สาขาในประเทศมาเลเซีย

ทั้งนี้เพื่อตอกย้ำความเป็นผู้นำธุรกิจด้าน Home Solution and Living Experience ในประเทศไทย โฮมโปรได้วางทิศทางและแผนยุทธศาสตร์ 5 ปี (2567-2571) ขยายธุรกิจสู่แสนล้านบาท โดยตั้งเป้าส่วนแบ่งการตลาดเติบโตต่อเนื่อง 

โดยภายใต้แผนยุทธศาสตร์ 5 ปี โฮมโปรมีแผนที่จะขยายสาขาให้ครอบคลุมทุกพื้นที่ทั่วประเทศ กว่า 170 สาขา เพิ่มช่องทางการขายออนไลน์ให้ครอบคลุมและเชื่อมถึงกันแบบไร้รอยต่อ รองรับลูกค้า B2C และขยายฐานลูกค้าไป B2B มากขึ้น พร้อมพัฒนา 3 แอปฯ ช้อปได้ไม่มีสะดุด (HomePro Online, Home Service, Home Card) พัฒนาด้านระบบขนส่งและโลจิสติกส์ ขยายพื้นที่เพิ่มกว่า 100,000 ตร.ม. รองรับทุกความต้องการทั่วประเทศ เพิ่มประสิทธิภาพศูนย์กระจายสินค้าที่ใหญ่ที่สุดในเอเชีย รับและส่งออกสินค้ามากกว่า 400,000 ชิ้นต่อวัน พร้อมระบบคลังสินค้าอัตโนมัติ-จัดการคลังได้มีประสิทธิภาพ แม่นยำ ลดความผิดพลาด มีบริการให้เช่าคลังสินค้า บริการขนส่งกลับ ด้วยต้นทุนต่ำ ตลอดจนส่งมอบสินค้าและบริการที่มีคุณภาพ รวดเร็ว พร้อมขับเคลื่อนธุรกิจด้วยแผน Sustainability สร้างองค์กรเติบโตสมดุลอย่างยั่งยืนในทุกๆ มิติ อาทิ มุ่งสู่เป้าหมายองค์กร Net Zero ระดับโลก ภายในปี ค.ศ.2050

นอกจากนี้ยังผนึกกำลังพันธมิตรทุกภาคส่วน รับเทรนด์โลกอนาคต มุ่งเน้นพลังงานสะอาดครบวงจร ผ่านด้านขนส่ง เปลี่ยนเป็นรถขนส่งพลังงานไฟฟ้า (EV Truck) ที่เร่งดำเนินการให้ได้ราว 50% ภายในปี ค.ศ.2030, ติดตั้งโซล่าเซลล์ ไปแล้วกว่า 80 สาขา คิดเป็นกำลังการผลิตไฟมากกว่า 60 MWh และมีแผนที่จะขยายเพิ่มเติมต่อเนื่อง และ EV Car สนับสนุนและส่งเสริมพนักงานใช้รถพลังงานสะอาด