ชลบุรี เป็นจังหวัดหนึ่งในภาคตะวันออกของประเทศไทย ที่มีสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงหลายแห่งตั้งอยู่ โดยมีเมืองท่องเที่ยวที่สำคัญ คือ เมืองพัทยา มีชายฝั่งทะเลและหาดสวยงามเหมาะแก่การท่องเที่ยวพักผ่อนหย่อนใจหลายแห่ง เช่น ชายหาดบางแสน พัทยา เป็นต้น และยังเป็นจังหวัดที่มีความสำคัญทางเศรษฐกิจสำคัญของภาคตะวันออกของไทยอย่างมาก ทั้งในด้านพาณิชยกรรมและอุตสาหกรรมต่าง ๆ โดยจังหวัดชลบุรีนั้นมีเขตติดต่อ กับจังหวัดฉะเชิงเทรา จังหวัดจันทบุรี จังหวัดระยอง และติดต่อกับอ่าวไทยทางทิศตะวันตก

นอกจากนี้ในจังหวัดชลบุรี ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจ ที่เหมาะกับนักท่องที่ยวที่ชื่นชอบการทำบุญ ขอพร และเข้าถึงวิถีชีวิตของคนในชลบุรีอีกหลายแห่ง อาทิ ตลาดน้ำสามวัง ใน อ.พนัสนิคม เป็นตลาดน้ำสไตล์บ้าน ๆ กลิ่นอายชนบท มีของกิน ของใช้ขายละลานตา ท่ามกลางบรรยากาศที่แสนร่มรื่น ใต้ร่มเงาของกอไผ่และคลองธรรมชาติตลาดน้ำ

 

หอพระพนัสบดี ใน อ.พนัสนิคม เป็นหอที่มีพระพนัสบดี เป็นพระพุทธรูปเก่าแก่ อายุประมาณ 1200 – 1300 ปี เป็นศิลปะที่มีลักษณะใกล้เคียงกับศิลปะมอญในภาคกลางระหว่าง พ.ศ. 1100 – 1150 พระพุทธรูปองค์นี้แกะสลักจากหินสีดำเนื้อละเอียดฝีมือปราณีต

ศาลเจ้าแม่เขาสามมุข อ่างศิลา ศาลเจ้าเก่าแก่ที่มีอายุกว่า 103 ปี ตั้งอยู่บนเขาสามมุข ที่ศาลเจ้าแห่งนี้เป็นที่เลื่องลือถึงความศักดิ์สิทธิ์มาช้านาน โดยเฉพาะกับความ เชื่อของแม่ค้าและชาวประมง ที่ก่อนจะออกทะเลชลบุรี มักไหว้ขอพรที่ศาลเจ้าแม่สามมุข โดยของไหว้ที่นิยม ก็คือ มะพร้าวอ่อน ขนมเปี๊ยะ และผลไม้ ผู้ที่ได้รับผลสำเร็จตามคำขอ จะแก้บนโดยการจุดประทัด และซื้อสร้อยมุขมาถวายแด่รูปปั้นเจ้าแม่

และ ศาลเจ้าหน่าจาซาไท้จื้อ หรือที่เราเรียกกันว่า ศาลเจ้านาจา อ่างศิลา ตั้งอยู่ที่ อ่างศิลา ริมเส้นถนนทางเลียบชายทะเลจากอ่างศิลาไปเขาสามมุข ที่นี่เป็นศาลเจ้าที่มีชื่อเสียงมากแห่งหนึ่งในไทย มีสถาปัตยกรรมแบบจีนที่งดงาม และสูงถึง 4 ชั้น ฟ้าดินที่มีเสามังกรสูงที่สุด และยังเป็นที่ประดิษฐาน องค์เทพเจ้าครบทุกพระองค์ ตามความเชื่อแบบจีนอีกด้วย 

ข้อมูลจากการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย เผยว่า ในปี 2566 จ.ชลบุรี มีนักท่องเที่ยวเข้ามากว่า 23 ล้านคน เพิ่มขึ้นกว่า 58% โดยเป็นชาวต่างชาติถึง 9.54 ล้านคน เพิ่มขึ้น 414% และมีรายได้จากการท่องเที่ยวรวมทั้งสิ้น 233,681 ล้านบาท เป็นรายได้จากนักท่องเที่ยวต่างชาติ 148,115 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 486%

ในด้านอัตราการเข้าพักจ.ชลบุรีมีการเติบโตสูงที่สุดเมื่อเทียบกับจังหวัดใกล้เคียงอย่าง ระยอง และจันทบุรี โดยในปี 2566 ที่ผ่านมา มีการเข้าพักสูงถึง 78% เพิ่มขึ้นถึง 24%

ข้อมูลจาก ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ ของไทยเผยว่า ในปี 2566 (มกราคม – ธันวาคม) มีหน่วยโอนกรรมสิทธิ์ของคนต่างชาติจำนวน 14,449 หน่วย และมีมูลค่า 73,161 ล้านบาท โดยในชลบุรี มีหน่วยการโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุด 5,935 หน่วย เป็นอันดับ 1 คิดเป็นสัดส่วน 41.1%

โดยผู้ซื้อสัญชาติจีน เป็นกลุ่มที่มีการโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดมากที่สุดทั่วประเทศ โดยมีการโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดให้ผู้ซื้อสัญชาติจีนไปแล้วทั้งหมด 6,614 หน่วย คิดเป็น 45.8% ของหน่วยทั้งหมด

และอีก 4 สัญชาติที่มีการโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดในอันดับรองลงมา ได้แก่ รัสเซีย จำนวน 1,260 หน่วย คิดเป็น 8.7% ถัดมาคือ สหรัฐอเมริกา จำนวน 631 หน่วย 4.4% พม่า จำนวน 564 หน่วย คิดเป็น 3.9% อับดับ 5 คือ ไต้หวัน จำนวน 532 หน่วย คิดเป็น 3.7%

ส่วนขนาดและราคาห้องชุดเฉลี่ย ในปี 2566 (มกราคม – ธันวาคม) พบว่า ห้องชุดที่ชาวต่างชาติโอนกรรมสิทธิ์ มีขนาดเฉลี่ย 45.6 ตารางเมตร มูลค่าเฉลี่ย 5.1 ล้านบาท/หน่วย หรือประมาณตารางเมตรละ 110,981 บาท โดยพม่าเป็นสัญชาติที่มีมูลค่าการโอนต่อหน่วยสูงสุด เฉลี่ย 6.6 ล้านบาทต่อหน่วย และสหราชอาณาจักรเป็นสัญชาติที่โอนห้องชุดขนาดใหญ่ที่สุดเฉลี่ย 56.5 ตารางเมตร โดยชาวจีนซึ่งเป็นสัญชาติที่มีสัดส่วนการโอนห้องชุดมากที่สุด โดยมีมูลค่าการโอนเฉลี่ย 5.2 ล้านบาทต่อหน่วย และพื้นที่ห้องชุดเฉลี่ย 39.5 ตารางเมตร