นวัตกรรมกรีนจากเอสซีจี ในงาน SCG The Possibilities for Inclusive Green Growth
งาน SCG The Possibilities for Inclusive Green Growth จัดแสดงนวัตกรรมกรีนจากเอสซีจี และความร่วมมือทั้งในไทยและระดับโลก โดยมีนวัตกรรมกรีนจากทุกกลุ่มธุรกิจ อาทิ ‘Green Construction & Smart Living’ นวัตกรรมพลิกโฉมก่อสร้างให้กรีน อยู่อาศัยสมาร์ท ‘Green Logistics’ นวัตกรรมเพื่อโลจิสติกส์ที่ดีต่อโลก ‘Green Industry’ นวัตกรรมเพื่ออุตสาหกรรมสีเขียว ‘Green Circularity’ นวัตกรรมเพื่อหมุนเวียนทรัพยากรใช้ไม่รู้จบ ‘Green City’ นวัตกรรมเพื่อเมืองอากาศสดชื่น ล้อมรอบด้วยพื้นที่สีเขียว ไร้ขยะ ชวนทุกคนก้าวสู่สังคมคาร์บอนต่ำไปด้วยกัน
วิกฤตโลกเดือดที่ทั่วโลกกำลังเผชิญอยู่เป็นวาระเร่งด่วนที่ทุกภาคส่วนต้องรวมพลังกันแก้ไข สำหรับอุตสาหกรรมซีเมนต์ของประเทศไทยได้เร่งปรับกระบวนการผลิตและพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้ปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ให้น้อยที่สุด โดยสมาคมอุตสาหกรรมปูนซีเมนต์ไทย (Thai Cement Manufacturers Association – TCMA) ประสบความสำเร็จในการจัดทำแผนงานลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero Cement and Concrete Roadmap) เป็นประเทศแรกของโลก ที่ได้รับการรับรองจากสมาคมซีเมนต์และคอนกรีตโลก (Global Cement and Concrete Association - GCCA)
ในส่วนของเอสซีจี ซีเมนต์แอนด์กรีนโซลูชัน ตั้งเป้าลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ภายในปี 2593 พร้อมมุ่งสร้างสังคมคาร์บอนต่ำที่น่าอยู่สำหรับทุกคน ควบคู่การดำเนินธุรกิจเติบโตยั่งยืน ไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง ด้วยการก่อสร้างสีเขียวตลอดห่วงโซ่คุณค่า ตั้งแต่กระบวนการผลิตสีเขียว (Green Process) ผลิตภัณฑ์สีเขียว (Green Product) ไปจนถึงการก่อสร้างสีเขียว (Green Construction) ซึ่งจะช่วยยกระดับอุตสาหกรรมก่อสร้างไทยให้ยั่งยืน ขณะเดียวกันเจ้าของบ้าน-เจ้าของโครงการก็มีส่วนช่วยสร้างโลกให้น่าอยู่ขึ้นด้วย
- กระบวนการผลิตสีเขียว เร่งเพิ่มสัดส่วนการใช้พลังงานสะอาดในกระบวนการผลิต โดยล่าสุดโรงงานปูนซีเมนต์ในประเทศไทยเพิ่มสัดส่วนการใช้เชื้อเพลิงทดแทนได้ถึงร้อยละ 47 พร้อมทั้งต่อยอดเป็นธุรกิจใหม่ที่ให้บริการด้านเชื้อเพลิงสะอาดในกลุ่มอุตสาหกรรมอื่น อาทิ กลุ่มโรงไฟฟ้า และกลุ่มโรงงาน Boiler
- ผลิตภัณฑ์สีเขียว มุ่งพัฒนานวัตกรรมสินค้าและโซลูชันที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม อาทิ
- ปูนคาร์บอนต่ำ (เจเนอเรชัน 2) : ลดการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ได้ร้อยละ 15-20 เทียบเท่ามาตรฐานสากล และยังมีความแข็งแรงทนทาน ผิวเรียบเนียน รับกำลังอัดได้ดีกว่าหรือเทียบเท่าปูนซีเมนต์ปอร์ตแลนด์ทั่วไป โดยเอสซีจีเป็นผู้ผลิตปูนซีเมนต์รายแรกของประเทศที่ได้รับรองมาตรฐานปูนคาร์บอนต่ำ
- คอนกรีตคาร์บอนต่ำ ซีแพค : ลดการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ได้อย่างน้อย 25 กิโลกรัมต่อคอนกรีต 1 คิว เทียบเท่ากับการปลูกต้นไม้ 2.5 ต้น โดยคงคุณสมบัติเทียบเท่าหรือดีขึ้นกว่าเดิม และสามารถพัฒนาให้เหมาะกับสภาพพื้นที่ ตอบโจทย์การใช้งานแต่ละหน้างาน อาทิ “คอนกรีตชายเล ซีแพค” และ “คอนกรีตมารีน ซีแพค” สำหรับพื้นที่ภาคใต้ ภาคตะวันออก และภาคตะวันตก ป้องกันโครงสร้าง สิ่งปลูกสร้างใกล้ชายฝั่งทะเล “คอนกรีตซีแพค ซูเปอร์ ทนดินเค็ม” สำหรับภาคอีสาน ซึ่งเป็นพื้นที่ดินเค็ม ต้านทานการซึมผ่านของคลอไรด์และซัลเฟตที่สะสมใต้ดิน
- CPAC 3D Printing Solution : เทคโนโลยีการขึ้นรูปแบบ 3 มิติ ที่สร้างสรรค์การออกแบบได้หลากหลาย รวดเร็ว ประหยัดแรงงาน ลดเวลา ควบคุมต้นทุน และช่วยลดเศษวัสดุเหลือทิ้งในไซต์งานก่อสร้าง ตอบโจทย์การใช้งานได้หลากหลาย ได้แก่ กลุ่มงานตกแต่ง (Decoration) ด้วยดีไซน์ที่แตกต่างอย่างมีสไตล์ กลุ่มงานประติมากรรม (Landscape & Sculpture) ที่สามารถรังสรรค์พื้นที่ให้เป็น ICONIC แห่งอนาคต กลุ่มงานก่อสร้าง (Construction) กับการก่อสร้างอาคาร 2 ชั้นครั้งแรกของเมืองไทย และกลุ่มงานเพื่อฟื้นฟูแนวปะการังใต้ทะเล (Coral Reef) และเพื่อให้เป็นไปตามเป้าหมายด้านการดูแลสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน ล่าสุดจึงได้พัฒนาปูนซีเมนต์สูตรพิเศษที่ผลิตจากวัสดุธรรมชาติ ผ่านกระบวนการผลิตที่เน้นการใช้พลังงานทดแทน รวมทั้งเทคโนโลยีวัสดุศาสตร์ เพื่อให้ได้ปูนสูตรคาร์บอนต่ำสำหรับขึ้นรูปชิ้นงานด้วยนวัตกรรม CPAC 3D Printing Solution โดยเฉพาะ ซึ่งความพิเศษของปูนสูตรนี้คือ ทุก 1 ตันสามารถลดการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ได้ถึงร้อยละ 27 หรือประมาณ 65 กิโลกรัม CO2 เทียบเท่ากับการปลูกต้นไม้ประมาณ 7 ต้น เมื่อเทียบกับปูนสูตรปกติ นับเป็นผู้ผลิตรายแรกของไทย
- Green Circular : ผู้ให้บริการด้านเชื้อเพลิงและวัตถุดิบแก่ภาคอุตสาหกรรม ส่งเสริมการใช้ทรัพยากรหมุนเวียนให้เกิดประโยชน์สูงสุด ร่วมกับเครือข่ายทั้งภาคธุรกิจ ภาครัฐ และชุมชน เพื่อความยั่งยืนไปด้วยกัน โซลูชันประกอบด้วย 1.Green Waste Management โซลูชันจัดการของเสียและผลพลอยได้จากอุตสาหกรรม เพื่อช่วยลูกค้าในการกำจัดของเสียอุตสาหกรรม และหาวิธีนำของเสียและวัสดุเหลือทิ้งกลับมาใช้ประโยชน์ โดยนำมาผลิตเป็นเชื้อเพลิงและวัตถุดิบทดแทน 2.Green Fuel โซลูชันจัดการเชื้อเพลิงทางเลือกอย่างครบวงจร ลดการใช้เชื้อเพลิงฟอสซิล เพิ่มสัดส่วนการใช้เชื้อเพลิงได้ถึงร้อยละ 47 สำหรับโรงงานปูนซีเมนต์ในประเทศไทย 3.Green Material โซลูชันจัดการวัตถุดิบหมุนเวียนและบริหารจัดการเหมืองแร่ให้เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม นำวัสดุเหลือใช้และวัตถุพลอยได้กลับมาใช้ประโยชน์ เพื่อเป็นวัตถุดิบทดแทน 4.Green Refectory โซลูชันจัดการวัสดุทนไฟแบบครบวงจร
- การก่อสร้างสีเขียว ยกระดับการก่อสร้างให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น พร้อมลดการปล่อยคาร์บอน โดยได้พัฒนา KIT CARBON แพลตฟอร์มในการบริหารจัดการคาร์บอนไดออกไซด์ในกระบวนการทำงานก่อสร้าง ตั้งแต่การออกแบบอาคาร การเลือกใช้วัสดุ และวิธีการก่อสร้าง โดยนำเทคโนโลยีดิจิทัลและ BIM (Building Information Modelling) เข้ามาช่วยประเมิน ซึ่งเป้าหมายสำคัญคือช่วยโครงการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ควบคู่ไปกับการเพิ่มประสิทธิภาพการก่อสร้างด้านอื่น ๆ และลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม