ถอดบทเรียนความปลอดภัยในโรงงานอุตสาหกรรม ภารกิจสำคัญที่มองข้ามไม่ได้
ถอดบทเรียนความปลอดภัยในโรงงานอุตสาหกรรม ภารกิจสำคัญที่มองข้ามไม่ได้
โดย นางสาวนิรมล ดิเรกมหามงคล ผู้อำนวยการอาวุโส บริษัท ลิฟ - 24 จำกัด
จากนโยบายสนับสนุนของภาครัฐบาลในช่วงนี้ที่ยกระดับประเทศไทยสู่ศูนย์กลางเมืองแห่งอุตสาหกรรมระดับโลก ทำให้การรักษามาตรฐานในโรงงานอุตสาหกรรมของไทยให้ทัดเทียมกับนานาชาติ ด้วยมุมมองที่สำคัญของโรงงานอุตสาหกรรมคือ ความปลอดภัยเป็นสิ่งสำคัญ ด้วยโรงงานอุตสาหกรรมเป็นสถานที่ที่มีความเสี่ยงสูงต่อการเกิดอุบัติเหตุและอันตรายต่อชีวิตและทรัพย์สิน พบว่าสาเหตุหลักมาจากการทำงานกับเครื่องจักรกล อุปกรณ์ ไฟฟ้า สารเคมี วัตถุไวไฟ และความเสี่ยงอื่นๆ อีกมากมาย สถิติจากกรมโรงงานอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม ระบุว่า ในปี 2565 มีอุบัติเหตุเกิดขึ้นในสถานประกอบการ 1,648 ครั้ง เสียชีวิต 124 คน บาดเจ็บ 1,724 คน สาเหตุหลักมาจากไฟไหม้ 42.1% เครื่องจักรกล 17.9% ไฟฟ้า 11.6% สารเคมี 7.8% และอื่นๆ 20.6% จากสถิติข้างต้น จะเห็นได้ว่าไฟไหม้เป็นสาเหตุหลักของอุบัติเหตุในโรงงานอุตสาหกรรม การป้องกันอัคคีภัยจึงเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง สำหรับโรงงานอุตสาหกรรมควรมีระบบป้องกันและระงับอัคคีภัยที่ได้มาตรฐาน เช่น ระบบหัวจ่ายน้ำดับเพลิง ระบบสัญญาณเตือนภัย แผนหนีไฟ และการฝึกอบรมพนักงานให้รู้วิธีดับเพลิงและหนีไฟอย่างถูกต้อง
นางสาวนิรมล ดิเรกมหามงคล ผู้อำนวยการอาวุโส บริษัท ลิฟ - 24 จำกัด
LIV-24 เทคโนโลยีความปลอดภัยอัจฉริยะจาก พลัส พร็อพเพอร์ตี้ นำเสนอโซลูชันครบวงจรเพื่อดูแลความปลอดภัยและป้องกันเหตุเพลิงไหม้ แนะนำวิธีการเตรียมตัวให้พร้อม ป้องกันเหตุเพลิงไหม้ในโรงงาน โดยแบ่งออกเป็น 3 หัวข้อหลัก ดังนี้
1. การวางระบบป้องกันอัคคีภัย
ทุกโรงงานที่มีมาตรฐานต้องปฏิบัติตามกฎหมายความปลอดภัยประกาศกระทรวงอุตสาหกรรม เรื่องการป้องกันและระงับอัคคีภัยในโรงงาน พ.ศ. ๒๕๕๒ ซึ่งกำหนดรายละเอียดเกี่ยวกับระบบสัญญาณแจ้งเหตุเพลิงไหม้ เครื่องดับเพลิง ระบบน้ำดับเพลิง ระบบดับเพลิงอัตโนมัติ การตรวจสอบ ทดสอบ และบำรุงรักษาระบบและอุปกรณ์ตามรอบของการดูแล การฝึกอบรมเรื่องการป้องกันและระงับอัคคีภัยเป็นประจำทุกปี รวมไปถึงการนำเทคโนโลยีล้ำสมัยอย่าง LIV-24 เสนอโซลูชันครบวงจรในการเพิ่มประสิทธิภาพสำหรับการป้องกันและระงับอัคคีภัย ประกอบด้วย AI CCTV Analytics ที่ช่วยวิเคราะห์ภาพจากกล้องวงจรปิดแบบเรียลไทม์ ตรวจจับความผิดปกติ ด้วยการสั่งสมประสบการณ์มากกว่า 5 ปี จน AI ถูกพัฒนาให้เรียนรู้จากเคสและเพิ่มศักยภาพความฉลาดมากขึ้น ตรวจจับตั้งแต่ควัน ประกายไฟ ตลอดจนบุคคลต้องสงสัย มีการใช้ Fire Protection System ตรวจจับสัญญาณไฟไหม้ได้อย่างรวดเร็ว และแจ้งเหตุผิดปกติแบบ Realtime ให้กับผู้ใช้งานเมื่อเกิดเหตุเพลิงไหม้ ทำให้ระบุจุดเกิดเหตุได้แม่นยำ ระบบดับเพลิงอัตโนมัติจะทำงานควบคุมเพลิงไหม้ในเบื้องต้น เพื่อปกป้องชีวิตและทรัพย์สินอันมีค่าโดยจะจพมีทีมสนับสนุนจากศูนย์ LIV-24 Command Centre ผ่านการมอนิเตอร์ตลอด 24 ชม.ทำให้สามารถรับรู้เหตุที่เกิดขึ้นและตรวจสอบแก้ไขสถาณการณ์ฉุกเฉินได้ภายใน 3 นาที
2. การจัดการความเสี่ยง
LIV-24 มีควบคุมการเข้า-ออกพื้นที่ต่างๆ ในโรงงาน ด้วย Visitor Management System และAccess Control ช่วยป้องกันบุคคลภายนอกเข้ามาในพื้นที่อันตราย เพราะนอกจากระบบป้องกันอัคคีภัยแล้ว การดูแลป้องกันก็เป็นหัวใจสำคัญของความปลอดภัย รวมทั้งโรงงานควรมีระบบตรวจสอบความปลอดภัยของเครื่องจักรกล อุปกรณ์ ไฟฟ้า และสารเคมีอย่างสม่ำเสมอ พนักงานควรได้รับการอบรมให้เข้าใจวิธีการทำงานอย่างปลอดภัย สวมใส่ชุดป้องกันอันตราย และปฏิบัติตามกฎระเบียบความปลอดภัยอย่างเคร่งครัด
3. การเตรียมพร้อมรับมือ
นอกจากนี้การจัดทำแผนฉุกเฉิน ซ้อมหนีไฟสำหรับเตรียมการการอพยพและระงับเหตุ มีการกำหนดจุดรวมพล กำหนดบทบาทหน้าที่ของพนักงาน เป็นอีกมาตรการที่สำคัญ โดยทาง LIV-24 จะมีเจ้าหน้าที่จากส่วนกลาง Monitor การทำงานแบบ Real-time 24 ชั่วโมง คอยประสานงานกับหน่วยงานภายนอก เช่น หน่วยดับเพลิงและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องภายนอก เพื่อให้ได้รับการติดต่อและแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินอย่างฉับไวขึ้น
ทุกความปลอดภัยภายในโรงงาน ไม่ว่าจะเป็นเพลิงไหม้ การบุกรุกจากคนภายนอก หรือการป้องกันการทำผิดกฎระเบียบของโรงงานล้วนเป็นเป็นภัยร้ายแรงที่สามารถป้องกันได้ การเตรียมตัวให้พร้อมรับมือเป็นสิ่งสำคัญ ตั้งแต่การวางระบบป้องกันอัคคีภัย การจัดการความเสี่ยง การเตรียมพร้อมรับมือ โดยอาศัยทั้งกฎหมาย เทคโนโลยีล้ำสมัย และการสร้างจิตสำนึกด้านความปลอดภัยเป็นสำคัญ