โพสต์นี้มีแจก AP Pocket Book ชีวิตดีๆ ที่เลือกเองได้ หนังสือให้ข้อคิดดีๆ ที่ไม่มีขายถ่ายทอดประสบการณ์ จากคุณอนุพงษ์อัศวโภคิน CEO AP Thailand
โพสต์นี้มีแจก AP Pocket Book ชีวิตดีๆ ที่เลือกเองได้ หนังสือให้ข้อคิดดีๆ ที่ไม่มีขายถ่ายทอดประสบการณ์ จากคุณ #อนุพงษ์อัศวโภคิน CEO AP Thailand พร้อมกิจกรรมร่วมสนุก ให้แฟนเพจของ TerraBKK ได้ร่วมแชร์มุมมองของการมีชีวิตดีๆในแบบที่ต้องการ 20 คอมเม้นต์ที่ดีต่อใจ รอรับหนังสือส่งให้อ่านถึงหน้าประตูบ้านกันเลยคะ
ปัจจุบันนี้การทำงานในองค์กรนอกจาก Hard Skill และ Soft Skill แล้วยังมีหลายเรื่องราวให้ทั้งคนทำงานรวมไปถึงหัวหน้าต้องกลับมาคิดทบทวนความสำคัญ โดยเฉพาะเรื่องความเข้าใจคนทำงาน การทำงานเป็นทีม และการตัดสินใจ วันนี้ TerraBKK มีโอกาสได้ดูคลิป “เปิดใจให้กว้างกับทุกวิกฤตในชีวิตด้วย 'Outward Mindset'” ที่ทางคุณ #รวิศหาญอุสาหะ จากเพจ Mission to the moon ที่ได้สรุปแนวคิดดี ๆ จากหนังสือ “ชีวิตดีๆ ที่เลือกเองได้” ของ คุณอนุพงษ์ อัศวโภคิน CEO AP Thailand เป็นหนังสือที่จัดทำขึ้นมา เพื่อเป็นการสื่อสารภายในองค์กรเท่านั้นไม่ได้มีวางขายทั่วไป ซึ่งหนังสือเล่มนี้ได้บอกเล่าถึงหัวใจหลักของ “Outward Mindset” หรือแนวคิดการทำงานที่ทำให้องค์กรใหญ่อย่าง AP Thailand สามารถก้าวข้ามทุกความยากลำบากและทุกการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นได้อย่างยาวนาน สู่การเป็นผู้นำในกลุ่มธุรกิจอสังหาฯไทยในปัจจุบัน
“ถ้าอยากจะมีชีวิตที่ดี ต้องเริ่มที่ Mindset”
ในหนังสือ “ชีวิตดีๆ ที่เลือกเองได้” เป็นการถ่ายทอดประสบการณ์ของคุณ อนุพงษ์ อัศวโภคิน ที่ต้องการสื่อให้เห็นมุมมองใหม่ ๆ ของการพัฒนา “Mindset” หรือ “กรอบความคิด” ที่ไม่ว่าคุณจะมีเคล็ดลับการทำธุรกิจแค่ไหน หรือมีใครเป็น Role Model ในการดำเนินชีวิต ก็ไม่การันตีได้ว่าจะประสบความสำเร็จ 100%
“Outward Mindset” ทัศนคติที่ดี จะพาไปสู่ชีวิตที่ดี
ต้องบอกว่า Mindset มีผลต่อชีวิตของเราเยอะมาก โดยเฉพาะการทำงานร่วมกับคนในสังคมที่หลากหลาย ซึ่งหนังสือ “ชีวิตดีๆ ที่เลือกเองได้” ได้เน้นถึงคำว่า “Outward Mindset” ทัศนคติที่คุณอนุพงษ์พูดถึงอยู่บ่อยครั้ง เป็นการมองภาพรวมที่ให้ความสำคัญในการเอาใจเค้ามาใส่ใจเรา มองการทำงานเป็นทีมให้ความสำคัญกับผลลัพธ์ และไม่ยึดติดวิธีการเดิม โดย “Outward Mindset” ถือเป็นวัฒนธรรมของ AP Thailand ด้วย แน่นอนว่าการเปลี่ยนแปลงในโลกธุรกิจวันนี้แข่งขันสูง โดยเฉพาะธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ที่มีเม็ดเงินและมูลค่าการตลาดสูงมาก
แต่ว่า AP Thailand ทำยังไงให้องค์กรสามารถเติบโตได้อย่างแข็งแกร่ง โดยคุณอนุพงษ์ ให้ความเห็นไว้คือ CEO ไม่ใช่ศูนย์กลางจักรวาลธุรกิจที่ต้องตัดสินใจเองทุกเรื่อง ดังนั้นองค์กรต้องสามารถไว้วางใจให้พนักงานที่รับผิดชอบให้ตัดสินใจเองได้อย่างอิสระ เพราะเราทุกคนเกิดมาพร้อมกับความต้องการที่หลากหลาย และอุปสรรคที่หลากหลายด้วยเช่นกัน
ดังนั้นการสร้างธุรกิจให้ตอบสนองทั้งลูกค้า และพนักงานในองค์กรจึงเป็นเรื่องที่ยากมาก เหตุนี้เองจำเป็นต้องเข้าใจหลักการสำคัญของ “Outward Mindset” ที่จะช่วยให้คนหรือองค์กรมีความยืดหยุ่น ทำงานเป็นทีม และมีความเห็นอกเห็นใจกัน เป็นที่รักของลูกค้าและเพื่อนร่วมงานด้วย โดยเริ่มจากการเข้าใจ(1)ความต้องการ (2)เป้าหมาย และ(3)อุปสรรค ของอีกฝ่าย
ซึ่งถ้าเรารับรู้และเข้าใจสามสิ่งนี้ ของลูกค้า พนักงาน เพื่อนร่วมงาน รวมถึงตัวเองได้ ก็จะเกิดความเห็นอกเห็นใจ เข้าใจว่าบางทีวิธีคิดของเราอาจจะไม่ได้ถูกต้องเสมอไป ต้องเปิดใจมากขึ้นแล้วจะเกิดวิธีคิดและไอเดียใหม่ ๆ ที่ยืดหยุ่นมากขึ้น เพื่อสร้างเป้าหมายทางธุรกิจหรือว่าเป้าหมายอื่นต่อไป
สร้างความเป็น “นายของตัวเอง” ในองค์กร
“อสังหาริมทรัพย์” เป็นธุรกิจที่มีโครงสร้างขนาดใหญ่ โดย AP Thailand ก่อตั้งมาตั้งแต่ปี 2534 พร้อมเติบโตขึ้นมาเรื่อย ๆ ปัจจุบันเป็นบริษัทอสังหาฯขนาดใหญ่ ที่เกี่ยวข้องกับผู้คนจำนวนมาก ดังนั้นทุกการตัดสินใจหากขึ้นกับ CEO เพียงคนเดียวจะเป็นเรื่องยาก จึงเป็นเหตุผลสำคัญที่ AP Thailand มุ่งเน้นที่จะสร้างความเป็นผู้นำแบบอิสระ หรือเรียกง่าย ๆ คือ ให้พนักงานในองค์กรเป็นนายตัวเอง เพื่อกระจายอำนาจการบริหาร การตัดสินใจให้กับพนักงานเก่ง ๆ ให้สามารถทำงานแทนผู้บริหารได้อย่างมีประสิทธิภาพนั่นเอง
ซึ่งเราเรียกผู้นำแบบนี้ว่า Independent Responsible Leader โดย Independent หมายถึง การตัดสินใจได้อย่างอิสระ และ Responsible หมายถึง การรับผิดชอบในหน้าที่กรอบอำนาจที่ตัวเองได้รับมาอย่างดี ซึ่งทั้งสองอย่างนี้เมื่อมารวมกันจะทำให้พนักงานในองค์กรสามารถมองสิ่งต่าง ๆ ได้รอบด้านและเหมาะสมมากขึ้น ไม่ถูกครอบงำจากความคิดเห็นของใครคนหนึ่ง และยังปลูกฝังให้พนักงานตระหนักถึงผลกระทบที่จะเกิดขึ้นจากการกระทำของตัวเองด้วย
ความสำเร็จของ AP หลายคนอาจคิดว่าเคล็ดลับความสำเร็จมาจากการสร้าง Independents ให้กับองค์กร แต่แท้จริงแล้วปัจจัยทั้งหมดนี้ไม่ได้นำไปสู่ความสำเร็จโดยตรง แต่เป็นวิธีการสร้างภูมิคุ้มกันให้องค์กรล้มและลุกขึ้นมาใหม่ได้อย่างเข้มแข็งมากขึ้นนั่นเอง
“เราหวังว่าเรื่องมันจะดีที่สุด ขณะเดียวกันเราก็เตรียมตัวสำหรับเรื่องราวเลวร้ายที่สุดด้วย”
เมื่อในชีวิตจริงเราหลบเลี่ยงวิกฤตต่าง ๆ ได้ยาก ดังนั้นการเตรียมรับมือจึงเป็นสิ่งสำคัญ ซึ่งสิ่งที่ต้องระวังคือ อีโก้ของตัวเอง (Ego) ที่อาจจะเป็นต้นเหตุของวิกฤต จากการยึดติดกับบางอย่างมากเกินไป เช่นที่ผ่านมาเคยทำธุรกิจแบบนี้แล้วประสบความสำเร็จ และคิดว่ายังต้องทำต่ออีกเรื่อย ๆ แต่ในความจริงแล้ว ความต้องการของลูกค้าอาจจะเปลี่ยนไปแล้วตามยุคสมัย ดังนั้นให้คิดไว้เสมอว่า “ความเก่งไม่ใช่เรื่องจริงและความสำเร็จในวันนี้คืออดีต”
การวางแผนไม่ได้แปลว่าชีวิตจะประสบความสำเร็จ แต่การไม่วางแผน แปลว่า ชีวิตจะล้มเหลวค่อนข้างแน่นอน
ประโยคสั้น ๆ ที่สามารถบอกเล่าได้อย่างตรงตัว โดยเฉพาะในธุรกิจที่ต้องปรับตัวตลอด วิกฤตหรือปัญหาที่เกิดขึ้นในชีวิตและในธุรกิจอาจไม่ได้เข้ามาทีละเรื่อง บางทีวิกฤตก็อาจมาพร้อมกันหลายอย่าง ทั้งเรื่องงาน เรื่องส่วนตัว ปะปนกันไป ซึ่งถ้ามาเยอะก็อาจจะทำลายทั้งชีวิตแล้วธุรกิจได้ง่าย ๆ
ดังนั้นการวางแผนที่ดีเพื่อรับมือและจัดการกับช่วงวิกฤตที่เกิดขึ้นในชีวิตจึงเป็นเรื่องสำคัญมาก ต้องบอกว่าทักษะการวางแผนเป็นฟังก์ชันที่บรรพบุรุษมีการใช้มาตั้งแต่ยุคดึกดำบรรพ์ ทั้งการเอาชีวิตรอดจากสัตว์ดุร้าย ที่ต้องมีการวางแผนใช้เครื่องมือ มีลูกล่อลูกชน ทำให้มนุษย์ที่มีความอ่อนแอกว่าสัตว์ป่า สามารถอยู่รอดมาได้ตั้งแต่สมัยโบราณ ซึ่งปัจจุบันนวัตกรรมต่าง ๆ บนโลกใบนี้ ก็เกิดขึ้นจากการสังเกตวางแผนวางกลยุทธ์ และการปรับตัวเช่นเดียวกัน
เมื่อเรามีใจที่เปิดกว้างจาก “Outward Mindset” และมีข้อมูลที่ถูกต้อง ก็จะช่วยสร้างสมมติฐานใหม่ขึ้นมาได้มากมาย ต่อให้ต้องเจอวิกฤตอีกหลายครั้ง เราก็จะสามารถรับมือได้ บางทีเราจะเห็นโอกาสที่คนอื่นมองไม่เห็นด้วย แต่เราจะวางแผนอะไรไม่ได้เลยถ้าเราไม่มีเป้าหมาย ซึ่งในการทำธุรกิจผู้ประกอบการส่วนใหญ่มักใช้คำว่า Vision และ Mission โดย Vision จะเน้นย้ำถึงเป้าหมายและแนวทางสู่เป้าหมายของธุรกิจ ส่วน Mission คือการทำให้คนอื่นเห็นในสิ่งที่เราเห็น ในส่วนของ AP เองก็สะท้อนวิสัยทัศน์และเป้าหมายในการเติบโตขององค์กรได้อย่างชัดเจนนั่นก็คือ Empower Living ชีวิตดี ๆ ที่เลือกเองได้
ต้อง Work Smart เข้าไว้
การทุ่มเททำงานหนักจนร่างกายพังจิตใจพัง เป็นสิ่งที่ไม่มีประโยชน์ ดังนั้นไม่ว่าคุณจะเป็นใครก็ตาม จะเป็นพนักงาน เป็นผู้ประกอบการ ก็ต้องทำงานแบบ Work Smart เข้าไว้ โดยเฉพาะการถนอมร่างกายและจิตใจของเราไว้ด้วย
ปัจจุบันนี้ในหลายบริษัทก็มีการทำงานแบบ Hybrid ทำงานได้จากหลายที่ ทั้งออฟฟิศ อยู่ข้างนอก หรือแม้แต่อยู่ในบ้าน ซึ่งคนที่สมดุลชีวิตไม่ค่อยดีมักจะไม่ค่อยได้คิดถึงเรื่อง ความสำคัญก่อนหลัง แต่ถ้าเรารู้ลำดับความสำคัญของเรื่องราวต่าง ๆ สมดุลชีวิตจะเกิดขึ้น ซึ่งการวัดที่ประสิทธิผลว่าผลลัพธ์มากกว่านั่งนับชั่วโมงการทำงานก็เป็น “Outward Mindset” อีกรูปแบบหนึ่งเช่นกัน
เชื่อว่าทุกคนที่อ่านมาถึงตรงนี้ ก็อยากจะมีอิสระในการบริหารจัดการเวลาของตัวเอง วิธีคิดง่ายๆ คือ จัดลำดับของชีวิตแต่ละวันให้มันสอดคล้องกับหน้างานจริงเอา “Outward Mindset” มาคิดรวมกับเรื่อง Work Smart ก็จะทำให้เรามีชีวิตที่กลมกลืนอย่างแท้จริงได้
สุดท้ายสิ่งที่จะอยู่กับเราไปตลอดเวลา ไม่ว่าจะอยู่ในช่วงที่พีคสุด หรือดิ่งสุดๆ “Mindset” หรือกรอบความคิด ที่มีการวางแผนที่ดี ลำดับความสำคัญ มีจิตใจที่เปิดกว้าง และมองหาโอกาสแม้ชีวิตจะอยู่ในช่วงที่เลวร้าย เชื่อว่าทั้งหมดจะสามารถจัดการกับความทุกข์ แล้วบริหารวิกฤตให้เป็นโอกาสได้เหมือนกับนักธุรกิจเก่งๆ ได้อย่างแน่นอน
พิเศษ !! สำหรับผู้อ่าน TerraBKK ร่วมสนุกกับกิจกรรม เพื่อเป็นเจ้าของ “หนังสือ Pocket Book ชีวิตดีๆ ที่เลือกเองได้” โดยร่วมกดแชร์โพสต์นี้ให้เป็นสาธารณะ พร้อมคอมเมนท์ใต้โพสต์ ว่า แนวคิด “ชีวิตดีๆ ที่เลือกเองได้” ของคุณเป็นอย่างไร ?
ผู้โชคดี 20 ท่าน รับหนังสือ Pocket Book ชีวิตดีๆ ที่เลือกเองได้ ที่เราจะมอบให้เป็นพิเศษส่งตรงถึงบ้าน
ดูคลิปเต็มจากเพจ Mission to the moon ได้ที่ https://www.facebook.com/missiontothemoonofficial/posts/pfbid0cKrJbqm9A96sMdZj82LF7otvmgMef5RiFeH5JPxL9ChNjp3WZhPQmZKXBfBcxG8El
#APTHAI #ชีวิตดีๆที่เลือกเองได้ #APTHAIUpdate2024