• ความต้องการชิ้นส่วนรถยนต์ประเภท OEM (Original Equipment Manufacturing) ที่ส่งเข้าสู่สายการผลิตรถยนต์ และมีส่วนแบ่งในยอดขายชิ้นส่วนรถยนต์ที่ผลิตในไทยมากถึงกว่า 3 ใน 4 ส่วนนี้ มีแนวโน้มหดตัวในปี 2567 โดยยอดขายในประเทศคาดหดตัว 11.9% และยอดส่งออกหดตัว 2.9% หลังปริมาณการผลิตรถยนต์มีแนวโน้มหดตัวสูงจากทั้งในไทยและต่างประเทศ
  • ส่วนชิ้นส่วน REM (Replacement Equipment Manufacturing) หรือชิ้นส่วนอะไหล่ที่ใช้ในการซ่อมบำรุงรถยนต์ซึ่งมีส่วนแบ่งในยอดขายชิ้นส่วนรถยนต์ที่ผลิตในไทยอยู่ 1 ใน 4 ส่วนนั้น คาดว่าในปี 2567 นี้ยอดขายจะขยายตัวได้ 6.4% สำหรับตลาดในประเทศตามปริมาณรถยนต์จดทะเบียนที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น ส่วนยอดส่งออกคาดขยายตัวน้อยกว่าที่ 2.0% หลังเผชิญปัญหาการแข่งขันจากชิ้นส่วนจีน

ไทยนับเป็นหนึ่งในประเทศฐานผลิตชิ้นส่วนรถยนต์หลักแห่งหนึ่งของโลก จากการเป็นฐานประกอบรถยนต์มากกว่า 1.8 ล้านคันในปี 2566 ซึ่งสูงเป็นอันดับ 10 ของโลก โดยอาศัยห่วงโช่อุปทานที่ครบวงจร (รูปที่ 1) ตั้งแต่การเป็นแหล่งผลิตวัตถุดิบสำคัญหลายรายการ เช่น ยางและพลาสติก เป็นต้น ซึ่งจะนำมาผลิตเป็นชิ้นส่วนรถยนต์ 2 กลุ่ม ได้แก่ ชิ้นส่วน OEM รองรับการผลิตรถยนต์ และชิ้นส่วน REM รองรับตลาดซ่อมบำรุง โดยแม้จะมีการนำเข้าชิ้นส่วนบางรายการเข้ามา แต่ก็เป็นสัดส่วนที่ไม่สูงมาก ก่อน ส่งให้กับกลุ่มลูกค้าทั้งบริษัทผู้ผลิตรถยนต์ ร้านอะไหล่ และอู่ซ่อมรถ ทั้งในและต่างประเทศ