ครั้งแรกของประเทศ แสนสิริ พลิกวงการอสังหาฯปั้น SANSIRI 10 EAST พื้นที่ 165 ไร่ มูลค่า 18,000 ล้านบาท ลักซ์ชัวรีคอมมูนิตี้ใหม่ย่านบางนา ใจกลางพื้นที่เศรษฐกิจตะวันออก
- แสนสิริพลิกวงการอสังหาริมทรัพย์ เดินหน้าต้นแบบ ยกระดับการพัฒนาที่อยู่อาศัย สู่การสร้าง “สังคมอยู่อาศัยสมบูรณ์แบบ” เปิดตัว “SANSIRI 10 EAST” (แสนสิริ เท็น อีสต์) ลักซ์ชัวรีคอมมูนิตี้ แลนด์มาร์กสำคัญ ภายใต้แบรนด์โครงการระดับลักซ์ชัวรีและซูเปอร์ลักซ์ชัวรีจาก 4 แบรนด์ที่เตรียมเปิดตัว ทั้งบ้านแสนสิริ, สิริณสิริ, นาราสิริ และเศรษฐสิริ บนพื้นที่กว่า 165 ไร่ มูลค่ารวมกว่า 18,000 ล้านบาท
- เผยแนวคิดปั้น “ลักซ์ชัวรีคอมมูนิตี้” ต่อยอดความสำเร็จจาก “แสนสิริ คอมมูนิตี้” ในแต่ละทำเลที่แสนสิริเข้าไปพัฒนาโครงการ ยกระดับสู่สังคมอยู่อาศัยสมบูรณ์แบบ ภายใต้ 4 แกนสำคัญ คือ Superior Design and Craftmanship – Urban Accessibility – Sustainability – Long-Term Value
- ชูวิสัยทัศน์มองอสังหาฯ ไทยศักยภาพสูง นำร่องปั้นเมืองคุณภาพ ชู “บางนา” ยืนหนึ่งทำเลที่อยู่อาศัยคุณภาพ เส้นเลือดใหญ่แห่งกรุงเทพฯ ตะวันออก ราคาที่ดินพุ่ง 170,000 บาทต่อตารางวา เพิ่มขึ้นอันดับหนึ่งตั้งแต่ปลายปี 66
- พร้อมผนึกพลัสฯ เตรียมส่งมอบบริการพิเศษ สุดเอ็กซ์คลูซีฟ โดยทีมงานผู้เชี่ยวชาญด้านบริการระดับลักซ์ชัวรีและไลฟ์สไตล์ เพื่อกลุ่มลูกค้าได้ครอบครองโครงการซูเปอร์ลักซ์ชัวรีในระดับที่ไม่มีใครเทียบได้ เตรียมเปิดตัวโครงการแรก “เศรษฐสิริ บางนา กม.10” มูลค่าโครงการ 2,300 ล้านบาท พรีเซลล์ 9 - 10 พ.ย. นี้
นายอาณัติ กิตติกุลเมธี รองกรรมการผู้จัดการอาวุโสสายงานพัฒนาโครงการแนวราบ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า แสนสิริมีแนวคิดในการพัฒนาที่อยู่อาศัย ภายใต้วิสัยทัศน์ในการเติมเต็มประสบการณ์อยู่อาศัยที่สมบูรณ์แบบ ด้วยการมุ่งมั่นพัฒนาไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตทั้งในบ้านเดี่ยว คอนโดมิเนียม และทาวน์โฮมของแสนสิริบนความเข้าใจอย่างลึกซึ้ง ขยายแนวคิดไปถึงการพัฒนาโปรดักส์ที่มากกว่าโครงการที่อยู่อาศัย แต่มุ่งมั่นให้เป็น คอมมูนิตี้ ที่สามารถตอบโจทย์การใช้ชีวิตของลูกบ้านแสนสิริทุกคนได้อย่างลงตัว หรือ “Sansiri Community” ในแต่ละทำเลที่แสนสิริเข้าไปพัฒนาโครงการ และล่าสุดยกระดับสู่การสร้าง “สังคมอยู่อาศัยสมบูรณ์แบบ” ซึ่งประกอบด้วย 4 แกนสำคัญ ได้แก่ Superior Design and Craftsmanship ความเป็นเลิศด้านคุณภาพโครงการ ดีไซน์การออกแบบและคัดสรรวัสดุ รวมทั้งการพัฒนาที่ดินให้ตอบโจทย์ความทุกไลฟ์สไตล์บนทำเลที่เหมาะกับกลุ่มลูกค้า ทำให้เกิดเป็น Good Community ในแต่ละทำเล Urban Accessibility มีความโดดเด่นของทำเลที่ตั้ง มีศักยภาพทั้งในด้านการเดินทาง สิ่งอำนวยความสะดวกรอบด้านและการเติบโต Sustainability การออกแบบในแต่ละโครงการเพื่อความยั่งยืน Long-Term Value หรือการบริการด้วยความใส่ใจตั้งแต่วินาทีแรก รวมถึงการดูแล และให้บริการที่สนับสนุนการอยู่อาศัยได้อย่างสมบูรณ์แบบตลอดระเวลาในการอยู่อาศัย ที่จะเป็นการสร้างมูลค่าเพิ่ม (Value Added) ที่มากกว่า
ก้าวสำคัญของแสนสิริในปีนี้ ตอกย้ำผู้นำตลาดอสังหาฯ ลักซ์ชัวรีและซูเปอร์ลักซ์ชัวรีระดับแถวหน้าของประเทศ และสานต่อความสำเร็จของโมเดลแสนสิริ คอมมูนิตี้ กับโจทย์ท้าทายใหม่ ด้วยการสร้าง “SANSIRI 10 EAST” บนพื้นที่ 165 ไร่ มูลค่ารวมกว่า 18,000 ล้านบาท ให้เป็น“ลักซ์ชัวรีคอมมูนิตี้”ที่จะเป็นแลนด์มาร์กใหม่ บนถนนบางนา กม.10 ให้เป็นมากกว่าที่อยู่อาศัย ภายใต้ 4 แบรนด์โครงการระดับลักซ์ชัวรีและซูเปอร์ลักซ์ชัวรี ระดับราคาตั้งแต่ 25 – 500 ล้านบาท ที่ประสบความสำเร็จอย่างมากมาแล้ว ได้แก่ “บ้านแสนสิริ” โครงการบ้านเดี่ยวระดับแฟล็กชิพซูเปอร์ลักซ์ชัวรีของแสนสิริ ที่นับเป็น Masterpiece จากความพิถีพิถันในรายละเอียด ซึ่งจะนับเป็นโครงการระดับแฟล็กชิพล่าสุดของแสนสิริ ที่เป็นที่สุดของสินทรัพย์ในระดับ Rare Item “สิริณสิริ” แบรนด์ใหม่ของบ้านเดี่ยวระดับลักซ์ชัวรีของแสนสิริ ที่เตรียมเปิดตัวในทำเลนี้ “นาราสิริ” แบรนด์บ้านเดี่ยวระดับลักซ์ชัวรี มาสเตอร์พีซของการอยู่อาศัยระดับเวิลด์คลาส ที่ได้กระแสตอบรับที่ดีมากในทุกโลเคชั่น พื้นที่โครงการ 38 ไร่ มูลค่าโครงการ 3,900 ล้านบาท เตรียมเปิดตัวไตรมาสแรกปี 2568 และ “เศรษฐสิริ” แบรนด์บ้านระดับลักซ์ชัวรีที่อยู่คู่กับแสนสิริมากว่า 20 ปีควบคู่กับความสำเร็จของผู้อยู่อาศัย ทั้งนี้ แสนสิริได้เตรียมเปิดตัว “เศรษฐสิริ บางนา กม.10” เป็นโครงการแรกใน SANSIRI 10 EAST ด้วยความโดดเด่นของบ้านเดี่ยวสไตล์ Georgian แรงบันดาลใจจากสถาปัตยกรรมยุค British Georgian จำนวน 71 ยูนิต ระดับราคา 25 – 40 ล้านบาท* บนพื้นที่โครงการ 27 ไร่ มูลค่าโครงการ 2,300 ล้านบาท เปิดตัวเป็นโครงการแรก 9 - 10 พฤศจิกายน นี้
“แสนสิริเล็งเห็นถึงการพัฒนาที่มากกว่าโครงการที่อยู่อาศัย โดยประเทศไทยมีจุดเด่นในการพัฒนา luxury living ที่น่าสนใจ อาทิ ราคาที่อยู่อาศัยที่เอื้อมถึงได้: ไทยมีค่าครองชีพที่ต่ำกว่าเมื่อเทียบกับหลายประเทศ ทำให้สามารถเข้าถึง luxury living ได้ง่ายกว่า 2. บริการระดับพรีเมียม : ไทยมีชื่อเสียงด้านการบริการที่ยอดเยี่ยม โดยเฉพาะในโรงแรมและรีสอร์ทระดับลักซ์ชัวรี 3. อสังหาริมทรัพย์ระดับไฮเอนด์ โดยเฉพาะในกรุงเทพฯ และเมืองท่องเที่ยวอย่างภูเก็ต มีคอนโดมิเนียมและบ้านในระดับลักซ์ชัวรีที่ได้มาตรฐานสากล 4. ไทยมีวัฒนธรรมที่เป็นมิตร : ความมีน้ำใจและอัธยาศัยไมตรีของคนไทยสร้างบรรยากาศที่อบอุ่นในชุมชน 5. ความหลากหลายทางอาหารเป็นจุดดึงดูดสำคัญ รวมทั้ง 6. การแพทย์และสุขภาพ ซึ่งไทยมีชื่อเสียงด้านการท่องเที่ยวเชิงการแพทย์และสปาระดับโลก เป็นที่มาของการเปลี่ยน ก้าวนำ สู่การพัฒนา “สังคมอยู่อาศัยสมบูรณ์แบบ” ของแสนสิริ ซึ่งมองว่าอสังหาฯ ไทยมีศักยภาพเพียงพอในการสร้างสังคมการอยู่อาศัยที่ดี ซึ่งจะนำไปสู่การพัฒนาสังคมคุณภาพในอนาคต
ปัจจัยสำคัญในการพัฒนาที่ดินทำเล บางนา กม.10 จำนวน 165 ไร่ของแสนสิริ ให้เป็น “SANSIRI 10 EAST” (แสนสิริ เท็น อีสต์) ประกอบด้วย 4 จุดเด่นสำคัญที่ยกระดับให้เป็นสังคมอยู่อาศัยสมบูรณ์แบบ ได้แก่ โครงการระดับมาสเตอร์พีชออกแบบเพื่อความยั่งยืนเติมเต็มทุกกิจกรรมครอบครัว, การสร้างสังคมคุณภาพท่ามกลางสิ่งแวดล้อมคุณภาพ, ทำเลที่ตั้งใกล้สนามบินซึ่งนับเป็นทำเลทองของผู้ประกอบการขนาดกลาง-ใหญ่ ศูนย์กลาง Logistics ของประเทศและเส้นทางสู่ EEC รวมทั้งการพัฒนาเป็นทำเลที่ตอบโจทย์คนรักสัตว์ ถูกใจทั้งสัตว์เลี้ยงและเจ้าของด้วยธรรมชาติและพื้นที่ขนาดใหญ่ได้
“พิเศษสุดด้วยการยกระดับบริการผ่านแสนสิริ เซอร์วิส รูปแบบใหม่ “SANSIRI LUXURY SERVICE” จากทีมพลัส พร็อพเพอร์ตี้ ผู้เชี่ยวชาญด้านบริการระดับลักซ์ชัวรีและไลฟ์สไตล์ รองรับการอยู่อาศัยในโครงการแนวราบระดับซูเปอร์ลักซ์ชัวรีของแสนสิริในโปรเจ็กต์ SANSIRI 10 EAST ตอกย้ำความมุ่งมั่นในการดูแลครอบครัวแสนสิริ ตั้งแต่วันนี้ พรุ่งนี้ และตลอดไป ซึ่งเรามั่นใจว่า โครงการอสังหาริมทรัพย์ระดับซูเปอร์ลักซ์ชัวรีและลักซ์ชัวรีที่แสนสิริพัฒนาจะมีมูลค่าเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทั้งในด้านมูลค่าที่เหนือกาลเวลาและประสบการณ์การใช้ชีวิต” นายอาณัติ กล่าว
บางนา กม.10 คือทำเลแห่งวิสัยทัศน์ที่เชื่อมต่อกรุงเทพฯ และภาคตะวันออก ด้วยระบบคมนาคมที่สมบูรณ์แบบ ทั้งถนนบางนา-ตราด ทางด่วนบูรพาวิถี และการเข้าถึง CBD ได้ภายใน 30 นาที นอกจากนี้ยังมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ทั้ง Mega บางนา, IKEA และสนามกอล์ฟระดับพรีเมียม ส่งผลให้ย่านนี้กลายเป็น Expanded CBD ที่มีศักยภาพสูงในอนาคต
“ความท้าทายในการครองความเป็น Top of Mind Brand ของลูกค้าในกลุ่มลักซ์ชัวรีและซูเปอร์ลักซ์ชัวรี นับว่ามีความสำคัญที่สุดในปัจจุบัน เพื่อตอบรับความต้องการที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว รวมทั้งเทรนด์การใช้ชีวิตในรูปแบบใหม่ๆ ที่มาพร้อมกับการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่ต้องสามารถเชื่อมโยงความเป็นที่อยู่อาศัยและการเป็นพื้นที่ในการใช้ชีวิตได้อย่างไร้รอยต่อในโลกที่เปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่องตลอดเวลา ดังนั้น แสนสิริจึงให้ความสำคัญกับการรักษาตำแหน่งผู้นำในกลุ่มลักซ์ชัวรีและซูเปอร์ลักซ์ชัวรี ด้วยการผนวกเทรนด์การใช้ชีวิตเข้ามาเป็นส่วนสำคัญของการพัฒนาโครงการ เพื่อเติมเต็มประสบการณ์การอยู่อาศัยอย่างสมบูรณ์แบบ ให้กับลูกค้าระดับสูงสุดของเราได้มีความภาคภูมิและรู้สึกประทับใจที่ได้เป็นเจ้าของและใช้ชีวิตในโครงการแฟล็กชิพของแสนสิริอย่างเต็มภาคภูมิ” นายอาณัติ กล่าว