SCG ร่วมกับ ศูนย์วิจัยเทคโนโลยีการก่อสร้างและบำรุงรักษา (CONTEC) สถาบันเทคโนโลยีนานาชาติ  สิรินธร (SIIT) มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ บริษัท ไทยเซอิ (ไทยแลนด์) จํากัด และ บริษัท ฟูจิ โพลี่ (ประเทศไทย) จำกัด นำร่องโครงการทดสอบใช้งานคอนกรีตคาร์บอนต่ำ สูตรต้นแบบไร้ซีเมนต์ ลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้มากกว่า 50% ครั้งแรกในประเทศไทย ณ ไซต์งานถนนภายในโรงงานบริษัท ฟูจิ โพลี่ (ประเทศไทย) จำกัด นิคมอุตสาหกรรมนวนคร โดย CPAC ผู้นำด้านคอนกรีตผสมเสร็จคุณภาพสูง ใน SCG  เพื่อก้าวสำคัญสู่เป้าหมาย Net Zero ในอุตสาหกรรมก่อสร้างไทย

นับเป็นความร่วมมือคิดค้นพัฒนานวัตกรรมคอนกรีตคาร์บอนต่ำสูตรต้นแบบ จากการนำวัสดุทดแทนปูนซีเมนต์  ที่ทาง SCG พัฒนาขึ้นมาต่อยอดและประยุกต์ใช้ร่วมกับ By-Product นับเป็นองค์ความรู้และโครงการนำร่องทดสอบ เพื่อประยุกต์ใช้ร่วมกับผลิตภัณฑ์คอนกรีตต่างๆ ยกระดับมาตรฐานการก่อสร้าง ทั้งงานโครงสร้างพื้นฐาน งานสาธารณูปโภค งานโครงการที่พักอาศัย งานก่อสร้างภาคอุตสาหกรรมและเชิงพาณิชย์ ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมของไทยให้สอดคล้องกับแผนพลังงานใหม่ เพื่อมุ่งสู่เป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ตาม Thailand 2050 Net Zero Cement and Concrete Roadmap

โดย ศ.ดร.สมนึก ตั้งเติมสิริกุล หัวหน้าศูนย์วิจัยเทคโนโลยีการก่อสร้างและบำรุงรักษา (CONTEC) จากสถาบันเทคโนโลยีนานาชาติสิรินธร (SIIT) มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เปิดเผยว่า คอนกรีตสูตรใหม่ไร้ซีเมนต์นี้ ใช้วัตถุดิบจากกากอุตสาหกรรมแทนซีเมนต์ปกติ สามารถลดการปล่อย CO2 อย่างมีนัยสำคัญ พร้อมคุณสมบัติด้านวิศวกรรมที่ทัดเทียมคอนกรีตทั่วไป นอกจากนี้สีของคอนกรีตยังมีความแปลกใหม่ เช่น สีน้ำตาลที่ช่วยเพิ่มมิติในการออกแบบงานสถาปัตยกรรม

“การพัฒนาคอนกรีตสูตรต้นแบบไร้ซีเมนต์ มีจุดมุ่งหมายในการทำคอนกรีตให้มีคาร์บอนฟุตพริ้นท์ที่ต่ำมากๆในอนาคตอาจจะเป็นศูนย์หรือติดลบเลยก็ได้ การใช้วัตถุดิบประเภทที่ปล่อย CO2 ต่ำ โดยที่เราไม่ใช้ปูนซีเมนต์เลยและเป็นวัตถุดิบพวกกากอุตสาหกรรม ซึ่งเป็น Combination ที่ดี อัตราส่วนเหมาะสม ทำให้ได้มาซึ่งคอนกรีต  ไร้ซีเมนต์ที่มีคุณสมบัติทางด้านวิศวกรรมเทียบเท่าการใช้คอนกรีตที่ใช้ปูนซีเมนต์ทั่วไป ซึ่งเทคโนโลยีนี้ถือเป็น  ครั้งแรกในประเทศไทย สำหรับสีของคอนกรีตจากเดิมที่เราเคยเห็นโครงสร้างสีเทาๆ อยู่ตลอดเวลา แต่ถ้ามีคอนกรีตที่มีสีแปลกจากสีคอนกรีตเดิมๆ น่าจะเป็นจุดที่น่าสนใจและเป็นจุดขายในอนาคตก็ได้นะครับ”

ด้าน นายเฉลิมวุฒิ สงวนญาติ Concrete and Construction Technology Director จาก SCG กล่าวว่า“ทาง SCG ได้ตระหนักถึงเรื่องการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศหรือ Climate Change ซึ่งนับวันจะ ทวีความรุนแรงมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง เราเลยมีเป้าหมายที่สำคัญในการเดินหน้าสู่การเป็นผู้ผลิตปูนซีเมนต์และคอนกรีตที่ปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ภายในปี 2050 ต้องบอกว่า ‘SCG’ ได้รับความร่วมมือจาก ‘สถาบันเทคโนโลยีนานาชาติสิรินธร (SIIT) มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์’ ร่วมด้วยทาง ‘ไทยเซอิ’ ซึ่งเป็นผู้รับเหมาก่อสร้าง รวมถึงต้องขอขอบคุณ ‘ฟูจิ โพลี่’ ที่ให้สถานที่ในการทดลองครั้งนี้ ต้องบอกว่าความร่วมมือในครั้งนี้ถือว่าเป็นต้นแบบของการที่เราจะนำนวัตกรรมวัสดุทดแทนปูนซีเมนต์ที่มีความเป็นกรีนมาพัฒนาให้เป็น ‘คอนกรีตที่มีคาร์บอนต่ำ’ ถือว่าเป็นจุดเริ่มต้นของประเทศไทย ที่เราจะนำไปใช้ประโยชน์ต่อในอุตสาหกรรมการก่อสร้างของไทยต่อไป และถือเป็นโอกาสอันดีที่จะเพิ่มประสบการณ์ของผู้ใช้งานได้เรียนรู้ถึงนวัตกรรมตัวใหม่ๆ และให้อุตสาหกรรมประเทศไทยสู่ความยั่งยืน”

ส่วน นายนาโอฮิโตะ โอบะ Managing Director บริษัท ไทยเซอิ (ไทยแลนด์) จำกัด บริษัทรับเหมาก่อสร้างสัญชาติญี่ปุ่น กล่าวว่า “ในสถานการณ์ปัจจุบัน เรามุ่งหวังที่จะลดการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ให้เป็นศูนย์  โดยคอนกรีตใหม่นี้เมื่อเทียบกับคอนกรีตเดิมมีการลดการปล่อยก๊าซ CO2 ลงถึง 50% ซึ่งเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและเป็นผลดีมากสำหรับสังคมไทย เรามุ่งไปที่อนาคตของประเทศไทยโดยคอนกรีตนี้จะเปลี่ยนวงการการก่อสร้างทั้งหมด คอนกรีตนี้เป็นคอนกรีตที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวมาก โดยมีสีน้ำตาลซึ่งเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับนักออกแบบ ยังสามารถนำไปใช้กับหน่วยงานการก่อสร้างอาคารและโครงสร้างพื้นฐาน ทั้งยังมีข้อดีทั้งในด้านคุณภาพและสีสัน พวกเรากลุ่มบริษัทไทยเซอิพร้อมมุ่งสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอน เราจะผลักดันและเผยแพร่คอนกรีตที่สร้างอนาคต เราได้ออกแบบส่วนผสมโดยการนำเทคโนโลยีของประเทศญี่ปุ่นเพื่อการร่วมมือในการพัฒนาคอนกรีต เราจึงเลือกกลุ่มบริษัท SCG เป็นผู้พัฒนา ในอนาคตเรามั่นใจว่าด้วยเทคโนโลยีจากประเทศญี่ปุ่นและเทคโนโลยีจากกลุ่มบริษัท SCG จะทำให้การพัฒนาผลิตภัณฑ์คอนกรีตเป็นไปในทางที่ดีและพร้อมมุ่งสู่ ความเป็นกลางทางคาร์บอน เรามั่นใจในเทคโนโลยีของเรา”

ในขณะที่ นายฮิโรฮิโกะ มินาเอะ President บริษัท ฟูจิ โพลี่ (ประเทศไทย) จำกัด เจ้าของโครงการก่อสร้าง    กล่าวว่า “ก่อนอื่นอยากจะขอบคุณทาง TAISEI ที่ได้ชวนให้เข้าร่วมในโครงการนี้ ทั้งนี้หนึ่งในเป้าหมายบริษัท ของเราก็มีแผนที่จะดำเนินการเกี่ยวกับการลดคาร์บอนไดออกไซด์ซึ่งตามเป้าหมายนี้ ทางเราก็ได้เริ่มคิดเกี่ยวกับว่าจะทำอย่างไรถึงจะสามารถลดคาร์บอนไดออกไซด์ได้ แต่เราก็รู้สึกว่าสิ่งที่เราสามารถดำเนินการเพื่อลดคาร์บอนไดออกไซด์ได้นั้นยังมีข้อจำกัดอยู่มาก ถ้าโครงการนี้สำเร็จ ผมเชื่อว่าจะเป็นการขยายขอบเขต การมีส่วนร่วมในกิจกรรมลดคาร์บอนไดออกไซด์เพื่อสังคมได้ตามที่กล่าวมา ผมก็คาดหวังในโครงการนี้เป็น อย่างมาก อยากให้ช่วยดำเนินการโครงการนี้ให้ประสบความสำเร็จและคาดหวังให้โครงการนี้ได้กลายเป็นหนึ่งในกิจกรรมที่ช่วยลดคาร์บอนไดออกไซด์ในวงกว้างได้”

โครงการนี้เป็นก้าวสำคัญในการสร้างวัสดุคอนกรีตที่ตอบโจทย์ด้านสิ่งแวดล้อมและการใช้งานในหลากหลายโครงสร้าง เช่น งานสาธารณูปโภค โครงการที่พักอาศัยและอุตสาหกรรม โดย SCG ตั้งเป้าให้ประเทศไทยก้าวสู่การเป็นศูนย์กลางวัสดุก่อสร้างคาร์บอนต่ำระดับภูมิภาค ซึ่งนวัตกรรมนี้สะท้อนถึงความมุ่งมั่นในการพัฒนาเทคโนโลยีเพื่ออนาคต และเสริมศักยภาพอุตสาหกรรมก่อสร้างไทยให้สามารถปรับตัวสู่ยุคของความยั่งยืน  อย่างแท้จริง