เอสซีจี ผู้นำด้านวัสดุก่อสร้างและโซลูชันครบวงจร ได้เปิดเผยแนวโน้มพฤติกรรมผู้บริโภคและเทรนด์วัสดุก่อสร้างที่น่าจับตามองในช่วงครึ่งปีหลัง และคาดการณ์เทรนด์ที่อยู่อาศัย ปี 2025 โดยเน้นความสำคัญของวัสดุที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์และความยั่งยืนที่เพิ่มมากขึ้นในกลุ่มผู้บริโภค นวัตกรรมที่ทันสมัยร่วมกับการออกแบบที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมจึงกลายเป็นจุดขายหลักในตลาดวัสดุก่อสร้าง

แนวโน้มวัสดุก่อสร้างที่ตอบโจทย์การอยู่อาศัยยุคใหม่

วัสดุก่อสร้างยุคใหม่ไม่ได้ถูกออกแบบมาเพียงเพื่อตอบสนองความสวยงามและความแข็งแรง แต่ยังต้องตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไปในยุคที่ให้ความสำคัญกับคุณภาพชีวิต ความยั่งยืน และเทคโนโลยีที่ช่วยเพิ่มความสะดวกสบาย จากการวิเคราะห์ข้อมูลยอดขายในแคมเปญใหญ่ “111 ปี เอสซีจี จับแจกแตกทุกเดือน” พบว่า 5 อันดับสินค้าและบริการที่ได้รับความนิยมสูงสุด ได้แก่

1)   หลังคาเซรามิก EXCELLA CRESTA - ยกระดับด้วยเทคโนโลยี Digital Printing Design สร้างสรรค์ลวดลายที่เป็นเอกลักษณ์ไม่ซ้ำใคร หรือหลังคาเมทัลรูฟ ที่มาพร้อมเทคโนโลยี NoiseTECH ลดเสียงรบกวนจากฝนและลม ช่วยให้บ้านเงียบสงบยิ่งขึ้น

2)   บริการมุงหลังคา - บริการครบวงจรจากทีมงานมืออาชีพ เป็นบริการครบวงจรที่มอบความสะดวกสบายให้กับผู้ที่ต้องการสร้างหรือปรับปรุงหลังคาบ้าน โดยทีมงานมืออาชีพของเอสซีจีจะคอยดูแลตั้งแต่ขั้นตอนการออกแบบ การเลือกใช้วัสดุ และการติดตั้ง จนถึงการส่งมอบงานที่เสร็จสมบูรณ์

3)         ผนังสมาร์ทบอร์ดไม้ฝา - ไม้ฝาลายไม้ธรรมชาติ สีสวยทนนาน หรือผนังตกแต่งรุ่นโมดิน่า โมดิชยู และโมดิชวี ที่ช่วยสร้างมิติให้ผนังด้วยเทคโนโลยี X-TRUSION ป้องกันเสียง ความร้อน และไฟ

4)   ปูนตราเสือ - ปูนซีเมนต์ได้รับความนิยมสูงสุดและเชื่อถือมากที่สุดในประเทศไทย ปูนซีเมนต์สำเร็จรูปสำหรับงานก่อทั่วไป งานฉาบทั่วไป งานฉาบละเอียด งานเทปรับพื้น งานซ่อมอเนกประสงค์ เป็นต้น ช่วยลดขั้นตอนการทำงานของช่างรับเหมา ด้วยคุณภาพ มาตรฐานและขนาดเม็ดทรายที่เหมาะสมต่อการใช้งาน

5)         สินค้าแลนด์สเคป - ช่วยสร้างสวนสวยงามและเป็นธรรมชาติได้อย่างง่ายดาย ไม่ว่าจะเป็นการปูพื้น ปูผนัง หรือตกแต่งสวน ผลิตภัณฑ์ของเอสซีจีก็ตอบโจทย์ความต้องการได้อย่างครบครัน

พฤติกรรมผู้บริโภคปรับเปลี่ยน มองหาความยั่งยืน เหตุผลที่สินค้าและบริการเหล่านี้ได้รับความนิยม เกิดจากผู้บริโภคให้ความสำคัญกับสุขภาพและสิ่งแวดล้อมมากขึ้น โดยมองหาวัสดุก่อสร้างที่เข้ากับไลฟ์สไตล์และใกล้เคียงธรรมชาติมากที่สุด รวมถึงการเลือกวัสดุที่ปลอดภัยต่อสุขภาพ ไม่มีสารพิษตกค้าง และสามารถรีไซเคิลได้ ความนิยมในนวัตกรรมวัสดุก่อสร้างยังส่งผลให้ยอดขายสินค้าทั้ง 5 ประเภททะลุเป้า 200 ล้านบาทในช่วงเวลาอันสั้น สะท้อนถึงแนวโน้มตลาดที่มุ่งเน้นไปสู่ผลิตภัณฑ์ที่คุ้มค่าและยั่งยืน

เทรนด์แต่งบ้านในปี 2025 การตกแต่งบ้านในปี 2025 เป็นการผสมผสานระหว่างความทันสมัยและการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม เพื่อตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงของพฤติกรรมผู้บริโภคและความต้องการด้านคุณภาพชีวิต โดยมีแนวโน้มสำคัญที่กำลังได้รับความสนใจดังนี้

1.ความยั่งยืนและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

เลือกใช้วัสดุก่อสร้างจากธรรมชาติ พร้อมกับระบบแสงสว่างและพลังงานทดแทน เช่น การติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์ หรือหลอดไฟ LED เพื่อลดการใช้พลังงานไฟฟ้า และการออกแบบบ้านให้มีช่องแสงธรรมชาติมากขึ้น เพื่อประหยัดพลังงานและลดค่าใช้จ่าย และการออกแบบที่คำนึงถึงการระบายอากาศที่ดี ช่วยลดการใช้เครื่องปรับอากาศ และสร้างความสบายในการอยู่อาศัย

2. สร้างพื้นที่ทำงานและเรียนรู้ภายในบ้าน

การออกแบบพื้นที่สำหรับทำงานและการเรียนออนไลน์ โดยปัจจุบันหลาย ๆ บ้านกลายเป็น Home office ดังนั้นจึงนิยมสร้างพื้นที่ทำงานภายในบ้านให้เป็นสัดส่วนมากขึ้น นอกจากนี้ห้องเรียนออนไลน์ พื้นที่สำหรับเด็ก ๆ ก็สำคัญ เพื่อให้เด็กมีสมาธิในการเรียน ที่ขาดไม่ได้คือมุมพักผ่อนส่วนตัวภายในบ้าน เพื่อให้ผ่อนคลายและลดความเครียด

3. เลือกใช้เทคโนโลยีภายในบ้าน

ระบบอัจฉริยะต่าง ๆ ทั้งควบคุมแสงสว่าง อุณหภูมิ และความปลอดภัยภายในบ้าน หรือการเลือกใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าที่สามารถเชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ต เพื่อเพิ่มความสะดวกสบายในการใช้งาน เป็นเทรนด์ที่บ้านของคนรุ่นใหม่นิยมเป็นอย่างมาก

4. การออกแบบที่เน้นความเรียบง่ายและฟังก์ชัน

บ้านยุคใหม่นิยมเฟอร์นิเจอร์มัลติฟังก์ชัน เพื่อการใช้งานได้หลากหลาย และประหยัดพื้นที่ช่วยเรื่องการจัดเก็บที่เป็นระเบียบ เพื่อให้บ้านดูเป็นระเบียบเรียบร้อย เน้นการออกแบบที่เรียบง่าย ใช้โทนสีกลาง ๆ เพื่อสร้างบรรยากาศที่สงบและผ่อนคลาย

ผลิตภัณฑ์ใหม่ที่น่าจับตามอง

การพัฒนาผลิตภัณฑ์ก่อสร้างในยุคใหม่มุ่งเน้นทั้งเรื่องดีไซน์ที่สวยงาม ฟังก์ชันการใช้งานที่ครบครัน และความยั่งยืนที่ช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งผู้บริโภคมักจะเลือกใช้วัสดุที่สามารถปรับเปลี่ยนได้ตามความต้องการของผู้ใช้งาน เช่น ผนังที่สามารถเปลี่ยนสีได้ หรือพื้นที่สามารถปรับเปลี่ยนฟังก์ชันได้ ก็จะเป็นอีกหนึ่งเทรนด์ที่น่าจับตามอง โดยเฉพาะกลุ่มสินค้าที่เน้นเรื่องสิ่งแวดล้อม มีโอกาสเติบโตสูงในปี 2025 นอกจากนี้เอสซีจีขอนำเสนอผลิตภัณฑ์ใหม่ที่สะท้อนถึงแนวโน้มนี้อย่างชัดเจน โดยเฉพาะในกลุ่มวัสดุที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ผู้บริโภคยุคใหม่ ได้แก่

·กระเบื้องหลังคา SCG รุ่น NEUSTILE CEDAR LOOK กระเบื้องคอนกรีตที่ออกแบบอย่างพิถีพิถันเพื่อถ่ายทอดความงดงามของลวดลายไม้สนซีดาร์ธรรมชาติได้อย่างสมบูรณ์แบบ ไม่เพียงแค่สวย แต่ยังคงคุณค่าแห่งธรรมชาติในแบบที่ยั่งยืน และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม อีกทั้งแข็งแรง ทนทาน ใช้งานยาวนาน เพราะผลิตจากวัสดุคอนกรีตคุณภาพสูง เพิ่มความทนทานต่อสภาพอากาศทุกฤดูกาล 

 ·ผลิตภัณฑ์ Brand "Verdi" วัสดุตกแต่งพื้นไม้คุณภาพสูงจากไม้ไผ่ ถือเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่ตอบโจทย์ทั้งความสวยงามและความยั่งยืน ไม้ไผ่ที่นำมาใช้มีคุณสมบัติเด่นคือเติบโตเร็ว ทดแทนทรัพยากรได้ไว และลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมในระยะยาว

เอสซีจีมุ่งมั่นพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคในยุคที่เน้นคุณค่าแห่งธรรมชาติ และการใช้ทรัพยากรอย่างรู้คุณค่า เพื่อขับเคลื่อนอุตสาหกรรมก่อสร้างให้เติบโตอย่างยั่งยืนในอนาคต